วันก่อนผมเล่าถึงการมาสาธิตการทำน้ำหมักจุลินทรีย์ ๗ ชนิดก็เล่าได้สองชนิดก็ตาลายเสียก่อนอายุมากพิมพ์ก็แบบจิ้มเอา ก็ขอเล่าต่อนะครับ ผมไปสายก็เลยไม่ทันกลุ่มแรกที่เตรียมพืชสีเขียวและสดที่หมักน้ำชีวภาพชนิดที่ ๑ อีกมุมหนึ่งของใต้ถุนบ้านที่ปรับมาเป็นเวทีสาธิต มีพี่ผู้หญิงสองสามคนกำลังหั่นกล้วยสุก มะม่วงสุก กล้วยสุก และมะไฟสุก เพื่อทำนำหมักชนิดที่ ๒ จากผลไม้สุก รู้สึกว่าจะเป็นกลุ่มที่เตรียมเสร็จเร็วกว่าเพื่อนแล้วต้องไปช่วยกลุ่มแกะหอยต่อ ในตอนท้ายที่สาธิตรวมกันนั้นมีขั้นตอนที่อาจารย์แนะนำดังนี้
นำวัสดุที่เตรียมแล้วมาเรียงไว้รอการสาธิตตั้งแต่ชนิดที่ ๑ ถึง ๗
การผลิตเชื้อจุลินทรีย์ ๓ ประเภท ๗
ชนิด ๆที่ ๑ น้ำหมักเชื้อจุลินทรีย์จากพืชสีเขียวและสด(Fermental Plant Juice-FPS)
๑.ข้อควรพิจารณา
เลือกเอาส่วนยอดดีที่สุด(ผักบุ้ง,หน่อไม้,หน่อกล้วย) แต่ที่ใช้บ้านเราหาง่ายได้แก่หน่อกล้วย,แตงกวาสีเขียว,เปลือกแตงโม
เวลาเก็บให้เก็บตอนเช้า/ก่อนตะวันขึ้น เพราะเป็นช่วงที่ยอดกำลังจะเริ่มสังเคราะห์แสงนำเอ็นไซม์ต่างๆมาสะสมมากมาย
เลือกเอาส่วนที่เขียวที่สุด
ห้ามล้างน้ำ
๒. วัสดุที่ใช้
ภาชนะปากกว้าง
น้ำตาลทรายแดง
กระดาษปรู๊ฟ/เชือก
วัสดุมีสีเขียว
๓.อัตราการใช้ ๗:๓:๑ ได้แก่ วัสดุพืชสีเขียว ๗ กก.น้ำตาล ๓ ก.ก.เกลือ ๑ กำมือ
๔.วิธีการหมัก/
· หั่นวัสดุพืชสีเขียว ขนาด ๒-๔ เซฯติเมตร
· แบ่งน้ำตาลออกเป็น ๒ เท่าแบ่งน้ำตาลออกเป็นสองส่วนเท่ากัน
· เอาน้ำตาลทรายแดงส่วนที่ ๑ แล้วคลุกเบา ใช้ฝ่ามือสอดเบาๆ ใช้ฝ่ามือสอดพลิกกลับกลับมา
· นำไปบรรจุในภาชนะปากกว้าง
· นำของหนักห่อหุ้มด้วยพลาสติก ทับไว้ กดให้แน่น ทิ้งไว้ ๑๒ ชั่วโมง
· หุ้มด้วยกระดาษกรวย
· เอาน้ำตาลทรายส่วนที่ ๒ โรยหน้า และให้ทั่วและเกลือ หนึ่งกำมือข้าว เอาของหนักทับไว้
· เอากระดาษปิด มัดเชื่อก
· ทิ้งไว้ ๘-๑๐ วัน(โดยให้อยู่ในร่ม
๕.รินใส่ขวดให้ได้ ๒/๓ ของขวด ปิดฝาเก็บไว้ในที่ร่ม
๖.ข้อบ่งใช้
· ใช้อัตรา ๒ ซ้อนโต๊ะต่อน้ำ ๑๐ ลิตร ใส่ ราด พ่นในวันที่ ๓-๕-๗ของเดือน(๑๒๓๔๕๖๗๘๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕
· ราดลงดินห่างจากต้น ๑ คืบ ทับด้วยใบไม้แห้งฯลฯ ให้เกิดความชื้น
· น้ำไปใช้ในระยะเวลา ๔๕ วันดีที่สุด ถ้าเปิดใช้แล้ว
· สามรถเก็บไว้ได้ ๓ เดือน ถ้าปิดฝาไม่สนิท
· ทำปู๋ยหมัก
· ผสมน้ำดื่มสัตว์
· ผสมอาหารสัตว์
การผลิตเชื้อจุลินทรีย์ ๓ ประเภท ๗ ชนิด
ชนิดที่ที่ ๒ น้ำหมักเชื้อจุลินทรีย์จากผลไม้สุก(Fermental Fruit Juice:FFJ)
ข้อควรพิจารณา ผลไม้ต้องสุก ควรใช้หลายๆชนิดรวมกัน อย่างน้อยสามชนิด ห้ามล้างน้ำ
วัสดุที่ใช้ ที่ดีที่สุด
อัตราการใช้ ผลไม้สุก ๑ ส่วน ต่อ น้ำตาลทราย ๑ ส่วน
วิธีทำ/หมัก
ข้อบ่งใช้
กลุ่มถัดไปไกล้ๆกับที่หันผลไม้ก็กำลังขมักขเม้นหั่นปูเลยหรือภาคกลางเรียกไพล หรือวานไฟของพี่น้องอีสาน เตรียมเสร็จในเวลาไกล้เคียงกัน เอาไปเรียงเตรียใว้ทำน้หมักชนิดที่สามครับ
การผลิตเชื้อจุลินทรีย์ ๓ ประเภท ๗ ชนิด
ชนิดที่ที่ ๓ การทำฮอร์โมนพืชสมุนไพร(Orient Herb Hormone Nutrial:OHN)
ข้อควรพิจารณา สามารถทำได้อีก ๕ ครั้ง หลังจากทำครั้งแรกรวม ๖ ครั้ง
วัสดุที่ใช้(อย่างใดอย่างหนึ่งรวมกันไม่ได้)
อัตรา วัสดุสมุนไพร ๑ กิโลกรัม ต่อ เหล้าหรือเบียร์ ๒ ขวด ต่อ น้ำตาลทรายแดง ครึ่งกิโลกรัม
เหล้าขาว ๔๐ ดีกรี ๒ ขวด
วิธีทำ/หมัก
ข้อบ่งใช้
นำวัสดุที่เตรียมแล้วมาเรียงไว้รอการสาธิตตั้งแต่ชนิดที่หนึ่งถึงเจ็ด
การคลุกหอยเชอรี่กับน้ำตาลทรายแดง
การผลิตเชื้อจุลินทรีย์ ๓ ประเภท ๗
ชนิด ๆที่ ๗ น้ำหมักเชื้อจุลินทรีย์จากเศษปลา หอย ปู กุ้ง รกหมู ไส้เดือน อย่างใดอย่างหนึ่งผสมกันไม่ได้(Fermental Amino Acid-FAA)
กลุ่ม แรกที่เราเห็นคือทุบหอยเชอรี่เอาแต่ตัวไม่เอาเปลือก (เปลือกเอาไปตากแห้งแล้วบดผสมในสูตรอาหารสัตว์ไม่ต้องทิ้ง)จะใช้สิบกิโลทำท่าจะไม่ได้เพราะหอยตัวเล็ก สรุปตอนท้ายได้แค่ห้ากิโลก็เอามาคลุกกับนำตาลทรายแดงห้ากิโล ตามอัตรา ๑ต่อ๑ การคลุกจะใช้เวลานานนานเกือบ๒๐นาทีเพื่อให้เข้ากันดีกลิ่นคาวหอยจะหมดไป ถึงเอาไปบรรจุในถัง ปิดผาให้สนิท ให้มีที่ว่างในถังด้วย ๑ใน๓ ให้คนทุกวันวันละ๑-๒ครั้งเพราะถ้าไม่คนจะเป็นไข หลังคนปิดฝาใหสนิททุกครั้ง ทิ้งไว้๑๕วัน รินใส่ขวดให้ได้ ๒/๓ของขวด ปิดฝาเก็บไว้ที่ร่ม แล้วให้เรียกว่า โปรตีน ข้อบ่งใช้ ใช้อัตรา ๒ ซ้อนต่อน้ำ ๑๐ ลิตร พ่นทางใบ วันที่ห่างกัน ๓-๕-๗วันต่อเดือน ราดดินห่างจากต้นพืช ๑ คืบ ทับด้วยใบไม้แห้งต่างๆให้เกิดความชื้น ควรใช้ให้หมดภายใน ๔๕ วัน กากที่เหลือผสมรำอ่อนให้สัตว์กิน กาก๑ก.ก.ต่อรำอ่อน๑๐ ก.ก.ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันราดด้วยน้ำหมัก๗ชนิดปั้นเป็นก้อนให้สัตว์น้ำจำพวก กบ ปลาดุก ตะพาบน้ำ จระเข้ กิน ทำปุ๋ยหมัก ผสมน้ำดื่มให้สัตว์ ผสมอาหารสัตว์
เป็นสิ่งละอันพันละน้อย
ที่ละเอียดอ่อนเหมือนกันเนาะ
คนสมัยก่อนก็ทำอย่างนี้มาก่อนนะ
แต่คนสมัยใหม่ไม่เข้าใจเลยคิดว่าโบราณ
และละเลยเพิกเฉยปล่อยให้สูญหายไป
หารู้ไม่ว่ามีคุณค่ามาก
ขอบคุณที่เก็บมาอบรมสอนสืบต่อไป
อย่างน้อยก็ฉุดรั้งช่วยโลกเราให้ร้อนช้าลงเนาะ
ขอบคุณพี่เก็จถะหวาครับที่มาเสนอแนะครับ
อยากทราบว่าน้ำหมักหอยเชอรี่ไม่ต้องใส่หัวเชื้อจุลินทรีย์หรือครับ
เเล้วถ้าให้หมูกินเพื่อเพิ่มโปรตีนเราจะให้กินอย่างไรครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้
อีกเรื่องนึงครับคือเรื่องกากน้ำตาลสามารถใช้เเทนน้ำตาลทรายได้หรือเปล่าครับเพราะราคาจะต่างกันมากเพราะใช้เยอะครับ
เเล้วน้ำหมักหอยเชอรรี่เราจะใช้น้ำหมักของมันผสมให้หมูกินได้หรือเปล่าครับหรือใช้เเค่เนื้อของหอยครับ
เรียนคุณพลายเพชร ขอขอบคุณที่ติดตามครับ ขอตอบคำถามดังนี้
๑.ให้สัตว์กินโดยน้ำน้ำหมักที่ได้ผสมในอาหารอัตราส่วน๒ซ้อนต่อน้ำ๒๐ลิตร
๒.กากน้ำตาลก้อแทนกันได้แต่ประสิทธิภาพก็จะด้อยกว่าเพราะว่าเราหมักแบบไม่มีหัวเชื้อเร่ง หากว่าหมักระยะสั้นๆกระบวนการหมักไม่สมบูรณ์ครับหากจะใช้ควรหมักนานสักสามเดือนจะดีมากครับ
๓.เราต้องบีบคั้นเอาแต่น้ำมาใช้ในขบวนการทำอาหารขั้นต่อไปอีก สำหรับกากที่ได้ก็นำไปผสมในอาหารเลี้ยงสัตว์ที่กินเนื้อได้เช่นจระเข้ ปลาดุก เป็นต้น
หวังว่าคงพอจะเข้าใจนะครับ
สุพล