สาเหตุการเสียกรุงครั้งที่ 2 (พ.ศ.2310)
สมัยอยุธยาตอนปลาย ภายหลังสิ้นพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ชาวอยุธยาหลงใหลกับความสุขสบายมากเกินไป จนเกิดความประมาท ระบบราชการหย่อนยาน บ้านเมืองอ่อนแอไม่สามารถต่อสู้กับข้าศึกภายนอกได้ ในที่สุดก็เสียเอกราช เมื่อ วันอังคาร เดือน เม.ย. พ.ศ. 2310
สาเหตุของการเสียกรุงครั้งที่ 2 ประกอบด้วย สาเหตุระยะสั้น และสาเหตุระยะยาว
1. สาเหตุระยะยาว การชิงราชย์
- เนื่องมาจากปัญหาการแย่งชิงอำนาจของชนชั้นปกครองปลายกรุงศรีอยุธยาในราชวงศ์บ้านพลูหลวง ตั่งแต่สินแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ จนถึงสมัยพระเจ้าเอกทัต ซึ่งเป็นให้นำไปสู้การกวาดล้างบ้านเมือง
- ทำให้ขาดผู้มีความรู้ความสามารถในการบริหารและการรบ ผู้แพ้จะถูกฆ่าล้างโคตร เพื่อไม้ให้เป็นเสี้ยนหนาม หรือถูกจองจำ ถูกถอดยศ ยิ่งเกิดการชิงราชย์บ่อยเท่าใด บ้านเมืองก็ยิ่งอ่อนแอมากเท่านั้น
- ทำให้เกิดความแตกสามัคคีในหมู่ข้าราชการ ซึ่งแตกเป็นสองฝ่ายตามแต่เจ้านายตน โดยเฉพาะในสมัยพระเจ้าเอกทัต กับ พระเจ้าอุทุมพร แม้จะมีข้าศึกประชิดเมือง ข้าราชการก็ไม่สามารถสามัคคีกันได้
- ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ เพราะไพร่พลถูกเกณฑ์ไปรบ ไม่มีเวลาทำมาหากิน พ่อค้าต่างชาติไม่กล้าเข้ามาค้าขาย ทำให้บ้านเมืองขาดเสบียง เมื่อพม่าล้อมจึงเสียกรุงในที่สุด
2. สาเหตุระยะสั้น
1.1 การไร้ความสามารถของพระเจ้าเอกทัต
- ทรงไร้สติปัญญา ไม่เป็นที่พอใจของประชาชนและขุนนางกลุ่มต่าง ๆ
- ทรงไร้สามารถในการบริหาร เพราะขาดการวางแผนที่ดี
- ทรงไร้ความสามารถในการบ ไม่เคยเสด็จออกรบ ไม่เคยบัญชาการรบ
- เช่นเมื่อเกิดศึกพม่าใน พ.ศ. 2302 – 2303 พระเจ้าเอกทัตไม่สามารถต้านทานได้ ประชาชนเรียกร้องพระเจ้าอุทุมพร พระอนุชา สึกพระเพื่อมารับศึกพม่า จึงได้รับชัยชนะ
1.2 ฝ่ายไทยตั่งตนอยู่ในความประมาท
- ภายหลังสงครามยุทธหัตถี ของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ใน พ.ศ. 2135 พม่าก็ไม่เคยมาตีไทยอีกเลย จึงรบไม่เป็น
- คนไทยตั่งตนอยู่ในความประมาท หมกมุ่นอยู่ในอบายมุข ขาดความสามัคคี
- ขาดการฝึกซ้อมทางการทหาร การใช้อาวุธ เช่นยิงปืนใหญ่ไม่เป็น เมื่อพม่าล้อมกรุง ฝ่ายไทยผสมดินปืนไม่ได้อัตราส่วน ทำให้ยิงพลาดเป้า
- ขาดการเตรียมพร้อมในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ ปล่อยปะละเลยไม่เคยซ้อมบำรุง
- ขาดการเตรียมเสบียงอาหาร เมื่อพม่าล้อมเมืองทำให้ต้องแบ่งปันอาหารกินเพียงพอกันตาย
1.3 ระบบการเกณฑ์ไพร่พลล้มเหลว
- เนื่องจากมีบัญชีไพร่พลอยู่ตามกรมกองต่าง ๆ ไม่ได้อยู่ในกรมสุรัสวดีอย่างแต่ก่อน
- จำนวนไพร่พลที่แท้จริงไม่ตรงตามบัญชี เจ้ากรมกองต่าง ๆ มักปิดบังเพื่อประโยชน์ของตนเอง
- ประชาชนหนีระบบการเกณฑ์ไพร่พล ประชาชนและขุนนางต่างหนีเอาตังรอดเมื่อเห็นว่ากรุงจะแตก
1.4 การจัดการปกครองอาณาจักรที่เห็นแก่ความมั่งคงของกษัตริย์จนเกินไป
- เช่น ห้ามขุนนางหัวเมืองและขุนนางชั้นผู้ใหญ่ไปมาหาสู่กันโดยไม่ได้พระบรมราชานุญาติ ขุนนางจึงขาดความสามัคคี ขาดความร่วมมือกัน
- เจ้าเมืองต่าง ๆ ตั่งตนเป็นใหญ่ ตั่งตนเป็นอิสระ ไม่ขึ้นตรงต่อกรุงศรีอยุธยา
2.ปัจจัยฝ่ายพม่า
- เชลยพม่าที่ไทยจับตัวมาไว้ในกรุงศรีฯ รู้ทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งภายในกรุงศรีฯ แอบส่งข่าวให้กับทางพม่า
- พม่าเตรียมตัวมาดี มีการเตรียมเสบียง เตรียมเรือ ไม่ต้องยกทัพกลับเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก ดังครั้งก่อน
- พระเจ้ามังระ กษัตริย์พม่ามีความสามารถทางการรบ ทรงยึดหัวเมืองต่าง ๆ ก่อนเข้าตีกรุง หัวเมืองเหล่านั้นจะได้ไม่สามารถยกกำลังเข้ามาช่วยกรุงศรีฯ ได้
จากสาเหตุปัจจัยดังที่ได้กล่าวมาทั้งหมด ทำให้กรุงศรีอยุธยาต้องเสียกรุงในครั้งที่ 2 ในปี 2310
วาทิน ศานติ์ สันติ : เรียบเรียง
คนไทยตั่งตนอยู่ในความประมาท หมกมุ่นอยู่ในอบายมุข ขาดความสามัคคี
เรื่องนี้ เรื่องใหญ่มากนะคะ
ขอบคุลมั๊กๆๆค่ะหามานานเลย
สุดยอดมากมายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุนเป็ยอย่างยิ่งค่ะ
สอบพรุ่งนี้ต้องทำได้!
ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากนะค่ะ
ใช้ทำงานที่อาจารย์สั่งได้มากเลย
ขอบคุณค่ะ
เพลงเพราะมากเลยคร๊ เพลงอารัยคร๊ อยากรู้
ตอบด้วยน่ะคร๊
ประวัติที่ให้มา ทำ ไห้ นุ ได้คะเเนน ตั้ง 5 % เลยคร๊
ขอบคุณครับ
ขอบคุนมากๆคร๊าบ สาระทั้งนั้นเลย ^^
555+
55555
5555
กำลังกลับไปสู่อดีต กำจัดศัตรูฝ่ายตรงกันข้าม อ้างว่าทำเพื่อประเทศ แต่ก็ทำเพื่ออำนาจของตนทั้งนั้น
ทหารฝรั่งเศส ที่ถูกกวาดล้างสมัยพระเพทราชา มีส่วนหนึ่งที่แตกเหล่ากอ ในเมืองพม่า รู้ตึ้นลึกหนาบางอย่างดี
นักประวัติศาสตร์ค้นไม่เจอ หรือไม่ได้ค้น
ขอบคุนค่ะที่ทำให้รายงานเเผ่นนี้เสร็จ
ขอบคุณค่ะ หาอยู่นาน จะเอาไปทำmind mapping ส่งอาจารย์พอดี หาเเบย่ออยู่ ขอบคุณอีกทีค้าา