แผนผังก้างปลา
ที่มา : Mark, M. Davis, Nicholas, J. Aquilano, and Richard, B. Chase,Fundamentals of Operations Management, 2003: 254.
แผนผังก้างปลาหรือเรียกเป็นทางการว่า แผนผังสาเหตุและผล (Cause and Effect
Diagram)
แผนผังสาเหตุและผลเป็นแผนผังที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างปัญหา
(Problem)
กับสาเหตุทั้งหมดที่เป็นไปได้ที่อาจก่อให้เกิดปัญหานั้น
(Possible
Cause)
เราอาจคุ้นเคยกับแผนผังสาเหตุและผล ในชื่อของ "ผังก้างปลา
(Fish Bone
Diagram)"
เนื่องจากหน้าตาแผนภูมิมีลักษณะคล้ายปลาที่เหลือแต่ก้าง หรือหลายๆ
คนอาจรู้ จักในชื่อของแผนผังอิชิกาว่า (Ishikawa Diagram)
ซึ่งได้รับการพัฒนาครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1943 โดย ศาสตราจารย์คาโอรุ
อิชิกาว่า แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว
เมื่อไรจึงจะใช้แผนผังก้างปลา
1.
เมื่อต้องการค้นหาสาเหตุแห่งปัญหา
2.
เมื่อต้องการทำการศึกษา ทำความเข้าใจ
หรือทำความรู้จักกับกระบวนการอื่น ๆ
เพราะว่าโดยส่วนใหญ่พนักงานจะรู้ปัญหาเฉพาะในพื้นที่ของตนเท่านั้น
แต่เมื่อมีการ ทำผังก้างปลาแล้ว
จะทำให้เราสามารถรู้กระบวนการของแผนกอื่นได้ง่ายขึ้น
3.
เมื่อต้องการให้เป็นแนวทางใน การระดมสมอง ซึ่งจะช่วยให้ทุกๆ
คนให้ความสนใจในปัญหาของกลุ่มซึ่งแสดงไว้ที่หัวปลา
วิธีการสร้างแผนผังสาเหตุและผลหรือผังก้างปลา
สิ่งสำคัญในการสร้างแผนผัง
คือ ต้องทำเป็นทีม เป็นกลุ่ม โดยใช้ขั้นตอน 6
ขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.
กำหนดประโยคปัญหาที่หัวปลา
2.
กำหนดกลุ่มปัจจัยที่จะทำให้เกิดปัญหานั้นๆ
3.
ระดมสมองเพื่อหาสาเหตุในแต่ละปัจจัย
4.
หาสาเหตุหลักของปัญหา
5.
จัดลำดับความสำคัญของสาเหตุ
6.
ใช้แนวทางการปรับปรุงที่จำเป็น
การกำหนดปัจจัยบนก้างปลา
เราสามารถที่จะกำหนดกลุ่มปัจจัยอะไรก็ได้
แต่ต้องมั่นใจว่ากลุ่มที่เรากำหนดไว้เป็นปัจจัยนั้นสามารถที่จะช่วยให้เราแยกแยะและกำหนดสาเหตุต่างๆ
ได้อย่างเป็นระบบ และเป็นเหตุเป็นผล
โดยส่วนมากมักจะใช้หลักการ
4M 1E
เป็นกลุ่มปัจจัย (Factors)
เพื่อจะนำไปสู่การแยกแยะสาเหตุต่างๆ ซึ่ง 4M 1E
นี้มาจากM - Man
คนงาน
หรือพนักงาน หรือบุคลากร
M -
Machine
เครื่องจักรหรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวก
M -
Material
วัตถุดิบหรืออะไหล่
อุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ในกระบวนการ
M -
Method
กระบวนการทำงาน
E - Environment
อากาศ สถานที่
ความสว่าง และบรรยากาศการ
- ทำงาน
แต่ไม่ได้หมายความว่า
การกำหนดก้างปลาจะต้องใช้ 4M
1E
เสมอไป เพราะหากเราไม่ได้อยู่ในกระบวนการผลิตแล้ว ปัจจัยนำเข้า
(input)
ในกระบวนการก็จะเปลี่ยนไป เช่น ปัจจัยการนำเข้าเป็น
4P
ได้แก่ Place , Procedure, People
และ Policy
หรือเป็น 4S
Surrounding, Supplier, System
และ Skill
ก็ได้ หรืออาจจะเป็น MILK Management, Information, Leadership, Knowledge
ก็ได้ นอกจากนั้น
หากกลุ่มที่ใช้ก้างปลามีประสบการณ์ในปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว
ก็สามารถที่จะกำหนดกลุ่ม
ปัจจัยใหม่ให้เหมาะสมกับปัญหาตั้งแต่แรกเลยก็ได้
เช่นกัน
การกำหนดหัวข้อปัญหาที่หัวปลา
การกำหนดหัวข้อปัญหาควรกำหนดให้ชัดเจนและมีความเป็นไปได้
ซึ่งหากเรากำหนดประโยคปัญหานี้ไม่ชัดเจนตั้งแต่แรกแล้ว
จะทำให้เราใช้เวลามากในการค้นหา สาเหตุ
และจะใช้เวลานานในการทำผังก้างปลา
การกำหนดปัญหาที่หัวปลา
เช่น อัตราของเสีย อัตราชั่วโมงการทำงานของคนที่ไม่มีประสิทธิภาพ
อัตราการเกิดอุบัติเหตุ หรืออัตราต้นทุนต่อสินค้าหนึ่งชิ้น เป็นต้น
ซึ่งจะเห็นได้ว่า ควรกำหนดหัวข้อปัญหาในเชิงลบ
เทคนิคการระดมความคิดเพื่อจะได้ก้างปลาที่ละเอียดสวยงาม
คือ การถาม ทำไม ทำไม ทำไม ในการเขียนแต่ละก้างย่อยๆ
ข้อเสีย
1.
ความคิดไม่อิสระเนื่องจากมีแผนภูมิก้างปลาเป็นตัวกำหนดซึ่งความคิดของสมาชิกในทีมจะมารวมอยู่ที่แผนภูมิก้างปลา
2. ต้องอาศัยผู้ที่มีความสามารถสูง
จึงจะสามารถใช้แผนภูมิก้างปลาในการระดมความคิด
แหล่งอ้างอิง
ดร.จุฑา
เทียนไทย,รองศาสตราจารย์ด.รนภาพร
ขันธนภา.(2548) การจักการเชิงกลยุทธ์ กรุงเทพฯ
: มหาวิทยาลัยรามคำแหง
แผนผังก้างปลา ทำให้เราสามารถต่ยอดความคิดเราได้ดีนะคะ ดูคล้าย Mind map ไหมคะน้องกบ
พี่แก้วตื่นเช้าจัง วันนี้มีเรียนเลยค้นดู Assingment เก่าๆที่เคยค้นไว้ เผื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้ค่ะ
สวัสดีค่ะน้องกบ
ยินดีต้อนรับ...
แวะมาเยี่ยมชม เป็นสาระความรู้ ขอบคุณครับ
เป็นความรูที่ดีมาก
คือว่าหนูกะลังเรียนและก้อมีปานหาคือว่าอย่างจะขอดูตัวอย่างการวิเคราะห์ระบบงานอะไรก้อได้แต่อย่างได้แบบก้างปลาค่ะเพราะทำไปแล้วแต่ไม่ถูกต้องวิเคราะห์มั่วไปหมด.
ยังไงก้อขอฝากรบกวนส่งมาให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยนะคะเพราะไม่ได้จิงๆ
ขอบคุณไว้ล่วงหน้านะคะ
ขอบคุณนะคะเปนประโยชน์มากค่ะไงแล้วหนูจะลองศึกษากอ่นนะคะแล้วยังไงจะรบกวนไปถามอีกทีค่ะ
พรุ่งนี้จะสอบแผนภูมิก้างปลา ยังไม่เข้าใจเพราะไม่ได้ไปเรียนเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว อ่านยังไม่เข้าใจ แต่ถ้าเห็นแผนถูมิคงมองออกช่วยทำแผนตัวไหนก็ได้เป็นตัวอย่าง 1 แผน เพื่อเป็นแนวทาง ในการเรียนต่อไป จะขอบพระคุณอย่างยิ่ง
จากนักศึกษา ปวส.อายุ ใก้ล 50 ปีแล้ว