สวัสดีค่ะพี่น้องชาวไทย วันนี้กลมดิ๊กมีเรื่องดีและไม่ดีจะมาเล่าให้ได้อ่านกัน
เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งกลมดิ๊กไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า(ไปคนเดียว) ซื้อพวกของใช้ที่จำเป็นเช่น
ครีมอาบน้ำ ผงซักฟอก ยาสีฟัน อาหารแห้งยอดนิยมต่างๆ และอื่นๆอีกมากมาย
เสร็จก็นั่งรอรถเมย์สายที่คุ้นเคย โดยมีของเต็มทั้ง2มือ(เต็มมือจริงๆ) พอรถเมย์มา
ก็เหมือนคนอื่นๆ ที่ต้องรีบวิ่งขึ้นไปนั่งซึ่งก็ไม่มีที่ให้นั่ง เลยต้องยืนจากนั้นกลมดิ๊กก็ คิดว่า
"ชั้นจะเอามือไหนหยิบเงินมาจ่ายค่ารถหล่ะของเต็มมือไปหมดเลย หนักก็หนัก โอ๊ยยยยย"
ไม่นานก็มีเสียงสวรรค์ " หนูๆเอาของมาเดี๋ยวป้าช่วยถือ " ตอนนั้นกลมดิ๊กรู้สึกขอบคุณป้าคนนั้นมาก
คือป้าเค้านั่งอยู่ใกล้ๆกับตรงที่กลมดิ๊กยืนพอดี แถมป้าเค้าก็ยังชวนเราคุยตลอดทางอีกด้วย
(นี่เป็นเรื่องดีๆบนรถเมย์ที่กลมดิ๊กได้พบซึ่งเป็นส่วนน้อยมากที่จะพบแล้วในปัจจุบันนี้)
ในปัจจุบันนี้ กลมดิ๊กนั่งรถเมย์ไปไหนส่วนมากจะเห็นคุณผู้ชายทั้งหลายนั่งหลับหรือทำเป็นฟังเพลง
โดยไม่มีจะสนใจว่ามีคนท้อง คนชรา คนพิการ ยืนห้อยโหนบนรถเมย์ที่วิ่งเร็วยิ่งกว่าที่สวนสนุก
กลมดิ๊กเป็นคนหนึ่งที่ต้องเสียสละที่นั่งให้บ่อยมาก และเห็นผู้หญิงหลายคนที่เสียสละแบบเดียวกัน
ทั้งๆที่มีผู้ชายที่สมประกอบดีทุกอย่างนั่งอยู่เต็มรถ
มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเราคนไทยมีน้ำใจให้กันแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างการให้ที่นั่งบนรถเมย์
ความเสียสละ ปัจจุบันหาได้ยากในสังคมไทย
ใช่แล้วค่ะ
หาได้ยากความมีน้ำใจในสังคมไทยในปัจจุบัน
งั้น...พวกเรามาแบ่งปันน้ำใจให้คนอื่นเค้าได้เห็นเป็นตัวอย่างกันเถอะค่ะ
ผู้หญิงเราต้องงามทั้งกายและใจ
เขียนอย่างนี้ "รถเมล์"
ฉันก็ช่วยคนอื่นถือของบนรถเมล์ด้วยนะจ๊ะวันนี้
ช่ายๆๆๆเราก้อเห็นด้วย
แต่ถ้าเปงในต่างจังหวัด
คนที่นั่นจะมีน้ำใจก่านี้เยอะนะ
แต่พอเข้ามาอยู่ กทม.
รู้สึกแย่มาก
เราก้อเคยถือของมากมาย
ตัวก้อเล็กไม่มีน้ำใจเลย
ใจดำมาก สังคมนี้ไม่น่าอยู่เอาซะเล้ย