ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการห้องสมุดมีชีวิตเพื่อส่งเสริมการอ่าน โรงเรียนบ้านห้วยมะไฟ
ผู้ศึกษาค้นคว้า นายกิตต์ประพัฒน์ พิรุณห์
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านห้วยมะไฟ อำเภอลำปลายมาศ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการชำนาญการ โรงเรียนบ้านห้วยมะไฟ อำเภอลำปลายมาศ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1
ปีที่พิมพ์ 2551
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีความมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้าเพื่อประเมินโครงการห้องสมุดมีชีวิตเพื่อส่งเสริมการอ่าน โรงเรียนบ้านห้วยมะไฟ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 โดยใช้รูปแบบการประเมิน 360 องศา ใน 2 ประเด็น คือ 1) ผลการดำเนินงานโครงการ
ห้องสมุดมีชีวิตเพื่อส่งเสริมการอ่านและ 2) กิจกรรมห้องสมุดมีชีวิตเพื่อส่งเสริมการอ่าน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ได้แก่ ครูและคณะกรรมการโครงการจำนวน 6 คน นักเรียน โรงเรียนบ้านห้วยมะไฟ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ปีการศึกษา 2550 จำนวน 91 คน รวมทั้งสิ้น 97 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลมี 3 ประเภท ได้แก่ 1) แบบสัมภาษณ์ ใช้สัมภาษณ์ผู้ร่วมศึกษาค้นคว้า ได้แก่ ครู คณะกรรมการ 2) แบบสอบถาม ใช้สอบถามนักเรียนและคณะกรรมการโครงการ ครู 3) แบบสังเกต ใช้สังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาปรากฏผลดังนี้
1. ผลการดำเนินงานและผลการประเมินผลประเมินโครงการห้องสมุดมีชีวิตเพื่อส่งเสริมการอ่าน โรงเรียนบ้านห้วยมะไฟ สภาพก่อนดำเนินการศึกษาค้นคว้าคือ นักเรียนไม่ค่อยได้อ่านหนังสือจากห้องสมุด และนักเรียนไม่มีนิสัยรักการอ่าน แต่หลังจากดำเนินการศึกษาค้นคว้า มีผลเกิดขึ้นดังนี้ คือ
1.1 นักเรียนและครูได้รับบริการหนังสือจากห้องสมุดได้อย่างทั่วถึง นักเรียนมีความสนใจในการอ่าน และนักเรียนมีนิสัยรักการอ่านมากขึ้น
1.2 นักเรียนได้รับความสุขและความบันเทิงจากการร่วมห้องสมุดมีชีวิตเพื่อส่งเสริมการอ่านและเห็นความสำคัญของการอ่าน
1.3 เมื่อพัฒนาการดำเนินการห้องสมุดมีชีวิตเพื่อส่งเสริมการอ่าน นักเรียนมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง คือ นักเรียนได้อ่านหนังสือและชอบอ่านหนังสือมากขึ้น นักเรียนมีความสุขที่อ่านหนังสือได้โดยง่ายซึ่งมีให้อ่านในที่ต่างๆ ของโรงเรียน หนังสือในห้องสมุดเดิมไม่ค่อยได้ใช้ก็มีการประโยชน์ เก็บไว้ในห้องสมุดและในตู้ถูกนำมาบริการให้นักเรียนได้อ่านอย่างคุ้มค่า นักเรียนมีลักษณะนิสัยชอบหยิบจับหนังสือเล่มนั้นเล่มนี้มาดู มาอ่านยามว่าง ทั้งที่ที่ครูไม่ได้บอกหรือสั่งให้ค้นคว้า นอกจากนักเรียนจะมีพฤติกรรมการชอบอ่านหนังสือ นักเรียนจึงมีความเชื่อมั่นในตนเองสูงขึ้น กล้าพูดกล้าแสดงออกและมีความสุขและสามารถนำความรู้ที่ได้จากการอ่านนำเสนอในกิจกรรม360 องศา น่ารู้ ในรายการต่างๆ ทำให้บรรยากาศในโรงเรียนสดชื่น มีเสียงเพลงที่ไพเราะ มีเสียงอ่านข่าว อ่านภาษาไทย อ่านบทความ หรือสาระน่ารู้ หรือรายการเสียงตามสายอื่นๆ นอกจากนั้น นักเรียนยังได้ร่วมกิจกรรมการอ่านวันละนิด ชีวิตแจ่มใส ซึ่งทำให้นักเรียนได้รับทั้งความรู้และความบันเทิงจากการที่ครูและนักเรียนได้ร่วมดำเนินการเพื่อพัฒนางานบางงานส่งเสริมการอ่านอย่างต่อเนื่อง นักเรียนมีการพัฒนาการอ่านของตนเองมากขึ้น และส่งผลให้การพัฒนาการดำเนินงานห้องสมุดมีชีวิตเพื่อส่งเสริมการอ่านของโรงเรียนประสบผลสำเร็จอย่างน่าพอใจ
2. นักเรียนมีส่วนร่วมใน กิจกรรมห้องสมุดมีชีวิตเพื่อส่งเสริมการอ่านในโรงเรียนบ้านห้วยมะไฟ ทั้ง 8 กิจกรรมโดยรวมมีส่วนร่วมอยู่ระดับมาก
3. ครูมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการห้องสมุดมีชีวิตเพื่อส่งเสริมการอ่านโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.43) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงตามค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย ด้งนี้ ด้านปัจจัย รองลงมาคือ ด้านผลผลิต ด้านกระบวนการ และด้านบริบท
4. นักเรียนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการห้องสมุดมีชีวิตเพื่อส่งเสริมการอ่านโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.37) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงตามค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย ด้งนี้ ด้านผลผลิต รองลงมาคือ ด้านกระบวนการ ด้านปัจจัยและด้านบริบท
5. นักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยมะไฟมีนิสัยรักการอ่านโดยรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า การปฏิบัติอยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยนักเรียนมีความสนใจในการอ่านหนังสือพิมพ์ ยืมหนังสือไปอ่านที่บ้าน เข้าห้องสมุดค้นคว้าหาความรู้มีส่วนร่วมในกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน
ไม่มีความเห็น