การฝึกตนให้สันโดษ
• พิจารณาความแก่ เจ็บ ตาย
• พิจารณากฎแห่งกรรม
• ให้ทาน
• รักษาศีล
• เจริญอานาปานสติและเมตตาภาวนา
1. พิจารณาความแก่ ความเจ็บ ความตายอยู่เป็นประจำ
เพราะเป็นความจริงของชีวิตที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ ไม่ว่าจะดิ้นรนแสวงหาเงินทอง สะสมทรัพย์สมบัติไว้มากเพียงใด วันหนึ่งเราก็ต้องพลัดพรากจากสมบัติที่เราหาไว้ ทรัพย์สมบัติเป็นเครื่องมือที่ช่วยเราในการดำเนินชีวิต เป็นทรัพย์ภายนอก เมื่อตายแล้วก็ไม่สามารถนำติดตัวไปได้ เมื่อพิจารณาแบบนี้บ่อยๆ
ความโลภในทรัพย์สมบัติก็จะลดลง มุ่งหน้าทำความดี คือให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา
เป็นการสะสมอริยทรัพย์ ซึ่งหมายถึงคุณความดี 7 ประการ ประกอบด้วย
1. ศรัทธา
ความเชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ ประกอบด้วย ศรัทธา 4 ประการคือ
- กรรมศรัทธา เชื่อในเรื่องกรรมว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม กรรมเป็นผู้จำแนกสัตว์
- วิบากศรัทธา เชื่อว่าผลดีมาจากเหตุดี ผลชั่วมาจากเหตุชั่ว ดังนั้น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว
- กรรมมัสสกตาศรัทธา เชื่อว่าสัตว์มีกรรมเป็นของตนเอง เมื่อทำกรรมอันใดไว้ จะหนีผลของกรรมนั้นไม่พ้น
- ตถาคตโพธิศรัทธา เชื่อในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
2. ศีล คือการรักษากาย วาจา ใจ ให้เรียบร้อย
3. หิริ คือความละอายต่อบาป ทุจริต
4. โอตตัปปะ คือความเกรงกลัวต่อบาป
5. พาหุสัจจะ คือความเป็นผู้ได้ยินได้ฟังธรรมมาก และจำธรรมเหล่านั้นได้อย่างดี รู้ศิลปวิทยามาก
6. จาคะ รู้จักสละ แบ่งปันสิ่งของตนให้แก่คนที่ควรได้
7. ปัญญา รอบรู้ว่าสิ่งใดเป็นประโยชน์ และมิใช่ประโยชน์
อริยทรัพย์นี้ดีกว่าทรัพย์สินเงินทอง เพราะเป็นทรัพย์ภายในที่เราพึ่งพาอาศัยได้
ไม่เพียงแต่ชาตินี้ แต่อาศัยได้หลายภพ หลายชาติต่อๆ ไป
2. พิจารณากฎแห่งกรรม
ให้หมั่นพิจารณาอยู่เสมอว่า
เรามีกรรมเป็นของตน
เรามีกรรมเป็นผู้ให้ผล
เรามีกรรมเป็นแดนเกิด
เรามีกรรมเป็นผู้ติดตาม
เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
ไม่ว่าทำกรรมใดไว้ เราจะต้องเป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้นๆ สืบไป มื่อเข้าใจกฎแห่งกรรมจริงๆ แล้ว เราจะสามารถทำใจและรักษาใจดีไว้ได้ในทุกสถานการณ์ มีความสุขใจ พอใจกับชีวิตที่เป็นอยู่ปัจจุบัน
พอใจในการสร้างความดี ละความชั่ว ยินดีในการให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา
3. การให้ทาน
หมั่นให้ทานอยู่เสมอ อานิสงส์ของการให้ทาน ที่ผู้ให้จะได้รับทันที คือ ได้ลิ้มรสความสุขอันเกิดจากการให้ การสละและแบ่งปันเพื่อความสุขแก่ผู้อื่น การให้ทานเป็นการฆ่าความตระหนี่ ขี้เหนียว
ความโลภในจิตใจไปทีละน้อย มองเห็นคุณค่าแห่งความสุขจากการคิดให้ แล้วความสันโดษก็จะเกิดขึ้น
4. การรักษาศีล
ตั้งใจในการรักษาศีล 5 ให้สมบูรณ์ ศีล 5 เป็นกรอบทำให้เราไม่เบียดเบียนผู้อื่น และหาโอกาสในการรักษาศีล 8 เพื่อฝึกหัดขัดเกลาจิตใจ ผู้ที่รักษาศีล 8 ได้จะช่วยให้เกิดความสันโดษในหลายๆ เรื่อง
เช่น เรื่องกามคุณ เรื่องอาหาร การแต่งกาย เป็นต้น ทำให้มองเห็นว่า แม้กินง่าย นอนง่าย อยู่ง่าย ก็มีความสุขได้
5. การเจริญภาวนา
ให้หมั่นเจริญอานาปานสติและเมตตาภาวนาอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะเวลาก่อนนอน และตอนเช้า
ก่อนที่จะเริ่มภารกิจอย่างอื่น
เมตตา
|
ไม่มีความเห็น