วัฏจักร และ จุดจบของโลก ในทัศนะของพระพุทธศาสนา



         

          ขอตั้งสมมติฐานว่า “จุดจบของโลกอยู่ที่ ๖๐๐๐ ล้านปี และ จุดจบของโลก กับ จุดจบของสัตว์ที่มีวิญญาณครองต่างกัน” โดยมีเหตุผลและอรรถาธิบาย ยกหลักฐานจากพระคัมภีร์ มาประกอบดังนี้ 


- ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์บอกว่า โลกใบนี้เกิดมาแล้ว ประมาณ ๔๕๐๐ ล้านปี
- พระพุทธเจ้าตรัส ว่า ในภัทรกัปนี้ โลกใบนี้เคยมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติแล้ว ๔ พระองค์ คือ

๑. พระกกุสันธะ

๒. พระโกนาคมนะ

๓. พระกัสสปะ

๔. พระโคดม(พระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน)[14] นั่นก็เท่ากับว่า ประมาณ ๑,๑๕๐ ล้านปีมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติ ๑ พระองค์ หลัง จากนั้น โลกจะล้าง เพราะน้ำท่วม,ไฟใหม้ (ภูเขาไฟระเบิด)เป็นยุค ๆไป[15] (แต่โลกยังไม่แตก) ขณะที่โลกถูกไฟไหม้ และน้ำท่วมนั้น มนุษย์ส่วนมากจะไปเกิดในชั้นอาภัสสรพรหม(ไปอยู่กับพระเจ้า) เมื่อภูมิ อากาศและผืนดินอุบัติขึ้นใหม่ ก็จะกลับมาเกิดในโลกอีก[16] พระพุทธเจ้าตรัสบอกอีกว่า ในกัปของโลกนี้ จะมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติเพียง 5 พระองค์[17] แล้วโลกก็จะแตกพินาศไป เพราะไฟ ( ดวงอาทิตย์เรียงกัน ๗ ดวง[18] )
นั่นก็แสดงว่า อีกประมาณ ๑๕๐๐ ล้านปีข้างหน้าโลกจะแตกพินาศ

หลังจากพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ คือ พระศรีอริยเมตตรัย อุบัติแล้ว ๑๐๐๐ ล้านปี
แต่สรรพสัตว์มิได้มีจุดจบอยู่แค่นั้น หลังจากโลกพินาศแล้ว สัตว์ส่วนมากจะไปเกิดในชั้นอาภัสสรพรหม เมื่อโลกอุบัติขึ้นใหม่ ก็จะกลับมาเกิดเป็นสรรพสัตว์ในโลกอีก ดูลายระเอียดได้ใน อัคคัญญสูตรพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๐

หมายเลขบันทึก: 258836เขียนเมื่อ 2 พฤษภาคม 2009 19:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 06:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท