เที่ยวเม็กฮิโก ๒๐๐๙ ความทรงจำที่ลำค่า ภาคสี่


เมื่อเวลาเที่ยงทุกคนก็มาที่รถเพื่อเดินทางต่อไปยัง Tzintzuntzan ซึ่งได้รับฉายาว่า แผ่นดินของนกฮัมมิ่ง ( Place of the Hummingbirds หรือ place abundant in hummingbirds) ชื่อออกจะอ่านยากสักหน่อยคือ ซีนซูซาน(seen-soon-sahn) เสียงคล้ายๆกับการตีปีกของนกฮัมมิ่ง

มาถึงภาคสี่ หลายคนอาจบ่นว่าชื่อเรื่องของครูอู๋ไม่คงเส้นคงวา (รีบบ่นก่อนเพื่อนจะบ่น อิ อิ) ก็ต้องขออภัย เพราะครูอู๋บันทึกรวดเดียวสี่ภาค ยังไม่ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด (เพราะรักและคิดถึงไงคะ) ก็ต้องกราบขออภัยผู้อ่านด้วย แต่ภาคสี่นี้น่าจะบันทึกได้ไม่จบวัน คงต้องรวบยอดไปจบพร้อมภาคห้า เพราะคุณหมอไม่ให้นอนดึกมาก นี่ก็จะห้าทุ่มแล้ว และสัปดาห์นี้งานทับถมมากจริงๆ  แต่รับรองไม่ทิ้งนานค่ะ จะพยายามมาบันทึกต่อภายในวันอาทิตย์ และต่อไปจะเป็นคนดีบันทึกบ่อยๆ อ่านของเพื่อนมากๆ (หายไปนานครูอู๋กลายเป็นคนเชยสุดๆเลยแหละค่ะ น่าสงสารจังนะคะ) อย่าลืมแนะนำภาษานะคะโดยเฉพาะถ้าครูอู๋แสดงความเชยกับคำสเปนิช และอย่าลืมดูรูปที่ chittrapakubdalaputra.hi5.com ด้วยค่ะ............

วันที่ห้า ... ท่องเที่ยวคนเดียวอย่างกล้าหาญในดินแดนที่ไม่สามารถสื่อสารทางวาจาได้

 

          วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๒ รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จ ลงมารอเจ้าหน้าที่บริษัททัวร์ ชื่อ A&H TOURS ระหว่างรอก็เก็บภาพบางมุมของโรงแรมไปด้วย วันนี้ต้องเตรียมทำความเข้าใจและพูดภาษาสเปนที่จำเป็นบ้าง เพราะมั่นใจว่าเราต้องไปถิ่นที่คนไม่ใช้ภาษาอังกฤษ ขนาดที่สนามบินนานาชาติเบนิโต้ อัวเรซ เมืองเม็กฮิโกซิตี้  ช่วงขาเข้าเม็กฮิโกซึ่งเครื่องมาช้าทั้งที่ในป้ายบอกว่าตรงเวลา ครูอู๋ไปถามผู้โดยสารท่านอื่นว่าทราบสาเหตุหรือไม่ คำตอบที่ได้รับ คือ No English แล้วชี้ไปที่เจ้าหน้าที่สนามบิน (หน้าแตก อิ อิ) และในเมืองโมเรเลีย ตามห้างสรรพสินค้าหรือภัตตาคารก็เช่นกัน มักจะได้รับคำตอบว่า No English แต่เขาก็พยายามหาคนที่พูดภาษาอังกฤษได้ให้สื่อสารกับเรา ฉะนั้นการไปเที่ยววันนี้ซึ่งรวมถึงการลงเรือไปเกาะด้วย คงลำบาก แต่เนื่องจากภาษาสเปนใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ คำบางคำจึงเข้าใจง่าย เช่น Entrada, Centro  ซึ่งทุกคนคงเดาออก หรือแม้แต่คำที่มีความหมายว่าทางออกคือ Salida ก็เดาไม่ยากเพราะเขาเขียนไว้ตรงทางออก คำที่ครูอู๋ต้องจำเพิ่มเติมคือ  อร่อย (เดลิยอร์) ดี (วีโน)  ฉันชอบสิ่งนี้ (มากูชา) สวัสดีตอนเช้า ( เอศ บัวโนส เดียร์) สวัสดีตอนบ่าย ( เอศ บัวโนส ซาตาเดย์) สวัสดีตอนเย็น ( เอศ บัวโนส โนส) ลาก่อน (อลู) สวย (แบลีฟ) สิ่งที่ต้องทราบแน่ๆคือ แผ่นแป้งคล้ายๆโรตี ซึ่งเป็นอาหารหลัก เพราะเขามักจะถามว่า จะเอาเจ้านี่ (โรตีหรือ ทอร์ทิลลาหรือ Tortilla) ไหม ร้านอาหารเม็กซิกันในประเทศไทยเราเรียกทาโก (Taco)

          นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้ศัพท์บางคำจากตั๋วทัวร์ เช่น Hora แปลว่า เวลาหรือชั่วโมง Fecha แปลว่าแปลว่า วัน เดือน ปี Personars แปลว่า จำนวนคน Duracio’n แปลว่า ช่วงเวลา Costo แปลว่า ราคา Lancha แปลว่า อาหารกลางวัน Aprox แปลว่า โดยประมาณ

เมื่อคนขับรถมารับ ได้นำไปจอดรอนักท่องเที่ยวคนอื่นที่ใจกลางเมือง แล้วเดินไปตามลูกค้าซึ่งเขาก็ไม่ทราบว่ามีใครบ้าง (ครูอู๋ก็งง แต่ถามมากไม่ได้ เพราะเขาไม่ถนัดภาษาอังกฤษ)ระหว่างนั้นครูอู๋ก็ได้เก็บภาพต่างๆ รวมทั้งตำรวจซึ่งไม่เคยเห็นเลยในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ แต่ก็ไม่เห็นมีปัญหาในเรื่องการปฏิบัติตามกฎจราจร บ้านเมืองก็สะอาด ไม่มีขยะบนพื้นให้เห็น ตำรวจใส่ชุดสีกากีมีเสื้อคลุมดล้ายๆแจ็กเก๊ตสีน้ำตาลเข้ม สรวมหมวกเท่ห์มาก ยืนเป็นจราจร แต่ดูแล้วงานก็ไม่หนัก รถก็ไม่มากนัก ดูสบายๆ ตำรวจหนุ่มหน้าตาอารมณ์ดีและท่าทางใจดีด้วย เก็บภาพสักพักหนึ่งคนขับรถก็เดินกลับมาพร้อมผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาสวยดี คนขับรถบอกครูอู๋ว่าต้องเปลี่ยนรถ แล้วให้ตามสาวสวยไปที่รถคันใหม่ เธอเป็นพนักงานของบริษัททัวร์ เธอบอกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาเรียกได้ว่าเป็น high season ในขณะที่สัปดาห์นี้ถือว่า เป็น low season มีนักท่องเที่ยวน้อยโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ สำหรับกลุ่มที่ไปในวันนี้มีจำนวนทั้งหมด ๕ คน มีครูอู๋เป็นคนต่างชาติเพียงคนเดียว นอกนั้นเป็นชาวเม็กซิกันซึ่งก็ยังคงมีจำนวนน้อย เพราะเป็นวันจันทร์นักเรียนต้องไปโรงเรียนด้วย แต่เธอก็บอกครูอู๋ว่าไม่ต้องกังวล เพราะคนขับรถพูดภาษาอังกฤษได้ เนื่องจากสถานที่จะไปเที่ยวนั้นน่าจะหาคนพูดภาษาอังกฤษยากหน่อย

          คนขับรถซึ่งมีชื่อว่า Mark ขอดูตั๋วแล้วเก็บเงินจากครูอู๋จนครบตามจำนวนแล้วก็เริ่มรายการ โดยแนะนำชื่อลูกทัวร์แต่ละคน เพื่อนร่วมทีม อีก ๔ คนซึ่งเป็นหญิงทั้งหมดนั้นชื่อค่อนข้างจำยาก ครูอู๋เลยให้เขาเขียนช่วงเวลารับประทานอาหารกลางวัน แต่ก็เรียกชื่อย่อๆดังนี้ คนแรกชื่อ Lus Maria Acias Mortes Aquascalientes หรือ Lus คนที่สองชื่อ Ma de Lourdes Roque L’umez Aquascalientes หรือ Lu Luทั้งสองเป็นเพื่อนครูด้วยกันและเป็นญาติกันด้วย อีกสองคนก็เป็นญาติกัน (มาเป็นคู่ๆ) ชื่อ Julia Salazar Acapulco หรือ Julia และ Flavia Aguilar Acapulco หรือ Flavia ครูอู๋ถาม Mark ว่ารายการวันนี้มีอะไรบ้าง Mark เอากระดาษรายการ ของบริษัททัวร์ให้หนึ่งชุด รายการวันนี้เป็นการไปเที่ยว ๔ แห่ง ภายใต้รายการหลักคือ  Pa’tzcuaro ที่ครูอู๋ไปเมื่อเย็นวาน แต่ครูอู๋ก็เชื่อว่าต้องมีความแตกต่างกัน รายการทั้งสี่ประกอบด้วย Quiroga, Tzintzuntzan, La isla de Janitzio และ Pa’tzcuaro ซึ่งครูอู๋จะค่อยๆเล่าทีละรายการที่มีโอกาสสัมผัส Mark คงต้องเหนื่อยหรือไม่ก็อาจชำนาญมาก เพราะดูเป็นธรรมชาติมาก ทั้งๆที่ต้องพูดสองภาษา คือ อธิบายภาษาสเปนแล้วตามด้วยภาษาอังกฤษ แต่ครูอู๋รู้สึกว่าแกอธิบายภาษาสเปนยาวกว่าภาษาอังกฤษ (ไม่ทราบว่าเพราะมีชาวเม็กซิกันมากกว่าชาวต่างชาติหรือไม่) แต่ก็ดูเขาสนุกทั้งๆที่ท่าทางเหนื่อย เขาบอกว่าเขาไม่ได้พักมาสามวันแล้ว เพราะลูกทัวร์มากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ยกน้ำส้มขวดใหญ่มาเขย่าพร้อมดื่มเป็นประจำ ครูอู๋เลยนำมะขามคลุกที่ซื้อจากพิพิธภัณฑ์มาให้เขารับประทาน และแจกเพื่อนร่วมทีม (เป็นการเริ่มผูกมิตรไปในตัว)

          สถานที่แห่งแรกที่เราแวะในเวลาประมาณ ๑๑. ๓๐ น.คือ Quiroga เป็นชุมชนเล็กๆ มีร้านขายของหลายร้านเหมือนในชนบทของบ้านเรา Mark ให้เวลาพวกเราเดินชมถึงเวลา ๑๒.๐๐ น. เขาบอกว่าต้องตรงเวลา หลังจากนั้นเขาก็ปลีกวิเวก ครูอู๋คาดว่าแกคงพยายามหาเวลาพักเท่าที่จะหาได้ ซึ่งก็ดีเพราะแกเป็นคนขับรถ ดูแลความปลอดภัยของพวกเราทุกคน ปกติครูอู๋เป็นคนที่หลงทางเก่งมากๆๆๆ (ขอเน้น เพราะเวลาอยู่ในประเทศไทย ครูอู๋มักเดินทางด้วยปาก คือต้องถามเวลาหลงทาง) คราวนี้คงไม่สามารถใช้ปากได้ เพราะดูท่าทางจะไม่มีใครเข้าใจภาษาของเรา สมองน้อยๆต้องคิดหาทางเอาตัวรอด ครูอู๋ก็เลยถ่ายภาพรถ สถานที่รถจอดซึ่งเป็นร้านขายของสารพัดทั้งเครื่องดนตรี ของเล่น ของใช้ พร้อมถ่ายภาพร่วมพนักงานสาวสวยซึ่งเขายินดีและรู้สึกชอบการถ่ายภาพ เพื่อใช้ประโยชน์เวลาหลงทาง จะได้ใช้ภาพถ่ายพากลับมาที่รถได้ถูกต้อง

            ณ Quiroga นี้จะเต็มไปด้วยตึกแถวที่เป็นร้านขายของหลายอย่าง จุดเด่นของร้านริมถนนใหญ่คือเครื่องดนตรีดังที่เห็นในภาพถ่าย ของเล่นเด็ก หรือสิ่งประดิษฐ์สวยงาม ถ้าเดินเลยเข้าไปจะเห็นภาชนะทำด้วยทองแดง เมื่อเดินข้ามฝั่งก็จะเป็นตลาดสด ขายผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ รวมทั้งเป็นซอยเล็กๆ ขายเครื่องประดับและผลิตภัณฑ์ประดิษฐ์สวยงามที่ทำจากไม้ของท้องถิ่น ครูอู๋อยากซื้อหลายอย่างที่แบกไม่ได้ เลยไม่ได้ซื้อ ส่วนเครื่องประดับที่พอแบกได้ ครูอู๋ว่าของที่ผลิตในประเทศไทยสวยกว่า มีคุณภาพดีกว่า และราคาก็ถูกกว่า ก็เลยไม่ได้ซื้อ แค่อุดหนุนเล็กน้อย พอเป็นตัวอย่าง

           เมื่อเดินลึกเข้าไปจะพบโบสถ์อีกแห่ง ที่เม็กซิโกนี่มีโบสถ์มากจริงๆ ครูอู๋เลยเดินเข้าไปดู เมื่อเดินเข้าไป คุณป้าคนหนึ่งก็เอาเทียนเล่มใหญ่ที่จุดไฟสว่างมาให้ แล้วทำสัญญาณให้ครูอู๋เดินรอบๆ ครูออู๋ก็ถือเทียนเดินรอบๆพร้อมอธิษฐานขอสิ่งดีๆให้คนที่เรารักและชาวโลกทั้งหลาย

            เมื่อเวลาเที่ยงทุกคนก็มาที่รถเพื่อเดินทางต่อไปยัง Tzintzuntzan ซึ่งได้รับฉายาว่า แผ่นดินของนกฮัมมิ่ง ( Place of the Hummingbirds   หรือ place abundant in hummingbirds)  ชื่อออกจะอ่านยากสักหน่อยคือ  ซีนซูซาน(seen-soon-sahn) เสียงคล้ายๆกับการตีปีกของนกฮัมมิ่ง ขอพักไว้แค่นี้ก่อนนะคะ แล้วอย่าลืมติดตามด้วยค่ะ รับรองภายในวันอาทิตย์เราจะกลับมาพบกันใหม่ค่ะ...

                                                                                                      รักและคิดถึงทุกคน จาก ครูอู๋ค่ะ

หมายเลขบันทึก: 260766เขียนเมื่อ 12 พฤษภาคม 2009 22:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 06:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อ่านตอนนี้แล้วต้องย้อนไป อ่านตอนที่ 1- 3 และต้องตามตอนที่ 5 ให้ได้ ครูอู๋เขียนเร็วๆนะครับ ไม่น่าเชื่อว่านักวิจัยที่เก่งๆมากๆจะเขียนเรื่องท่องเที่ยวได้สนุกมากๆด้วย และได้ความรู้ใหม่ๆที่น่าสนใจด้วยครับ

สนั่น

ขอบคุณค่ะ จะพยายามหาเวลาเขียนภาคห้าเร็วๆค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท