เว็บศูนย์รวม "โยคะสารัตถะ" |
ดล เกตน์วิมุต (ครูดล)
(เข้าอ่านงานเขียนทั้งหมดของครูดลได้ที่นี่)
โยคะสารัตถะ ฉบับเดือน ธันวาคม ๒๕๕๑
ต้องขอสารภาพตรง ๆ เลยว่าการเลือกเรียนวิชาชีวิตและความตายในระดับปริญญาโทในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจเลือกเรียนที่เร็วที่สุด เรียบง่ายที่สุด คงมีเหตุปัจจัยเกื้อหนุนมากโดยเฉพาะเหตุปัจจัยที่เล่าในบทที่แล้ว ไม่เหมือนกับเมื่อครั้งที่เคยลองเรียน MBA ทั้งที่ต่างประเทศและในประเทศมาถึง ๒ ครั้ง ซึ่งก็ล้มเหลวทั้ง ๒ ครั้ง เพราะรู้สึกลึก ๆ ว่าไม่ใช่ทาง เรียนไปแล้วไม่มีความสุขเลย แต่ครั้งนี้เพียงแค่เห็นใบปิดประกาศขนาด A4 ธรรมดา ๆ ไว้ที่ฝาผนังว่า สมัครวิชาชีวิตและความตายที่ห้อง ๒๑๑ เพียงแค่นี้จริง ๆ รู้สึกโดนเต็ม ๆ ตัดสินใจได้เลยว่าจะเรียนต่อที่นี่ วิชานี้ และคงมีความสุขในการเรียนอย่างแน่นอน แล้วก็ทำการกรอกใบสมัครในทันทีบัดเดี๋ยวนั้น ที่ภาควิชาจิตวิทยา คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาชีวิตและความตาย มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย รุ่นแรกของประเทศซะด้วย กรอกใบสมัครเรียบร้อย จ่ายค่าลงทะเบียนสมัครสอบเรียบร้อยถึงจะค่อยมาดูรายละเอียดว่าถ้าสอบติดจะต้องเรียนอะไรบ้าง
เมื่อสมัครเรียบร้อย ผ่านกระบวนการสอบคัดเลือกใน ๓ รายวิชา คือ วิชาความรู้ความสามารถทั่วไป วิชาภาษาอังกฤษ และวิชาจิตวิทยาพื้นฐาน และผ่านการสอบสัมภาษณ์จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
หลังจากฟังผลว่าผ่านกระบวนการสอบทั้งหมดแล้ว ทำให้ข้าพเจ้าระลึกทบทวนของคำพูดของท่านหนึ่งที่เคยทักทายข้าพเจ้าไว้ว่า จะได้ทำหน้าที่ส่งผู้คนจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง คำพูดนี้ได้แต่ก้องอยู่ในหัวแต่ไม่ชัดเจน ได้แต่นึกถึงอาชีพไกด์ซึ่งก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลย จนมาถึงช่วงเวลาที่จะเข้าเรียนนี่เอง ที่จะได้มีโอกาสเรียนวิชาที่ว่าด้วยเรื่องจิตวิญญาณแห่งความเป็นมนุษย์ ในรุ่นแรกของประเทศ ประกอบด้วยพระนิสิต ๑๐ รูป และนิสิตชาย ๓ คน หญิง ๑๒ คน
การเรียนสาขาวิชาชีวิตและความตายของข้าพเจ้าค่อนข้างถูกเก็บเป็นความลับ เลือกบริบทที่จะสื่อสารกับผู้คนที่ต่าง ๆ กันไป อย่างที่บ้านก็บอกแต่เพียงว่าไปเรียนต่อโท กับเพื่อน ๆ ก็บอกว่าเรียนต่อโท ส่วนใหญ่จะถามต่อว่าเรียนอะไร อ๋อเรียนจิตวิทยา มนุษยศาสตร์ ที่ไหนล่ะ มหาจุฬาฯ เพื่อนก็โห เรียนจุฬาฯ เราก็เออ ๆ ออ ๆ แล้วแต่การรับรู้ของบุคคลที่สื่อสารด้วย เพราะหลายคนไม่รู้จักว่ามีมหาจุฬาฯ คำว่ามหาแปลว่า ยิ่งใหญ่ แสดงว่าที่เราเรียนใหญ่กว่า จุฬาฯ แต่คนในวงกว้างก็จะรับรู้ว่าเราเป็นจุฬาฯ เฉย ๆ ที่ไม่ยิ่งใหญ่ ประกอบกับชื่อวิชาที่หลายคนได้ยินได้ฟังก็ หา! มีด้วยหรือ เรียนอะไรกัน เรียนไปทำไม จบแล้วจะทำอะไร ดังนั้นการเลือกบริบทที่จะสื่อสารถึงบุคคลที่ฟังเราอยู่ จะช่วยทำให้เราดูเหมือนยังเป็นคนปกติ กลมกลืน ไม่แปลกแยก ไม่หลุดไปจากบุคคลเหล่านั้น และมองอย่างเข้าใจตามความเป็นจริง แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับหลาย ๆ ท่านที่เราจะรู้สึกได้เองว่าสามารถเล่าให้ฟังได้ทั้งหมดเลยว่าเรียนอะไร อย่างไร ทำไม ที่ไหน แล้วเอาไปทำอะไร
(ฉบับหน้า มาติดตามกันว่าเค้าเรียนอะไรกันในวิชาชีวิตกับความตาย)
ภายใต้มูลนิธิหมอชาวบ้าน
2220/101 ซอยรามคำแหง 36/1 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
โทรศัพท์ 02-732-2016 - 17, โทรสาร 02-732-2811 มือถือ 081-401-7744 ;
E-mail: [email protected] ; www.thaiyogainstitute.com
.....
ไม่มีความเห็น