ก่อนเดินทางไปฟาร์มสัตว์ปีก เราติดฝนอยู่หน้าโรงอาหาร และเมื่อสักพักฝนหยุด ก็เดินไปหลังมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ไปถามลุงยาม ว่าฟาร์มไก่ไปทางไหน ลุงยามก็บอกว่าไปอีกไกลประมาณ 2 กิโลเมตร และลุงยามก็ให้คำแนะนำว่าให้เราติดรถไปกับคุณลุงรถขนอาหาร สักพักลุงรถขนอาหารผ่านมาพอดี ด้วยความใจดีของคุณลุง จึงให้เราติดรถไปด้วยในระหว่างทางเราก็คุยกับคุณลุงเกี่ยวกับงานที่เรากำลังจะไปศึกษา เมื่อถึงฟาร์มพวกเราก็ขอบคุณ คุณลุง แต่พอเราไปถึงฟาร์ม เราก็ไม่เจอใครอยู่ที่ฟาร์ม เลยคิดที่จะกลับ แต่แล้วก็มีอาจารย์ ครรชิต ผ่านมาพอดี เราจึงเข้าไปถามเรื่องการเพาะเลี้ยงไก่พันธ์ ท่านจึงพาเราไปดูฟาร์มไก่ของมหาลัย และให้ข้อมูลเราเป็นอย่างดี พอตอนเราจะกลับ ก็คิดกันอยู่ว่าจะเดินกลับ พอเราเดินมาสักพัก ก็เจอรถกะบะผ่านมา จอดถามเราว่าจะไปไหน เราก็บอกว่าจะเดินไปมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เขาจึงให้ติดรถไปด้วย ระหว่างทางคุยกันในรถ ได้ความว่า ท่านเป็นอาจารย์ สัตวศาสตร์สอนในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พอมาถึงมหาวิทยาลัยเราก็ขอบคุณท่าน เป็นอย่างมาก
ในวันที่เราไปดูฟาร์มไก่นั้นเราได้ยินเสียงเพลง ในฟาร์มเราจึงแปลกใจว่าทำไมถึงเปิดเพลง เราจึงถามอาจารย์ว่าทำไมถึงเปิดเพลงให้ไก่ฟัง อาจารย์ก็บอกว่า เพลงไม่ให้ไก่ตกใจ และชินกับเสียงคน ในขณะที่เรากำลังฟังอยู่นั้นเป็นเพลงแนวลูกทุ่ง เราจึงถามต่อไปอีกว่าทำไมต้องเป็นเพลงแนวลูกทุ่ง ท่านก็บอกว่าเพราะไก่ฟังมาตั้งแต่ยังเล็ก
ตอนที่เราไปดูสถานที่นั้นเราได้เห็น จะมีรั้วลวดเล็กกั้นไว้ เราจึงแปลกใจมาก และถามอาจารย์ ว่าทำแบบนี้เพราะอะไร ท่านก็บอกว่า แยกสำหรับไก่ที่เป็นโรคและไก่พิการไว้อีกที่หนึ่ง
ในวันที่เราไปนั้นเราได้เห็นความมีน้ำใจของลุงยาม ลุงคนขับรถส่งอาหาร และอาจารย์ คณะสัตวศาสตร์มาก เพราะพวกเราไปโดยไม่ได้นัดใครไว้ ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ได้ความรู้และได้เห็นความมีน้ำใจต่อกัน
บล็อกแรกที่เราไปเสนออาจารย์นั้น อาจารย์ให้ไปแก้ไขคำพูด ให้ดีกว่าเดิมเพื่อความสนุกของผู้อ่านบล็อก และแนะนำในการอัพเดจบล็อกให้มีเนื้อหาน่าอ่าน แปลกใหม่ในการนำเสนอ
อะ ฮืมๆ
ได้ความ รู้ มาก มาย
เลย คร๊าฟฟฟฟ
เพิ่ม รอย หยักในสมอง
คริกๆ
กะลังรุ้นะเนี้ย ไก่เปนแบบนี้
ได้ความรุ้ มากขึ้น เลย อะ
บอดนี้ ดีๆๆ จิงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุง ที่ให้ ความรุ้ นะงืม
น่าจะลองให้ไก่ฟังเพลงสากลดูนะคะ อาจจะกลายเป็นไก่ KFC ฮ่าๆๆ