ประชุมผู้ปกครอง สาธิต มศว.ปทุมวัน


สถานการณ์...สร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้?

 

วันนี้ขับรถออกมาตั้งแต่ยังไม่ 7.00 น. มือถือดัง คุณพ่อที่รักของลูกๆ ของเรา โทรมาบอกว่าคุณครูของลูกชายเชิญประชุมที่โรงเรียน เลยต้องรีบไปโรงเรียนลูกซึ่งก็อยู่ติดที่ทำงานของเราเอง นั่งฟังการประชุมที่เริ่มต้นด้วย ผ.อ.สมลักษณ์ พูดเรื่องราวทั่วไป นโยบายของโรงเรียน การดูแลนักเรียนกลุ่มพิเศษ (แม่เรียกเอง) ต่อด้วยรอง ผอ.ฝ่ายวิชาการ ชี้ให้เห็นถึงจำนวนนักเรียนตามระดับเกรด คะแนนเฉลี่ยของนักเรียน ม.1 -ม.2 ของแต่ละห้อง ร่วมทั้งของม.3  เพื่อให้ผู้ปกครองและนักเรียนที่ถูกเรียกมาประชุมได้เห็นแนวโน้มของคะแนน ซึ่งมีอัตราส่วนของนักเรียนได้ เกรด 4 เกรด 3 จะลดลงตามระดับชั้นที่สูงขึ้น พอพูดจบแม่ก็เริ่มเข้าใจในวัตถุประสงค์ของการเรียกประชุม และเมื่อฝ่ายปกครอง มาสรุปพฤติกรรมต่างๆ ในรอบปีที่ผ่านมาของนักเรียน ยิ่งทำให้แม่รู้สึกถึงความจริงใจ ความห่วงใยของฝ่ายบริหารของโรงเรียนสาธิต มศว. ปทุมวัน มากยิ่งขึ้น แถมโดยการให้แนวทางการดูแลบุตรหลานกลุ่มพิเศษนี้ เพื่ออนาคตของการเลือกแผนการเรียนในระดับมัธยมปลาย ซึ่งต้องบอกว่าขอบคุณมาก...ที่วางแผนการพัฒนาให้ลุกๆ หลานๆ ของเราจริงๆ  ซึ่งจริงๆ แล้วเราไม่เคยได้ประชุมเพื่อวางแผนการแก้ไข ป้องกัน พัฒนาแบบนี้มาก่อนเลย เป็นการประชุมที่ทำให้แม่ต้องตระหนักถึงความจำเป็นของการพัฒนาการเรียนรู้ของลูกที่ต้องมีการวางแผนการพัฒนา ไม่ใช่เกิดเหตุแล้วตามแก้  หลังประชุมเสร็จ ต้องหันไปถามลูกชายว่า

"แล้วลูกแม่โดนกรณีอะไรนี้ คะแนนไม่ถึง 2.50 หรือ"  แม่ถามลูกชายคนโต

ลูกก็บอก "ไม่ใช่เพราะลูกสอบผ่านหมดทุกวิชา"  ลูกตอบ

"ความประพฤติล่ะลูก"  แม่ถามต่อ

ลูกตอบ "ไม่มี ลูกไม่เคยก้าวร้าวกับผู้ใหญ่และทุกคน"

แม่ถามต่อ "พฤติกรรมเข้ากับสังคมไม่ได้ มีไหมลูก"

ลูกตอบ "ไม่มี แม่"  แม่ก็รับ "เออจริงน่ะ ดูเพื่อนๆ ลูกออกจะสนใจลูกน่ะ"

เมื่อการประชุมในห้องประชุมเสร็จสิ้น ผอ.ก็เชิญผู้ปกครองพบครูที่ปรึกษา แล้วแม่ก็ถึงบางอ้อ ลูกแม่อยู่ในข่ายคะแนนน่าเป็นห่วงในวิชาเลข (เลขทื่นี่ยากมาก ละเอียดมาก ใช้กระบวนการสอนที่ทำให้ลุกของแม่เป็นคนที่รอบคอบ มีระเบียบมากขึ้นทันตา ทันใจจริงๆ ) ครูก็บอกกรณีของนักเรียน 422 มีกรณีเดียว คือ คะแนนน่าเป็นห่วงว่าจะไม่สามารถเข้าแผนที่ต้องการได้ เช่น แผน1 วิทย์-คณิต ซึ่งเป็นแผนที่เลขต้องได้ 2.5 ประมาณนี้ น่ะ ไม่แน่ใจ  ครูบอกถึงความห่วงใยของนักเรียนแต่ละคน พอมาถึงเลขที่ 21 ลูกแม่เอง คะแนนวิชาอื่นๆ ไม่ห่วง แต่เลข เทอม 1 ได้ 2.00 เทอม 2 ได้ 2.50 ครูเป็นห่วงว่าถ้าไม่พัฒนาเป็น 3.0 ใน ม.3 พอ ม.4 อาจไม่ได้เข้าแผนวิทย-คณิต ขอบคุณ  ครูจริงๆ (แต่แม่ยิ้มอย่างมีความสุข และเป็นปลื้มที่เห็นลูกทำสำเร็จตามที่ตั้งใจ โดยความเพียงพยายามของเขา ขณะที่เขาต้องซ้อมกีฬาอย่างหนักทุกคืน แม่ไปนั่งเฝ้ารอรับกลับบ้านดึกทุกคืน ไม่เคยได้ทำการบ้านให้แม่ได้เห็นที่บ้าน

ถึงบ้านก็หลับตามสไตล์วัยร่นนักกีฬา)

แค่ได้เห็นพัฒนาการการเรียนรู้ของลุกที่ไม่หยุดนิ่ง ไม่ถอยหลัง แค่นี้ก็เป็นรางวัลให้แม่ได้สุขใจแล้ว แต่ก็ต้องขอขอบคุณทางโรงเรียนที่จัดการประชุมครั้งนี้ แบบกระทันหัน โทรบอก 7.00 กว่าๆ ประชุม 10.00 น. เพราะผลของการประชุม  ทำให้ลูกมีกำลังใจ มีการตั้งเป้าหมายของการเรียนรู้ ว่าต้องพัฒนาวิชาเลขให้ได้ 3.0 ดีใจจัง

 

สถานการณ์ข้างต้น .... ถือเป็นการสร้างบรรยากาศ ที่กระตุ้นความสนใจเรียน ได้หรือไม่

ช่วยแสดงความคิดเห็นให้หน่อยค่ะ

หมายเลขบันทึก: 249517เขียนเมื่อ 19 มีนาคม 2009 14:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ตุลย์ตั้งใจมากนะจะทำให้ตุลย์ม่งไปสู่จุดหมายที่ตุลย์หวังไว้นะ รักตุลย์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท