เพลงกันตรึม คือเป็นเพลงศิลปะพื้นบ้านแห่งอีสานใต้ ซึ่งได้รับการสืบทอดมาหลายอายุคน บรรยากาศของเพลงกันตรึมซึ่งร้องเป็นภาษาเขมรนั้นไม่ต่างอะไรกับเพลงลูกทุ่ง ที่บรรยายความรู้สึกแห่งท้องทุ่งนา ความรัก หนุ่มสาวซึ่งมาในยุคหลังได้มีการประยุกต์เป็นเพลงกันตรึมยุคใหม่ปรับตัวให้ทันกับเพลงตลาด
ภูมิปัญญาคนที่เกี่ยวข้องกับบทเพลงกันตรึมเริ่มที่จะมีน้อยเต็มที ยิ่งรุ่นคุณลุงคุณตาที่เคยเล่นเพลงกันตรึมโบราณแล้วยิ่งจะหาชมได้ยาก เพราะทุกวันนี้ไม่ว่างานบวช งานแต่งงาน ฯลฯ แทนที่จะมีเสียงบรรเลงเพลงกันตรึมเหมือนในสมัยก่อนนั้นในยุคนี้แทบจะไม่มี เพราะว่าชาวบ้านได้รับค่านิยมในการนำกลองยาวมาเล่น วัฒนธรรมเลยถูกกลืนไปโดยปริยาย
หากจะพูดถึงเสน่ห์เพลงกันตรึมนั้น ถ้าคนที่เคยอิงกับบรรยากาศเก่าๆนั้นแทบร้องไห้ ไม่ว่าจะขึ้นจังหวะ ปะกม มลบโด่ง อมตูก ซึ่งจะหาฟังได้ยากในยุคนี้ เคยมีเพื่อนคนหนึ่ง พอผมเปิดเพลงกันตรึมของตาโบแล้ว พอได้ฟังในจังหวะปะกมเท่านั้นเอง เพื่อนผมคนนี้กลั้นน้ำตาไม่อยู่ บอกว่าฟังเพลงนี้แล้วเหมือนกลับไปอยู่ในยุคนั้น คิดถึงคนรักเก่า คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ คิดถึงท้องไร่ท้องนา เหมือนภาพในอดีตนั้นปรากฏขึ้นมาอีกประมาณนั้น
ลุงเยน จันทร์สีดา อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/1 หมู่ที่ 8 บ้านนาตัง อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ท่านเป็นภูมิปัญญาคนหนึ่งซึ่งได้ยึดอาชีพเป็นมือซอ ปี่อ้อ แคน กลองแม้กระทั้งเป็นนักร้องในวงกันตรึมมาประมาณ 50 ปี แล้ว หลังจากที่จบ ป.4 คุณลุงเยนก็ได้ฝึกเล่นเพลงกันตรึมเริ่มหัดซอ ปี่อ้อ แคน และกลองจนสามารถเล่นได้ และพาเพื่อนๆในหมู่บ้านเล่นเพลงกันตรึม งานช่วงนั้นผู้คนก็มาติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นงานบวชนาค รำแม่ม๊วต ยังเป็นมือแคนให้กับนักร้องกันตรึมชื่อดัง อย่างคุณพ่อแสงจันทร์ แม่ประยูรญาติ อีกด้วยซึ่งท่านเป็นพ่อแม่ของคุณดาร์กี้กันตรึมร็อค ราชาเพลงกันตรึมที่ฝากบทเพลงกันตรึมอันไพเราะในหลายชุด แม้ว่าชีวิตท่านจะหาไม่แล้ว ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ถือกำเนิดจากบ้านนาตัง ตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
โรงเรียนบ้านนาตังตะแบก ได้เห็นความสำคัญของบทเพลงกันตรึม ทางผู้อำนวยการสาโรช จารุเสฏฐิโน ได้สานรอยต่อในการนำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นครูเพลงอย่างอาจารย์มณี (เอกภาพ) ผาดโผน มาทำการฝึกสอน ซึ่งประวัติอาจารย์มณี นั้นท่านเป็นบุคคลหนึ่งที่น่าศึกษา เพราะว่าอดีตเคยเป็นนักมวย หลังจากใช้ชีวิตอยู่ในสังเวียน เกิดผลิกผัน ท่านเกิดตาบอดเพราะคู่ชกได้ใช้วิธีในการเล่นงานท่าน จากนั้นมาท่านได้ฝึกใช้ซอเองโดยไม่มีใครสอน จนปัจจุบันชื่อเสียงของท่านเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นมือซอให้กับวงดาร์กี้กันตรึมร็อค กันตรึมชื่อดัง
สำหรับนักเรียนโรงเรียนบ้านนาตังตระแบก ที่ได้สนใจในการเรียนกันตรึมนั้น ก็ได้แรงบันดาลใจอีกท่านหนึ่งคือ อาจารย์จันทนา ซึ่งท่านได้นำเทปของกันตรึมน้ำผึ้งเมืองสุรินทร์มาฟังและหัดร้องตามจนกระทั่งร้องชำนาญและได้แต่งเพลงกันตรึมไว้เองด้วย พร้อมยังศึกษาร้องเพลงกันตรึมจากอาจารย์หลายท่าน ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ธานัน ดีสม อาจารย์เอกภาพ ผาดโผน โดยได้ฝึกฝนนักเรียนดังนี้
1 น.ส.มณีรัตน์ อุนัยบัน (มนตรา ปัจจุบันเป็นนักร้องกันตรึมอาชีพ สังกัด วงดาร์ก้ากันตรึมร็อค และยังศึกษาอยู่ที่ กศน.เขวาสินรินทร์ )
2 ด.ญ.ศิริลักษณ์ แก้วภา
3 นายคำนึง พิศโสระ
4 นายเด่นศักดิ์ พิศโสระ
5 ด.ช.พงษ์สิทธิ์ อินทร์ทอง
6 ด.ช.วีรพงษ์ วันตรง
7 ด.ช.คำนึง ดุนสุข
8 นายฉัตรชัย คำดี
9 ด.ญ.ธนาภรณ์ บุญทวี
10 ด.ญ.นิสาลักษณ์ ถือชัย
11 ด.ญ.สรัญญา แก้วดวงงาม
12 นางสาวพัชริดา สุริโย
13 ด.ญ.วิภา คำดี (มือซอ)
14 ด.ญ.สุดารัตน์ ภาสุวรรณ
15 นางสาวพรศรี แต้มทอง
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเยาวชนที่ได้รับการฝึกฝนจากโรงเรียนบ้านนาตังตระแบก และโรงเรียนอื่นที่มีการสนับสนุนวงกันตรึมในสถานศึกษา แม้กระทั่งหน่วยงานอบต. อำเภอต่างๆที่ให้การสนับสนุน ได้ช่วยกันอนุรักษ์ศิลปะพื้นบ้านตำนานบทเพลงแห่งมนต์ขลัง เสน่ห์เมืองอีสานใต้ได้อยู่คู่ลูกหลานต่อไป
ขอบคุณมากค่ะ มาช่วยกันรักษ์ไทย
สุดๆๆไปเลย
ขอเป็นกำลังใจให้คณะครูและน้อง ๆนักเรียนโรงเรียนบ้านนาตังทุก ๆคน
โอ้ว ! มีชื่อน้องชายเราด้วย
คนบ้านนาตัง เหมือนกันจ้า
ผมว่าน้อง ๆต้องมีคนหนึ่งคนใดที่จะได้ร้องกันตรึมอาชีพแน่เลย...
ชอบมากที่สุดดดดดด
เพราะมากแล้ว ฟังแล้วคิดถึงบ้าน เด็กบ้านนาตัง
ผมชอบมากๆครับ เขาเล่นได้ดีและสนุกสนานครับ
ศิษย์เก๋า
จวย เคนีย เรียกสา เกร์ ก็วล ตาแย็ย ตุก เน้อ โพง เยิง กม ออย บัด ปี มืง เสร็น...
คิดถึงบ้านนาตังจัง จากคนหลอนเซเว่น
ขมาดชอบจะนับ
ชื่นชอบและชื่นชมครับ
ผมเคยเป็นนักดนตรีกันตรึมของโรงเรียนมาก่อน