ภาพของการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของโรงเรียนในระบบ
ถามว่าการจัดการศึกษาในปัจจุบัน ทำไมกระทรวงศึกษาธิการจึงมุ่งเน้นหรือให้ความสำคัญในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม คำตอบก็คือ ยุคโลกาภิวัตน์ที่การเติบโตของความเจริญด้านต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็ว อาทิเช่น เศรษฐกิจ การแพทย์ เทคโนโลยี การติดต่อสื่อสาร เป็นต้น แต่ในทางตรงกันข้ามความเจริญทางด้านจิตใจและคุณธรรมจริยธรรมของคนในสังคมกำลังถดถอยลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะการสื่อสารที่หลากหลายผ่านเทคโนโลยีต่างๆ ได้เข้าสู่เยาวชนในสถานศึกษาอีกทั้งค่านิยมด้านวัตถุ การเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรม การปฏิบัติตนต่อกันในครอบครัวและสังคม ล้วนเป็นสาเหตุที่ส่งผลกระทบด้านคุณธรรม จริยธรรมของเยาวชนไทยเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะพบปัญหามากมายในสถานศึกษาโดยเฉพาะโรงเรียนในระบบ เช่น ปัญหาขาดระเบียบวินัย ทะเลาะวิวาท ยาเสพติด ปัญหาชู้สาว เพศสัมพันธ์ในวัยเรียน ปัญหาอาชญากรรม การใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ตลอดจนความประพฤติด้านอื่นๆ แต่ภายหลังการประกาศใช้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ทำให้เกิดการตื่นตัวในการปฏิรูปการศึกษาไทย เพื่อให้เป็นไปตามจุดมุ่งหมายเรื่องเก่ง ดี มีความสุข แต่พอหลังๆ ได้เปลี่ยนเอาดีนำหน้ากลายเป็น ดี เก่ง มีความสุข โดยเห็นว่าเก่งแล้วก่อให้เกิดทุกข์เพราะถูกกดดันจากความคาดหวังของพ่อแม่ เพื่อน ครูบาอาจารย์ พอพลาดก็กระโดดตึก ติดยาเสพติด (จุมพล พูลภัทรชีวิน, 2550) นอกจากนี้คนเก่งยังทำให้เกิดการปัญหาต่างๆ ตามมากมายไม่ว่าจะเป็นปัญหาทุจริต คอรัปชั่น และเชื่อว่าหากคนเป็นคนดีก่อนแล้วความเก่งจะตามมาจะทำให้มีความสุขในตนเองและมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น สังคมก็จะมีความสุขไม่แก่งแย่งแข่งขันแตกความสามัคคีเช่นในปัจจุบัน
ปัจจุบันโรงเรียนในระบบให้ความสนใจต่อการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมผู้เรียนมากขึ้น ดังจะเห็นได้จาก มีโรงเรียนไม่น้อยกว่า 2 หมื่นโรงเรียนเข้าร่วมโครงการโรงเรียนวิถีพุทธ หรือเกือบทุกโรงเรียนต่างมีโครงการเกี่ยวกับพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ยิ่งนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการยุคนี้เน้นเรื่องคุณธรรม นำความรู้ ทำให้โรงเรียนส่วนใหญ่ต่างโหมโรงในการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมผู้เรียนเพื่อสนองนโยบายดังกล่าว ซึ่งผลลัพธ์มีทั้งที่สัมฤทธิผลเป็นรูปธรรม และเป็นแค่ภาพลวงตา ซึ่งเด็กไม่ได้ดีหรือมีคุณธรรมจริง คือมีคุณธรรมแต่ไม่ยั่งยืนนั่นเอง สาเหตุแห่งความไม่ยั่งยืนนั้นเกิดจาก
1. การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมยังยึดตัวครู หรือผู้บริหารเป็นศูนย์กลางการพัฒนา โดยยังขาดความเข้าใจ หรือละเลยในการเคารพคุณค่าความเป็นมนุษย์ของผู้เรียนที่เป็นผู้ได้รับการพัฒนา กล่าวคือ การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมยังคงเน้นการให้รางวัลและการลงโทษเพื่อให้ผู้เรียนแสดงออกถึงการมีคุณธรรม จริยธรรม ซึ่ง ดร.เกียรติวรรณ อมาตยกุล (2545) ถือว่า การให้รางวัลและการลงโทษนั้นเป็นจิตวิทยาที่ได้จากการสังเกต และทดลองในสัตว์ หรือจิตวิทยาของสัตว์ (animal psychology) เหมาะที่จะใช้กับสัตว์ แต่ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้กับมนุษย์ การนำจิตวิทยาการเรียนรู้ของสัตว์มาประยุกต์ใช้ในการจัดการศึกษาให้กับคนเรานั้นจะทำให้คนเรามีนิสัยคล้ายสัตว์ไปในที่สุด เช่นกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว ต้องการแต่จะเป็นผู้ชนะโดยทำลายผู้อื่น ก้าวร้าว รุนแรง เอารัดเอาเปรียบผู้ที่อ่อนแอกว่า มีความรู้น้อยกว่า กระหายอำนาจ และวัตถุ มีความต้องการที่จะช่วยเหลือผู้อื่นน้อยลงไปทุกที ฯลฯ ซึ่งสอดคล้องกับวิศิษฐ์ วังวิญญู ที่กล่าวไว้ในหนังสือสำนึกแห่งวินัยหัวใจแห่งการเรียนรู้ (2549) ที่กล่าวว่า “การให้รางวัลและการลงโทษเป็นการโยกย้ายความรับผิดชอบของเด็กมาไว้ที่ผู้ใหญ่ เวลาทำอะไรต่ออะไรโดยเฉพาะในเรื่องวินัย เด็กจะมองกลับมาที่ผู้ใหญ่ตลอดเวลา เพราะกลัวจะถูกลงโทษ หรือกลัวว่าจะไม่ได้รับรางวัล แต่เด็กจะไม่ได้สร้างวินัยขึ้นในตนเพราะ “ความรับผิดชอบ” ของตนหรือจากแรงบันดาลใจของตนเอง เด็กก็จะไม่ภูมิใจในตัวเองในการสร้างวินัยต่างๆ ขึ้นมา เพราะศูนย์กลางความรับผิดชอบมันถูกเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่ผู้ใหญ่เสียแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้พลังแห่งเจตจำนง คือความตั้งใจ มุ่งมั่น (conscious) ที่จะสร้างวินัยของเด็กเอง ก็จะไม่เข้มแข็งยั่งยืน หรือบางกรณีมันจะไม่ก่อให้เกิดเลยด้วยซ้ำ”
ทางออกของการแก้ปัญหาคือ การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมผู้เรียนนั้นเราควรเคารพคุณค่าความเป็นมนุษย์ ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการพัฒนา โดยยึดหลักจิตวิทยามนุษยนิยมหรือมนุษยนิยมแนวใหม่ (นีโอฮิวแมนนิส) ที่กำลังได้รับความสนใจของนักการศึกษาที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นคนที่มีความรักความเมตตาในทุกสรรพสิ่ง เป็นคนที่มีความสุขในชีวิต และพร้อมที่จะทำประโยชน์ให้แก่สังคม
2. การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของผู้เรียนยังไม่ทำให้เป็นระบบ เรื่องนี้เราคงไม่โทษครู หรือโรงเรียนเพราะปัจจุบันได้กลายเป็นวัฒนธรรมการทำงานขององค์กรไปแล้ว โดยเฉพาะนโยบายกระทรวงศึกษาที่บางครั้งคิดอยากจะพัฒนาการศึกษาเรื่องใดก็มักจะเอาแบบอย่างเขามาแล้วก็สั่งการไปที่โรงเรียน ซึ่งไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้าชอบทำอะไรแบบพูดเปรี้ยงทำเปรี้ยงอย่างตื้นๆ สุดท้ายก็ไม่เหมือนไฟไหม้ฟาง ไม่ยั่งยืน ระบบที่ดีในการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมควรมองหลายมิติ และควรเกิดจากการมีส่วนร่วมของหลายฝ่าย ที่ไม่ใช่ทิ้งภาระให้โรงเรียนต้องแบกรับเหมือนในปัจจุบัน
กระบวนการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมในต่างประเทศทำอย่างไร
จากรายงานการสังเคราะห์งานวิจัยคุณลักษณะและกระบวนการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมของประเทศต่างๆ ของเจือจันทร์ จงสถิตอยู่ และรุ่งเรือง สุขาภิรมย์ (2550) ผู้เขียนเห็นว่าประเทศเกาหลี และประเทศไต้หวันเป็นประเทศที่มีภาพลักษณ์ด้านคุณธรรม จริยธรรมเป็นรูปธรรม มีคุณลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะ หรือน่าสนใจ เนื่องจากมีบริบทที่ใกล้เคียงกับประเทศไทยของเรา จึงขอนำเสนอกระบวนการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมกระบวนของทั้ง 2 ประเทศนี้
ประเทศเกาหลี
ประเทศเกาหลีได้พัฒนาประเทศจนมีความเจริญรุ่งเรืองมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
เป็นผู้นำทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้นำทางวิชาการและผู้นำทางอุตสาหกรรมแต่ก็ยังยึดถือปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรม วัฒนธรรมและประเพณีของเกาหลีซึ่งได้รับอิทธิพลจากคำสั่งสอนของขงจื้อ สามารถรักษาลักษณะเด่นที่เป็นอัตลักษณ์ของคนเกาหลี เนื่องจากผู้นำประเทศใช้กุศโลบายที่ดีที่ใช้กระบวนการทางสังคม ควบคู่ไปกับกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจ ได้แก่ การให้ความสำคัญที่ฐานรากของสังคม คือสถาบันครอบครัว และสถาบันการศึกษาที่ยังถ่ายทอดคำสอนของขงจื้อโดยเฉพาะอย่างยิ่งการรู้จักหน้าที่ การเคารพผู้อาวุโส ความกตัญญู ควบคู่ไปกับการปลูกฝังคุณลักษณะที่จำเป็นในการทำงานและดำรงชีวิตในโลกการเปลี่ยนแปลง
กระบวนการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมมีการอบรมระยะสั้นๆ ให้แก่พ่อแม่ เพื่อให้คำปรึกษาและเสนอแนะแนวทางอันสมควรแก่ลูก ให้มีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอนกับโรงเรียนใกล้ชิดสัมพันธ์กัน
การจัดหลักสูตรมีการระบุลักษณะคุณธรรม จริยธรรมที่ต้องปลูกฝังแก่เด็กและเยาวชนอย่างชัดเจน ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงอุดมศึกษา และแม้กระทั่งการศึกษาผู้ใหญ่ยังเพิ่มการเรียนรู้เรื่องหน้าที่พลเมืองด้วย
การจัดการเรียนการสอนมีทั้งในระดับห้องเรียนที่ให้มีการอภิปรายเน้นการหา
สาเหตุในการประพฤติตนเป็นคนดีตามหลักจริยธรรมและการสอนที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมที่เป็นจริงซึ่งเป็นหลักสูตรที่ไม่ได้กำหนดไว้เป็นทางการ โดยโรงเรียนต้องปลูกฝังคุณลักษณะอันพึงประสงค์เข้าไปในทุกรายวิชา นอกจากนี้โรงเรียนยังต้องปลูกฝังจิตสำนึกในเรื่องเมตตาธรรม และมนุษยธรรมในกระแสโลกาภิวัตน์
การมีส่วนร่วมจากของสังคมในระดับต่างๆ ดังจะเห็นได้จากโครงการแซมาอึลวุนดง (กุศโลบายในการพัฒนาชนบทเพื่อแก้ปัญหาความยากจนประสบความสำเร็จเพราะการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนตั้งแต่ชนบทจนถึงระดับชาติ นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมจากสื่อมวลชนที่ช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความสำคัญของการศึกษาที่บ้าน ลดการนำเสนอข่าวความรุนแรง และการมีส่วนร่วมอย่างไม่เป็นทางการ เช่น ผู้อาวุโสช่วยอบรมว่ากล่าวตักเตือนเด็กในสังคม หรือการประท้วงหน่วยงานเมื่อมองเห็นว่ามีการดำเนินงานไม่ถูกต้อง
ประเทศไต้หวัน
กระบวนการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมในไต้หวันนั้น องค์กรศาสนาพุทธ (มหายาน)
องค์กรพุทธฉือจี้ องค์กรแสงพุทธธรรม องค์กรกล่องธรรมะ องค์กรวัดจงไถชาน องค์กรพุทธฝูจื้อมูลนิธิเพื่อการศึกษาพระพุทธศาสนา เป็นต้น มีบทบาทที่สำคัญมากกว่าสถาบันการศึกษาหรือโรงเรียนในระบบของรัฐ โดยเน้นการสร้างจิตสำนึกของบุคคลต่อสังคม ให้ความรักความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ รวมทั้งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมีการจัดตั้งโรงเรียนที่สอนหลักสูตรทั่วไปแต่เน้นการสอนหลักธรรม การที่องค์กรทางศาสนาดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องด้วยปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1. ผู้นำองค์กรเป็นแบบอย่างทั้งด้านการปฏิบัติส่วนตัวและเป็นผู้นำทำกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในวงกว้าง
2. เผยแพร่ธรรมะด้วยสื่อต่างๆ และหลายรูปแบบอย่างมีคุณภาพ เหมาะสมกับวัย โดยเฉพาะสำหรับเด็กและเยาวชน วัยรุ่น ที่สำคัญคือการใช้ระบบสื่อสารมวลชน คือ จัดตั้งสถานีโทรทัศน์เป็นของตนเองทำให้สามารถผลิตรายการธรรมะเผยแพร่สู่ประชาชนได้ในวงกว้างและตลอดเวลา ออกหนังสือพิมพ์รายวัน และการประยุกต์ใช้ความเจริญทางเทคโนโลยีสื่อสารธรรมะข้ามประเทศ
3. เผยแพร่ธรรมะผ่านกิจกรรมต่างๆ ทั้งด้านการบริการสังคม การช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเมตตา ความรัก การใช้ความรู้ด้านการแพทย์ การพยาบาล จัดกิจกรรมต่างๆ สำหรับเยาวชน เช่น จัดค่ายฤดูร้อน ฤดูหนาวเพื่อฝึกทั้งภายนอกและภายใน
4. จัดโครงสร้างองค์กรอย่างเป็นระบบ เปิดกว้าง มีการบริหารจัดการองค์กรที่มีประสิทธิภาพ สามารถขยายเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างกว้างขวาง
5. ให้การศึกษาผ่านสถาบันการศึกษาที่ตั้งขึ้นเองในระดับต่างๆ ถึงอุดมศึกษา เพื่อผลิตบุคคลที่ได้คุณภาพทั้งในด้านวิชาการและมีคุณธรรม และมีวิทยาลัยสงฆ์ เพื่อผลิตนักบวชทั้งชายและหญิงที่ทรงความรู้ เป็นนักบวชที่เป็นภาพลักษณ์ที่ดีและสามารถเผยแพร่ธรรมะไปต่างประเทศได้ด้วย สถาบันการศึกษาหลายแห่งที่ตั้งโดยองค์กรศาสนาได้กลายเป็นต้นแบบให้โรงเรียนอื่นๆ
6. จัดตั้งแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เช่น ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ทางศาสนาพุทธ และพิพิธภัณฑ์ศาสนาต่างๆ รวมทั้งมีสถาบันค้นคว้าและวิจัยด้านพุทธศาสนาระดับสูง
7. รัฐให้การสนับสนุนองค์กรศาสนาดำเนินการได้อย่างอิสระ ประกอบกับสังคมไต้หวันเปิดรับกับแนวคิดใหม่ๆ จึงทำให้มีผู้สนใจเข้ามาศึกษาและสมัครเป็นสมาชิกองค์กรมากขึ้น และให้การสนับสนุนปัจจัยในการดำเนินกิจกรรมขององค์กร
จากการศึกษากระบวนการปลูกฝังคุณธรรมของทั้ง 2 ประเทศ คงทำให้เราได้เห็นถึงแนวทางในการที่จะนำมาใช้พัฒนาคุณธรรม จริยธรรมในเมืองไทยของเราบ้าง
การศึกษาทางเลือก ทางรอดของการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมที่ยั่งยืนของประเทศไทย
ปัจจุบันการศึกษาทางเลือกกำลังได้รับความสนใจ เป็นที่ยอมรับ และรัฐให้ความสำคัญมากขึ้นเนื่องจากสามารถจัดการศึกษาได้สอดคล้องกับหลักการปฏิรูปการศึกษา (ดี เก่ง มีสุข) อย่างเป็นรูปธรรมมากกว่าโรงเรียนในระบบ นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่มุ่งเน้นคุณธรรม นำความรู้
ทำให้โรงเรียนในระบบต้องเร่งดำเนินงานตามนโยบาย แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้โรงเรียนในระบบไม่ประสบความสำเร็จเหมือนอย่างโรงเรียนที่จัดการศึกษาทางเลือก นั่นแสดงให้เห็นว่าการศึกษาทางเลือกนั้นจะเป็นทางรอดให้กับโรงเรียนที่จะพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมผู้เรียนนำไปเป็นแนวทางพัฒนาให้ผู้เรียนเป็นคนดีจริง อย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นเรื่องท้าทายมาก มีปัจจัยหลายประการ
ที่ทำให้โรงเรียนทางเลือกที่เน้นพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ผู้เรียนประสบความสำเร็จ ได้แก่
1. ผู้บริหารโรงเรียน โรงเรียนที่จัดการศึกษาทางเลือกด้านคุณธรรม จริยธรรม จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในด้านคุณธรรม มีความรัก ความเมตตาต่อครู และ
ลูกศิษย์ มีวิสัยทัศน์ มีความรู้ ความเข้าใจที่แท้จริงในการพัฒนาผู้เรียน โดยปัจจุบันที่ควรเน้นเคารพคุณค่าความเป็นมนุษย์ อาจมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของคนในสังคม มีรูปแบบการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของผู้เรียนที่เป็นระบบ มีเอกลักษณ์เฉพาะตน เช่น โรงเรียนสัตยาไส ของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีในด้านคุณธรรม มีชื่อเสียง มีวิสัยทัศน์ มีรูปแบบในการพัฒนาคุณธรรมที่เป็นระบบเน้นการบูรณาการคุณค่าความเป็นมนุษย์ให้ผู้เรียนได้ซึมซับภายใต้บรรยากาศที่สงบเป็นสมาธิเพื่อมุ่งให้ผู้เรียนเป็นคนดี
2. มีรูปแบบการพัฒนาที่เป็นระบบ กล่าวคือ โรงเรียนทางเลือกผู้บริหารมักจะเป็น
ผู้คิดรูปแบบการบริหารจัดการศึกษาที่เป็นระบบ เช่น
2.1 มีแนวคิด เป้าหมายที่ชัดเจน ว่าใช้แนวคิด ยึดหลักปรัชญาใด มีเป้าหมาย
มุ่งให้ผู้เรียนเป็นอย่างไร เช่น โรงเรียนอมาตยกุลของ ดร.เกียรติวรรณ อมาตยกุล ยึดหลักจิตวิทยามนุยนิยมแนวใหม่ หรือนีโอฮิวแมนนิส ที่มีจุดเน้นในการเคารพในคุณค่าของมนุษย์ ซึ่งโรงเรียนในระบบส่วนใหญ่ยังใช้จิตวิทยาสัตว์ที่เน้นการลงโทษ และให้รางวัลเพื่อให้นักเรียนเป็นคนดี แต่กลับทำให้เด็กก้าวร้าว มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนต่างๆ ไม่ได้เป็นคนดีจากภายใน การพัฒนาให้ผู้เรียนเป็นคนดีจากภายในนั้นเราคงต้องพัฒนาที่จิต และปัจจุบันแนวทางจิตตปัญญาศึกษาเป็นแนวทางสำคัญที่กำลังได้รับความสนใจของนักการศึกษา ที่ช่วยให้เกิดการพัฒนาคุณธรรมในตัวผู้เรียนอย่างยั่งยืน เนื่องจากจิตตปัญญาศึกษา เป็นการศึกษาที่ทำให้ผู้เรียนเข้าใจด้านในของตัวเอง (การใช้จิตคิดใคร่ครวญจนเกิดปัญญา จิตอิสระ จิตเป็นกุศล (จิตอาสา)) รู้ตัว เข้าถึงความจริง ทำให้เปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับโลกและผู้อื่น เกิดความเป็นอิสระ ความสุข ปัญญา และความรักอันไพศาลต่อเพื่อนมนุษย์ ธรรมชาติ และสรรพสิ่ง หรือเพื่อให้เกิดความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เพื่อความสุขและการอยู่ร่วมกันด้วยสันติ และท่าน ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ก็นำแนวทางนี้ไปใช้พัฒนาผู้เรียนที่มุ่งให้เป็นคนดี ได้แก่ มีความรักความเมตตา เข้าใจสรรพสิ่งตามความจริง มีความสงบสุข มีความประพฤติชอบ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ธรรมชาติ และสรรพสิ่ง จนประสบผลสำเร็จ
2.2 มีระบบการในการรับนักเรียน โดยส่วนใหญ่แล้วโรงเรียนที่จัดการศึกษาทางเลือกทางด้านคุณธรรม จะรับนักเรียนเข้าเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลต่อเนื่องจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย เนื่องจากการพัฒนาคุณธรรมผู้เรียนนั้นขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะ และเวลา ดังที่โสภา ชปิลมันน์ (2550) ได้กล่าวว่า ในการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมผู้เรียนนั้นเพียเจต์ นักจิตวิทยาพัฒนาการที่มีชื่อเสียงเป็นผู้ริเริ่มแนวคิดพัฒนาการทางจริยธรรมของมนุษย์ ได้ให้ข้อคิดว่าถ้าเด็กยังไม่เข้าสู่ช่วงพัฒนาการที่จะรับการพัฒนาด้านจริยธรรมไม่ควรบังคับ เพราะจะไม่เกิดผลดี ควรให้เด็กพร้อมทั้งด้านด้านสรีระและด้านสติปัญญาก่อน โดยเพียเจต์แบ่งขั้นของการพัฒนาจริยธรรมออกเป็น 3 ขั้น ได้แก่
ขั้นที่ 1 ขั้นการมีจริยธรรม เริ่มตั้งแต่แรกเกิดถึง 2 ขวบ พัฒนาความเชื่อมั่น ความเป็นตัวของตัวเอง หลังจากนั้น 2 ขวบก็จะสามารถรับรู้สิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวได้
สวัสดีค่ะ..
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ คุณธรรมนำพาชีวิตให้รอดได้
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันค่ะ
ยินดีเป็นเพื่อนใหม่ค่ะ
ขอบคุณมากครับ
ขอเป็นส่วนหนึ่งของความคิด
ที่จะช่วยร่วมพลังถักทอให้
นักเรียนดี เก่ง และมีสุขอย่างแท้จริง
ครูส่วนใหญ่ เป็นคนของกล่อง
จะทำยังไงน้า ให้เค้าสอนเด็ก ออกนอกกล่อง
บางที ยังนึกทบทวนตัวเอง รึว่าเราก้ออีกกล่องนึง
...รักกัน ค่า รักกัน...
ร่วมปฎิวัติการศึกษาเพื่อความเป็นไท