ช่องว่างระหว่างความคิดหรือทฤษฏีกับชีวิตจริงหรือการปฏิบัติ
อีกเรื่องหนึ่ง คือ การจัดการรายกรณี
ซึ่งผ่านการพิสูจน์มาพอสมควรว่าเป็นวิธีการที่ดี สำหรับการดูแลผู้ป่วยที่จะส่งผลดีให้เกิดผลลัพธ์ที่พึงประสงค์
การจัดการรายกรณี เริ่มมายังไง
เริ่มๆมาจากการพยาบาลชุมชน ประมาณ 100 ปี ที่ผ่านมา ที่ต่างประเทศ เพราะมีปัญหาว่าพยาบาลกับนักสังคมสงเคราะห์ที่ไปเยี่ยมบ้านผู้ป่วยทำหน้าที่ประสานงานต่างๆให้ผู้ป่วย คือไปจัดการเรื่องต่างๆให้ว่างั้น
ต่อมาก็จัดการเรื่องผู้สูงอายุ ในอเมริกา นะ แล้วมีการพัฒนามาเรื่อยๆ จะมุ่งเน้นให้การบริการได้คุณภาพและคุ้มค่า
นำมาใช้ในกลุ่มผู้ป่วยระยะฉุกเฉิน เร่งด่วน(Acute)ในช่วง ปี1980-2000 นี้เอง ก็ประมาณ 10-20 ปี ที่ผ่านมา ในต่างประเทศนะ
ผู้เขียนเคยรับทราบจากพยาบาลที่เค้าไปทำงานที่USA เล่าให้ฟัง บอกว่า Nurse Case Manager จะดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาพยาบาลตามมาตรฐาน ด้วยเหตุนี้ก็สามารถประเมินผลลัพธ์ ด้านคุณภาพและค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
นี้บ้านเราก็ว่าวิธีแบบนี้น่าจะนำมาประยุกต์ใช้บ้าง ก็มีการส่งเสริมเรื่องนี้กัน ในกลุ่มโรคที่มีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายสูง แต่เรียกกันว่า Disease Manager เช่น กลุ่มโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน อะไรประมาณนี้
แต่โครงสร้างตำแหน่งจะต่างกับต่างประเทศ เป็นพยาบาลของเราทำหน้าที่กันหลายอย่าง
ตามศักยภาพของพยาบาล ไม่มีโครงสร้างตำแหน่ง หรือขาดระบบรองรับ
ทางออก คือ
1.ตัวพยาบาล ควรทำความเข้าใจกับบทบาทหน้าที่ใหม่ ต้องพัฒนาศักยภาพด้ายภาวะผู้นำและพัฒนาองค์ความรู้ เพราะขึ้นชื่อว่าผู้จัดการรายกรณี เสมือนว่า ต้องรับบทหนัก
2.หน่วยงาน ควรที่จะพัฒนาโครงสร้างให้ชัดเจน มอบหมายภาระกิจให้ตรงกับความสามารถ
ก็นำว่าคุยกันดูว่า ฝันตรงนี้จะเป็นจริงได้ ต้องลดช่องว่าง
ขอบคุณ น้องเกดมาก
ประเด็นนี้ที่มาเข้ามา อยากให้หน่วยงานหรือพยาบาลที่ทำหน้าที่มาแลกเปลี่ยนกัน
น่าจะมีทางออกให้สำหรับพยาบาลนักพัฒนาทั้งหลาย
ได้มองเห็นทางออกที่สว่างขึ้น
ถ้าจะว่าไปแล้ว หน่วยงานภายนอกอย่าง สปสช ก็มีอิทธพลต่อการเปลี่ยนแปลง เพียงแต่จะเริ่มด้วยเป้าหมาย เรื่อง ความคุ้มทุน ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพียงแต่ว่า คนในวิชาชีพต้องสร้างเป้าหมายขึ้นมาเพิ่ม เรียกกันว่า เติมให้เต็ม
อย่างนี้ดีมั๊ยคะ