ผู้รู้หลายท่านเชิญชวนสนทนากันในประเด็นว่า การศึกษาคืออะไร ดำรงอยู่อย่างไรในปัจจุบัน ผมได้อ่านพจนานุกรมธรรมของท่านพุทธทาส สาระสำคัญระบุว่า สิกขาหรือศึกษาแปลว่าดูซึ่งตนเอง โดยตนเอง เห็นตนเอง ประพฤติปฏิบัติโดยตนเอง เพื่อประโยชน์แก่ตนเอง ในทัศนะผมเห็นว่า การศึกษาเป็นเครื่องมือของผู้คนในการนำพาตนเองไปพานพบกับการอยู่เย็นเป็นสุข ผู้คนจะมีความเฉพาะตนในการใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือของชีวิต
และด้วยความเป็นจริงของหนึ่งชีวิตต้องเกี่ยวข้องเชื่อมร้อยกับอีกหลายชีวิต ซึ่งทุกชีวิตล้วนแต่ต้องการพานพบกับความอยู่เย็นเป็นสุข ดังนั้นผู้คนจึงรวมตัวกันนำเอาสิ่งดีๆที่พานพบมาบรรจบรวมกันเพื่อแบ่งปันความอยู่เย็นเป็นสุขต่อกันและกัน จุดรวมการศึกษาของชุมชนไทยจึงเริ่มต้นที่ครอบครัวและ วัด มาตั้งแต่โบราณกาล
สืบต่อมา ความเป็นสมัยใหม่ ได้หยิบยื่น โรงเรียน ให้เป็นจุดนัดพบเพื่อการศึกษาของผู้คน พร้อมๆกับเริ่มใส่ความเป็นอื่นเข้าไปในความเฉพาะของผู้คน เมื่อในตัวคนถูกยัดเยียดความเป็นอื่นมากขึ้น พลังสะสมข้างในตัวคนก็ระเบิดออกมา กลายเป็นสิ่งที่เราเรียกว่า วิกฤตคุณภาพการศึกษา ซึ่งในวันนี้ชุมชนคนไทยโดยภาพรวมกำลังอุเบกขาต่อคุณภาพการจัดการศึกษาไทยในทุกระดับ ภาวะเช่นนี้ผมชวนทุกท่านคิดต่อว่า พจนานุกรมธรรมของท่านพุทธทาส นิยามคำว่า อุเบกขา คือ จ้องดูอยู่ เมื่อทำอะไรไม่ได้ก็จ้องดูอยู่ ดูอาการคล้ายกับว่าเฉยๆ แต่ไม่ใช่เฉยอย่างไม่รับผิดชอบ แต่จ้องดูอยู่ว่าจะทำอะไรได้ แสดงว่าวันนี้ชุมชนไทยกำลังจ้องดูการจัดการศึกษาโดยภาครัฐ อย่างไม่กะพริบตา ใช่หรือไม่/อย่างไร
วันนี้ผมได้มีโอกาสได้อ่านบทความของท่านอาจารย์ กระผมก็ยังไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นในบทความ แต่สิ่งที่กระผมได้เห็นในการศึกษาทุกวันนี้ ก็มีความคิดที่เห็นด้วยที่ว่าทุกคนจับตาการจัดการศึกษาของรัฐอย่างใจจดใจจ่อ ว่าจะทำอะไรอีกครับผม
แวะมาเยี่ยมค่ะอาจารย์
พรหมวิหาร 4 คือหลักธรรมของผู้ใหญ่ ผู้มีอำนาจ ผู้บริหาร ผู้ปกครองระดับสูง ประกอบด้วย
1. เมตตา ความรัก (ปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขยิ่งขึ้น แสดงว่าขณะนี้เขาก็มีความสุขอยู่)
2. กรุณา ความสงสาร (ปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นจากความทุกข์ แสดงว่าขณะนี้เขากำลังประสบปัญหาหรือมีความทุกข์อยู่)
3. มุทิตา ร่วมยินดี (ในเมื่อผู้อื่นประสบความสำเร็จ ร่วมชื่นชม ยินดี ไม่อิจฉา ริษยา ไม่ใส่ร้าย)
4. อุเบกขา วางเฉย (ในเมื่อได้ปฏิบัติทั้ง 3 อย่างข้างต้นแล้ว ก็ปล่อยให้ดำเนินไปตามกฎแห่งธรรมชาติ)
จากบทความของอาจารย์ดร.ศักดิ์พงษ์ ท่านมีความห่วงใยในการศึกษาโดยเฉพาะเรื่องคุณภาพในปัจจุบัน
สวัสดีครับลุงและพี่อุ่นคงสบายคีกันทุกคนนะครับตอนนี้ผมมาราชการที่ภูเก็ตคงอีนานครับถึงจะย้ายกลับไม่๔ก้อ๕ปีครับ