เรื่องของ ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล ที่อ่านแล้วอยากเล่าต่อ


ถ้าอยากรวยอย่ามาเป็นข้าราชการและจงตีคุณค่าของตนเองให้สูงๆ

อ่านเรื่องนี้จาก มติชนสุดสัปดาห์ แล้วอยากขยาย ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล เล่ามุมมองของท่านจากการไปพูดเรื่อง "จริยธรรมการบริหารงานในยุคเปลี่ยนแปลง" พอสรุปมาได้ดังนี้

  • อย่าแกะของขวัญคนเดียว เรียกลูกน้องมาเปิดดูกันหลายๆ คน ถ้าเป็นเงินนำไปบริจาค ในนามเจ้าของของขวัญตั้งแต่มูลนิธิเด็กตาบอด มูลนิธิเด็กหูหนวก ไปจนถึงมูลนิธิคนบ้า และส่งใบเสร็จไปให้เจ้าของเงิน
  • ถ้าอยากรวยอย่ามาเป็นข้าราชการและจงตีคุณค่าของตนเองให้สูงๆ
  • เมื่อมีอำนาจใหญ่โตอย่าทำกร่าง เวลานั่งเครื่อง จะไม่นั่งชั้น VIP เพราะท่านเห็นว่าคำแปลของคำนี้คือ Very Idot (Idiot) Place หนังสือพิมพ์เขาพิมพ์ว่า Idot แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นคำในวงเล็บมากกว่า (คนเล่า)
  • เมื่อมีอำนาจ ควรหัดเดินคนเดียว หัดนั่งแถวหลัง และหัดจมให้ลง
  • อำนาจมาพร้อมกับความทุกข์ ยิ่งใหญ่ ยิ่งมีอำนาจ ยิ่งเครียด
  • ทำงานกับชาวบ้านสุขใจกว่าเยอะ

ท่านใดอยากอ่านเต็มๆ ตามไปอ่านได้จาก มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 31 มีนาคม - 6 เมษายน 2549 หน้า 12 บทความพิเศษ โดย ศัลยา ประชาชาติ จั่วหัวข้อว่า เทคนิคการแกะกล่องของขวัญแบบ "สุเมธ ตันติเวชกุล" ถ้ามันไม่เลิก(ก็)บ้าแล้ว

หมายเลขบันทึก: 24392เขียนเมื่อ 18 เมษายน 2006 19:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 17:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ได้อ่านหนังสือที่ดร สุเมธ เขียนเหมือนกันค่ะ  แต่หนังสือคนละเล่มกัน พอดีจำชื่อไม่ได้  ประโยคนี้ " ถ้าอยากรวยอย่ามาเป็นข้าราชการและจงตีคุณค่าของตนเองให้สูงๆ " มีด้วยค่ะ ดีมากๆ อ่านแล้วมีกำลังใจ และรักในหลวงมากๆ

ดีจัง  ชอบเรื่อง แกะของขวัญนี่แหละคะ  ต้องนำไปใช้

ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆมาเล่าคะ 

  • ดีใจจังที่มีแขกแวะมาเยือน
  • เรื่องดีๆ เวลาอ่านพบก็อยากเล่าต่อค่ะ ที่สำคัญ อาจจะทำให้บ้านเมืองลดการคอรัปชั่นน้อยลง
  • ข่าวบอกว่า ปี 2550 บ้านเราทำสถิติรองบ๊วยคู่กับอินโดนีเซีย โอ!!! ไม่นะ

อ่านได้ที่ไหนบ้าง

แบบอ่านฟรีนะ

วิธีแกะกล่องของขวัญแบบ สุเมธ ตันติเวชกุล

“สุเมธ ตันติเวชกุล” เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ปีนี้อายุ 67 ปีแล้ว แต่ยังแข็งแรง และทำงานหนักยิ่งกว่ารัฐมนตรีหลายคน เชื่อหรือไม่ว่า ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา หลังเกษียณอายุ ดร.สุเมธ ไม่เคยมีวันหยุดเสาร์อาทิตย์

ล่าสุด ท่ามกลางสถานการณ์ตีบตันทางการเมือง ใกล้จุดวิกฤต เมื่อคนในสังคมแบ่งแยกแตกขั้ว จนทำให้บุคคลหลายฝ่ายได้ออกมาเรียกร้องให้ใช้มาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เว้นวรรคทางการเมือง และเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีพระราชทาน เข้ามาแก้วิกฤตของบ้านเมืองให้กลับสู่ความสงบสุข

ชื่อของ “สุเมธ ตันติเวชกุล” ก็โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง โผล่ขึ้นมาทั้งๆ ที่เจ้าตัว มึนงงเป็นไก่ตาแตก

17 มีนาคม ที่ผ่านมา ดร. สุเมธ ได้รับเชิญไปพูดเรื่อง “จริยธรรมการบริหารงานในยุคการเปลี่ยนแปลง” ให้แก่ปลัดและรองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) จาก 55 จังหวัด ณ สถาบันพระปกเกล้า

ดร.สุเมธ เล่าให้ผู้บริหารท้องถิ่นฟังว่า ข่าวลือข่าวนี้เกิดขึ้นในช่วงที่เดินทางไปต่างประเทศ แล้วก็มีข่าวลือนี้ออกมาว่า ผมจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีพระราชทาน

“ผมบอกตรงๆ กับพวกท่านเลยว่า ซวยจริงๆ ซวยแล้ว ชาติปางก่อนของผมคงไม่ทำกรรมขนาดนั้น ท่านเชื่อหรือไม่ครับ ผมเคยทำงานหนักชนิดคลานกลับบ้านมาแล้ว เมื่อตอนรับตำแหน่ง ซี 22 มันเหนื่อยมากจริงๆ ผมยืนยันได้เลยว่า อำนาจมาพร้อมกับความทุกข์ สองสิ่งนี้มาพร้อมกันเสมอ ผมไม่เอาอีกแล้ว”

บรรดาผู้บริหารท้องถิ่นจากทั่วประเทศพากันมึนงงว่า ซี 22 หมายถึงอะไร เพราะคนทั่วไปย่อมเข้าใจว่า ซี 11 คือตำแหน่งสูงสุดในชีวิตข้าราชการแล้ว

ดร. สุเมธ เฉลยว่า ซี 22 เกิดขึ้นในช่วงที่ตนเองนั่งควบตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซี 11 ( พ.ศ. 2537-2539) และยังต้องนั่งตำแหน่งรักษาการเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงาน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) อันเป็นตำแหน่งข้าราชการระดับ 11 เช่นเดียวกัน เมื่อเอามารวมกันจึงกลายเป็น ซี 22

ครั้งนั้น ถือว่า ดร.สุเมธ เป็นข้าราชการที่ใหญ่ที่สุด เพราะสภาพัฒน์ในช่วง (2537-2539 ) คุมการพัฒนาทั้งประเทศ และยังต้องจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ยังไม่นับรวมงานในสำนักงาน กปร. ที่ต้องดูแลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหลายพันโครงการทั่วประเทศ

“ผมเป็น ซี 22 ควบ 2 ตำแหน่ง ทำงานหนักมาก เครียดแบบสุดๆ ผมร่วง ฟันสึกหมด เพราะเครียดจนนอนกัดฟัน กรอดๆ ไม่เอาอีกแล้ว ผมอยากทำงานอยู่กับชาวบ้านสุขใจกว่ากันเยอะ”

อดีตข้าราชการ ซี 22 เล่าต่อไปว่า ยิ่งอาชีพนักการเมือง ยิ่งไม่ชอบ เพราะเป็นลูกนักการเมือง คุณพ่อคือ คุณอารีย์ ตันติเวชกุล อดีต ส.ส. จังหวัดนครราชสีมา 5 สมัย เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสหกรณ์คนสุดท้ายในรัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร

“คุณพ่อผมเล่นการเมืองจนหมดตัว สมัยก่อนนักการเมืองเล่นการเมืองจนหมดเนื้อหมดตัว ไม่เหมือนเดี๋ยวนี้ ผมสาบส่งการเมือง ไม่เอาเด็ดขาด ใจมันไม่ชอบทางนี้เลย ผมว่าช่วงเวลาทำงานที่สุขที่สุดคือ การเป็นข้าราชการระดับ ซี 4 สบายสุดๆ แต่พอยิ่งใหญ่ ยิ่งมีอำนาจ ยิ่งเครียด” ดร.สุเมธ กล่าว

เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา สอนสัจธรรมแก่บรรดานักการเมืองท้องถิ่นว่า คนเรายิ่งดัง ยิ่งใหญ่ ย่อมมีทั้งคนรักและคนชัง เป็นธรรมดา ไม่ต้องให้คนรักทั้งประเทศหรอก แค่คน 100 คน ยังไม่ได้รักเราทั้งหมด ดูอย่างพระพุทธเจ้า ดีแค่ไหน ก็ยังมีพระเทวทัต อีกหนึ่งคนที่ไม่ชอบ

ประเด็นต่อมาที่ ดร. สุเมธ หยิบยกประสบการณ์มาถ่ายทอดให้นักการเมืองท้องถิ่นรับฟังก็คือ การบริหารงานงานโดยยึดหลักทศพิธราชธรรม หรือที่สมัยใหม่ เรียกกันว่า ธรรมาภิบาล

อดีต ซี 11 เล่าว่า เรื่องง่ายๆ อย่างการรับของขวัญของกำนัล ซึ่งสมัยนี้กฎหมายกำหนดรับได้ไม่เกิน 3 พันบาท แต่เอาเข้าจริง ใครจะมานั่งตีราคาของขวัญว่า มีมูลค่าเท่าใดกันแน่ เพราะตราบใดที่ยังไม่แกะกล่องของขวัญ ก็ไม่รู้ว่า มันเป็นอะไร ?

“วิธีการของผมก็คือ อย่าแกะของขวัญคนเดียว เรียกลูกน้องมาเปิดดูกันหลายๆ คน ครั้งหนึ่งเปิดกล่องออกมา กลายเป็นเงินมัดเป็นปึกๆ ผมสั่งให้ลูกน้องหิ้วเงินไปบริจาคมูลนิธิเด็กตาบอด แล้วเอาใบเสร็จแนบใบอนุโมทนา ส่งกลับไปยังผู้ให้ของขวัญ พร้อมอธิษฐานให้ ผู้ให้ของขวัญหูตาสว่าง ดวงตาเห็นธรรม

ถ้ายังหิ้วของขวัญแบบนี้มาอีก คราวนี้ ผมให้เอาไปบริจาคให้มูลนิธิเด็กหูหนวก แต่ถ้ายังไม่เลิก คราวนี้ ผมจะเอาไปบริจาคให้มูลนิธิคนบ้า แล้วจัดส่งใบเสร็จและใบอนุโมทนา แนบไปให้เลย มันจะได้รู้ว่า มันบ้าแล้ว” ดร.สุเมธ กล่าว

ในช่วงสุดท้ายของการบรรยาย อดีต ซี 22 ที่วันนี้ ไม่เหลือสักซีเดียว สอนสัจธรรมแห่งชีวิต ว่า ถ้าอยากรวยอย่ามาเป็นข้าราชการ และเมื่ออยู่ในตำแหน่งใหญ่โตอย่าทำตัวกร่างเกินเหตุ

“ผมบอกพวกคุณได้เลยว่า ต้องหัดเดินคนเดียว หัดนั่งแถวหลัง ต้องจมให้ลง จะไม่เป็นทุกข์ ทำได้เช่นนี้แล้ว จะไม่เสียใจภายหลัง ผมมีเพื่อนเป็นรัฐมนตรี ขึ้นเครื่องบินทีไร ต้องนั่งชั้น วีไอพี ผมบอกมันว่า รู้ไหมว่า เวลาเครื่องบินตก ลื้อตายก่อน แต่อั้วนั่งแถวหลัง ยังมีเวลาหายใจอีกหลายเฮือก”

คนใหญ่คนโต ชอบเห่อ คำว่า VIP แต่สำหรับ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล นิยามคำว่า VIP แบบใหม่ว่า VERY IDIOT PLACE (ฮา)

มุมมองและการใช้ชีวิตแบบดร.สุเมธ แตกต่างคนใหญ่คนโต ผู้ร่ำรวยมั่งคั่ง แต่นอนไม่หลับ เนื่องเพราะอดีตซี 22 ผู้นี้ ตีคุณค่าของตัวเองไว้แพงมากๆ

"เป็นความคิดที่ดีจริงๆคะ"

ดร.สุเมธ คือบุคคลตัวอย่างที่ดิฉันเคารพและนับถือด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างยิ่งค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท