ชีวิตที่พอเพียง : 7. ความเย้ายวน
- มีใครบ้างที่จิตใจไม่หวั่นไหวไปกับความเย้ายวน
- ระหว่างปี ๒๕๑๖ – ๒๕๑๙ ได้รับมอบหมายให้ดูแลการก่อตั้งภาควิชาพยาธิวิทยา (คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์) ได้ไปดูงานศึกษารูปแบบการทำงานของที่รามาธิบดี และที่ศิริราช ได้ความรู้มาก เอามาฝันและออกแบบภาควิชาใหม่
- มีการตั้งงบประมาณซื้อครุภัณฑ์ คือเครื่องมือในห้องปฏิบัติการ มีรายการในหนังสืองบประมาณ เราไปเดินดูจากร้านของบริษัทรัชมอร์ของคุณอมร วีระไวทยะ ตรวจสอบแล้วว่าคุณภาพดี และราคาไม่แพง ก็สั่งให้ส่งลงมาหาดใหญ่ ไม่ช้าก็มีเช็คธนาคารประมาณสามพันบาท (ตอนนั้นเงินเดือนของเรายังไม่ถึงสามพัน) ส่งจากบริษัทรัชมอร์ส่งมาให้ สั่งจ่ายชื่อ นพ. วิจารณ์ พานิช
- เราส่งเช็คคืนคุณอมร บอกว่าเรารับไม่ได้ และถึงแม้เอามาทำประโยชน์แก่ภาควิชาก็ไม่เหมาะเพราะคนอาจคิดว่าเอาเข้าตัว ขอเป็นของดีกว่า เป็นของที่คุณอมรขาย และภาควิชาก็ต้องการใช้ ถือเป็นการบริจาคให้แก่ภาควิชา เป็นวิธีที่เรายึดถือปฏิบัติเรื่อยมา
- สมัยเป็นคณบดี ใช้วิธีต่อรองค่าคอมมิชชั่นในการซื้อยากับบริษัทยาอย่างเปิดเผย ตอนแรกคิดจะต่อราคาให้ต่ำสุด แต่บริษัทยา (และบริษัทขายของอื่น) บอกว่าขายราคาต่ำเกินไปไม่ได้ เพราะจะเสียราคา เขาขายที่อื่นเขาต้องเสียค่าคอมมิชชั่นมาก บางแห่งถึง ๓๐% สุดท้ายเราใช้วิธีต่อรองให้ราคาต่ำสุดที่เขาจะขายได้ และต่อรองค่าคอมมิชชั่นด้วย การต่อรองช่วงแรกๆ ทำร่วมกับหัวหน้าเภสัช (คุณละเมียด จุลิกพงศ์ – เสียชีวิตแล้ว) พอรู้แนวก็มอบให้คุณละเมียดดำเนินการ บอกคุณละเมียดว่าขอให้ทำอย่างตรงไปตรงมา รักษาประโยชน์ของคณะให้มากที่สุด และร่วมกันรักษาชื่อเสียงของเราสองคนร่วมกัน เพราะถ้ามีข้อสงสัยว่าการซื้อยาของคณะมีผู้ได้รับผลประโยชน์ คนเขาก็จะสงสัยเราสองคนนี่แหละ ค่าคอมฯ ทั้งหมดเอาเข้ามูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ มีใบเสร็จออกให้บริษัทยาว่าเป็นเงินบริจาค
- หลักการคือ ทำสิ่งที่เขาทำกันแบบลับๆ ล่อๆ ให้เป็นสิ่งเปิดเผยตรวจสอบได้ มีหลักฐานชัดเจน จะได้ไม่เย้ายวนใคร รวมทั้งตัวเราเอง เดี๋ยวนี้เขาเรียกว่า “โปร่งใส” (ท่านนายกอานันท์ ปันยารชุน เป็นผู้บัญญัติศัพท์นี้)
- ช่วงปี ๒๕๑๘ – ๒๕๒๑ เป็นรองอธิการบดีที่ดูแลงานก่อสร้างหลายร้อยล้านบาท สถาปนิกผู้ออกแบบควบคุมงานชวนไปเยี่ยมชมสำนักงาน พอตกเย็นก็ชวนขึ้นรถขับพาไปกินอาหารเย็น เราขอตัว เขาก็ขยั้นคะยอ ในที่สุดเราออกจากรถตอนติดไฟแดง ขอตัวกลับบ้าน เพราะไม่อยากให้เกิดความสัมพันธ์แนบแน่นเกินไป
- ความเย้ายวนไม่ได้มีแค่ผลประโยชน์เป็นเงิน ยังมีเรื่องชู้สาว เรื่องตำแหน่ง เรื่องชื่อเสียงหรือความดัง สิ่งเหล่านี้คือเครื่องทดสอบสติ และ integrity ของคน ถ้าสอบผ่าน ก็ดำรงชีวิตแบบพอเพียงได้โดยง่าย
- ความสันโดษเป็นธรรมะที่ให้ความสงบ ร่มเย็น
และช่วยให้เกิดการเรียนรู้ได้ง่าย เพราะจะทำให้จิตสงบ
มีสมาธิ ไม่วุ่นวาย
วิจารณ์ พานิช
๑๕ เมย. ๔๙
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย Prof. Vicharn Panich ใน KMI Thailand
ขอบพระคุณครับ เคยมีประสบการณ์เล็กๆด้วยเหมือนกันครับ
ครั้งหนึ่งต้องจัดซื้อโสตทัศนูปกรณ์แบบเร่งด่วนเพื่อให้ทันงานใหญ่ ที่มีสมเด็จพระเทพฯเสด็จมาเป็นประธาน ร้านค้าทำจดหมายมอบทีวีสีสามเครื่องเป็นของแถมเพื่อใช้ประโยชน์ และมอบในนามส่วนตัวเช่นกันครับ แต่ของนั้นอยู่ที่ฝ่ายพัศดุกลาง ผมไม่สบายใจมากจึงทำบันทึกถึงสถาบันว่ามีการมอบของดังกล่าว เพื่อจะได้นำไปใช้ประโยชน์ ปรากฏว่าสร้างความไม่พอใจให้บางคนถึงกับบ่นว่า "อย่างนี้มันแทงกันข้างหลังนี่" เหตุก็เพราะว่าทีวีได้ถูกกำหนดว่าจะไปอยู่ห้องไหนแล้ว และดูเหมือนจะเป็นบ้านพักด้วยก็มี แม้ว่าเรื่องจะผ่านไปได้แต่ก็ฝากรอยความไม่พอใจที่ใครบางคนมีต่อเราไว้ด้วย ถ้าผมเพียงแจ้งร้านให้ทำหนังสือเสียใหม่ มอบของให้สถาบันโดยตรง แบบที่ท่านอาจารย์ทำ ก็คงไม่มีปัญหาดังที่กล่าวมาครับ