2 วัน ที่บ้านผู้หว่าน ในเวทีเสวนาคุณอำนวย 17-18 เมษายน 2549 บางส่วนของการได้เรียนรู้ ได้เล่าในช่วงของการทำ AAR แต่มีบางประเด็นที่ขอบันทึกเพิ่มเติมว่า...ได้เรียนรู้อะไร...และจะทำอะไร..อย่างไร...
ไม่ได้โดดเดี่ยว....สิ่งแรกก็คือได้พบเพื่อน มวลมิตรทั้งหลายที่ได้นำ KM เข้าไปปรับใช้ในการพัฒนางาน ซึ่งมีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง หลายหน่วยงานหลายอาชีพ เรายังมีเพื่อน....เรามีเครือข่าย
เป็นทั้งผู้ให้....ได้มีโอกาสที่ได้เป็นผู้ให้ ทั้งเล่าประสบการณ์และได้ให้กำลังใจกับหลายๆ ท่าน ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และมุมมอง
เป็นทั้งผู้รับ...ในขณะที่ให้ ก็เป็นผู้รับไปพร้อมๆ กัน เพราะเกิดความปิติ และสร้างพลังให้เกิดขึ้นเพื่อเสริมหนุนพลังในตนเอง...
ได้ประเมินตนเอง..... เพราะโดยธรรมชาติของการทำงานในการเป็นคุณอำนวย ... ต้องประเมินทุกด้านเท่าที่จะทำได้ และทุกขณะเวลา ...เรียนรู้ตนเอง
เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา.....เรียนรู้เทคนิคจากคุณอำนวยท่านอื่น ที่ทำงานแตกต่างกับเราและได้ข้อสรุปว่า....คุณอำนวยต้องเรียนรู้และพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
ทุกที่และทุกสิ่งล้วนท้าทาย.... ทุกหน่วยงานย่อมมีอุปสรรค ไม่ราบรื่นเสมอไป มากบ้างน้อยบ้าง แต่เราต้องไม่คิดว่าเป็นปัญหา...แต่มันเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถของเราต่างหาก
คิดเชิงบวก... จะทำไห้เรามองเห็นความแตกต่างหลากหลาย จะส่งผลพัฒนาคุณอำนวยให้เรียนรู้ที่จะยอมรับในความแตกต่างและหลากหลายเหล่านั้น แล้วเราจะ "นิ่ง" ที่จะฟังอย่างลึกได้ ใจเย็นและรอโอกาสที่จะมาถึงได้
เรียนรู้จากการปฏิบัติ... คุณอำนวยต้องลงมือทำ ฝึกฝนและเรียนรู้อย่างหนัก สะสมประสบการณ์และชั่วโมงบินให้สูงๆ มีศาสตร์และมีศิลป เพื่อก้าวสู่....การเป็นคุณอำนวยที่มีรูปแบบแต่ไร้รูปแบบ
เป็นตัวเชื่อมประสาน... เพราะในหน่วยงานหรือองค์กร เราในฐานะคุณอำนวยต้องเป็นตัวเชื่อมระหว่างคุณเอื้อ และคุณกิจ
นอกจากนั้นคุณอำนวยต้องแสดงบทบาทได้หลายๆ บทบาท เช่น บางครั้งก็ต้องเป็นคนกระตุ้น ยั่วยุ (ดาวยั่ว) เป็นต้น
ทำทุกอย่าง(สิ่งที่ถูกต้อง) เพื่อทำให้ KM ได้ขับเคลื่อนหน่วยงานหรือองค์กรของเราให้เดินไปสู่ธงหมายที่แต่ละหน่วยได้ปักไว้....เพื่อสังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้
บันทึกมาเพื่อการ ลปรร.
วีรยุทธ สมป่าสัก
Pijit Team and Khun OO