คนจริงย่อมนำมาซึ่งปัญญาที่จริงแท้
จิตที่จริงแท้ย่อมนำมาซึ่งปฎิปทาที่แท้
ครูและศิษย์ที่แท้ย่อมนำมาซึ่งปัญญาญานที่แท้
นาโรปะสิทธาผู้ยิ่งใหญ่นำปฎิปทาอันปราศจากราคี
มาสู่สายธรรมปฎิบัติ
ทฤษฎีคือหัวที่ว่างเปล่าไร้สมอง
นักตรรกะที่ได้แต่คุยฟุ้งเป็นเพียงนกแก้วนกขุนทอง
นักจิตวิทยาที่ชาญฉลาดกลับต้องกลืนน้ำลายตัวเอง
ศิลปินมาดเท่ ผลิตได้แต่งานขยะ
ณ สถาบันอันรุ่งโรจน์แห่งนี้ เราเป็นอิสระจากความฟุ้งซ่านใดๆ
ขอให้เราจงยินดีในสัมมาทิฎฐิ
ขอเราจงสรรเสริญในปฎิปทาที่แท้
ขอเราจงปิติ
อาทิตย์อุทัยอันเป็นนิรันดร์ได้บังเกิดแล้ว
เพื่อสายธรรมปฎิบัติ ข้าขอน้อมรับด้วยความปราโมทย์
บทกวีที่ชื่อว่า " สีหนาทบันลือ " เขียนโดย เชอเกียม ตรุงปะ ปี 1977
ที่มา จากหนังสือ " ชีวิตและญานทัสนะของตรุงปะ คุรุบ้าผู้ปรีชาญาน "
มาช่วยยืนยันความน่าศึกษาธรรมจากหนังสือเล่มนี้ครับ
เพิ่งมีโอกาสซื้อ Ocean of Dhamma ของท่านเชอเกียมตรุงปะ เป็นภาษาอังกฤษ
อ่านรู้บ้างไม่รู้บ้างแต่จะพยายามครับ
หวังว่าจะมีการแปลในอนาคตนะครับ
สวัสดีค่ะคุณ Phornphon
กล่าวได้เพียงว่า บทกวีบทนี้ของท่านตรุงปะ โดนใจ จริงๆค่ะ