อย่ากลัว...เจาะเลือด..เมื่อมาโรงพยาบาล


การเจาะเลือดมีประโยชน์แบบคาดไม่ถึง

             แด็กคูร่า..วัยกระเตาะ...หรือ แด็กคูร่าในโรงพยาบาล เป็นคำเปรียบเปรยสำหรับคนที่ทำงานห้องเจาะเลือด ซึ่งแต่ละวันมีผู้คนมากมายที่ได้มีโอกาสมาเยือนจุดนี้ และหลายคนก็ยังไม่ได้เข้าใจถึงเหตุผลที่หมอสั่งเจาะเลือดว่ามีประโยชน์แบบคาดไม่ถึงอย่างไร? เนื่องจากอาจจะกลัวการเจาะเลือดแล้วก็หลับตาปี๋...พร้อมกับถามว่า...เสร็จรึยัง...ๆ....กลัว...ๆ

         

          เมื่อท่านเจ็บป่วยแล้วได้รับการรักษาในโรงพยาบาล พร้อมกับถูกเจาะเลือดเพื่อหาสาเหตุของโรค ซึ่งบางคนอาจจะแอบตกใจและกลัวพร้อมทั้งสังเกตว่า ทำไมจึงเอาเลือดออกไปตั้งหลายหลอด(เลือดแต่ละหลอดก็จะเหมาะสำหรับการตรวจแต่ละชนิดเช่นกัน) แต่ละหลอดเอาไปทำอะไรเยอะจัง...เลือดจะหมดตัวไหม?นะ... ลองตามมาดูคำตอบที่นี่ค่ะ.

                      14-3

                 ผู้ที่นำเลือดของท่านไปตรวจคือกลุ่มงานทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์(กลุ่มงานพยาธิวิทยา) ซึ่งจะมีวิธีการต่างๆ เพื่อหาสาเหตุของโรค ซึ่งผู้คนมักไม่ค่อยรู้จัก เนื่องจากว่าการทำงานอยู่เบื้องหลังเปรียบเหมือนการปิดทองหลังพระ ซึ่งหมอจะต้องรอผลจากห้องปฏิบัติการก่อนจึงจะทำการรักษาได้ถูกโรค ดังนั้นอย่ากลัว...เจาะเลือดเมื่อมาร.พ. ถ้าท่านได้เตรียมตัวก่อนเจาะเลือดจะทำให้ไม่ต้องเสียเวลาและเป็นประโยชน์ในการรักษา

          การเตรียมตัวเมื่อมาตรวจที่ร.พ.

1.      สิ่งแรกผู้ที่นัดล่วงหน้าแล้วก็ควรอ่านคำแนะนำก่อนเจาะเลือด เช่น ให้งดอาหารหลัง 2 ทุ่มจนกว่าจะเจาะเลือดเช้า (ประมาณ 8-12 ชั่วโมง) บางครั้งก็ 4-6 ชั่วโมงก็ได้

2.      ถ้าไม่ได้นัดแต่ไปพบแพทย์ ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าเพิ่งทานอาหาร เผื่อว่าหมอจะสั่งตรวจเลือดก็จะได้สะดวก ไม่ต้องรอให้เสียเวลา

                     

3.      เหตุผลของการให้งดอาหารหลายชั่วโมง เนื่องจากว่า

     - ถ้าตรวจเลือดบางตัวเช่น เบาหวานหรือไขมันในเลือด อาจจะทำให้ค่าสูงผิดปกติได้ ถ้าทานอาหารมาแล้วไม่ได้บอกจนท. อาจทำให้การแปรผลผิดพลาดได้ การรักษาก็จะผิดพลาดตามไปด้วย

    - การตรวจเลือดบางตัวในคนที่ทานอาหารมาใหม่ๆ จะทำให้น้ำเหลืองที่จะนำมาตรวจขาวขุ่น (ลักษณะของเลือดเมื่อนำไปปั่นแล้ว จะได้ส่วนที่เป็นเม็ดเลือดส่วนล่างและน้ำเหลืองส่วนบน) ทำให้ไปรบกวนการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ อาจทำให้ผลออกมาไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง

       4. ดังนั้นถ้าเผลอทานอะไรก็ควรจะบอกจนท.ให้ทราบเพื่อจะได้เลื่อนเวลาเจาะเลือดให้เหมาะสม (ซึ่งจริงๆแล้วก่อนเจาะเลือดให้ทานได้เฉพาะน้ำเปล่าอย่างเดียวเท่านั้น)

ขณะเจาะเลือด

1.      ถ้าขณะเจาะเลือดและเกิดอาการหน้ามืด วิงเวียน ใจสั่น อาจจะเนื่องมาจาก     การอดอาหารหรือความกลัวเข็ม กลัวเลือดก็ตาม บางครั้งมือเท้าจะเย็น ควรบอกให้จนท.เจาะเลือดทราบ จะได้แก้ไขได้ทันเมื่อเวลาเป็นลมหรือให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น

2.      จนท.จะถามชื่อซ้ำขณะเจาะเลือดอีกครั้ง (ก็อย่าพึ่งรำคาญว่าเมื่อกี้ก็เรียกชื่อแล้ว) เพื่อความมั่นใจว่าเจาะเลือดไม่ผิดคน เป็นการเช็คชื่อซ้ำอีกครั้ง เนื่องจากว่าเคยเกิดกรณีที่เรียกคนไข้มาเจาะเลือดแล้ว คนอื่นหรือญาติมานั่งเจาะเลือดแทน ทำให้ผลเลือดที่ได้ผิดคน

3.      ถ้าคนที่เคยได้รับการผ่าตัดเต้านมมา ต้องบอกให้จนท.ที่เจาะเลือดทราบด้วยว่าข้างนี้ผ่าตัด เป็นต้น ซึ่งจะได้เลี่ยงไม่เจาะข้างนั้น เนื่องจากทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย จึงควรบอกให้จนท.ทราบ (การตัดเต้านม อาจจะถูกตัดต่อมน้ำเหลืองข้างรักแร้ไปด้วย จึงจะทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำกว่าคนปกติ )

4.      อย่ากลัวหรือเกร็งแขนในขณะเจาะเลือด เนื่องจากเป็นผลเสียต่อตัวท่านเอง การกลัวหรือเกร็งจะทำให้เส้นเลือดหดตัวจะทำให้เลือดออกน้อย เส้นเลือดอาจจะแฟบและเจาะเลือดยากขึ้น (ท่านอาจมีโอกาสได้รับโปรโมชั่นเจาะ 1 เข็มแถมฟรี 1-2 เข็มฟรี..ไม่คิดตังค์)

5.      ขณะเจาะเลือดอยู่นิ่งๆ อย่าขยับแขนไปมาหรือดึงแขนกลับ เพราะว่าอาจจะทำให้เข็มหลุดจากเส้นเลือดหรือเข็มแทงทะลุเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดที่เปราะแตกง่าย (ไม่มีอันตราย) แต่อาจจะทำให้เกิดการบวมแดง เขียวจ้ำ เกิดขึ้นหลังการเจาะเลือด ซึ่งจะหายไปเองใน 1-2 สัปดาห์

6.      เมื่อเจาะเลือดเสร็จแล้ว ควรจะพับหรือกดบริเวณที่เจาะเลือดไว้ประมาณ 5 นาที เลือดจะหยุดไหลเอง ห้ามขยี้หรือถูไปมาเพราะว่าจะทำให้เส้นเลือดแตกได้ ก็จะเกิดรอยเขียวจ้ำตามมาทีหลังได้

7.      ขอให้มั่นใจว่าจนท.ห้องเจาะเลือดมีความชำนาญหรือประสบการณ์ในการเจาะเลือดสูง เดือนหนึ่งๆเจาะมาหลายหมื่นราย ดังนั้นจนท.จะปฏิบัติต่อท่านอย่างดีที่สุด โปรดไว้วางใจ (รับรอง...เจ็บนิ๊ดเดียว...เหมือนยุงตัวโตกัด....5555….

ประโยชน์ที่ได้รับจากการตรวจเลือด

เลือดซึ่งถือว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย สามารถที่จะบ่งบอกถึงความผิดปกติของร่างกายหรือสมมุติฐานของโรคได้มากมาย เช่น โรคเบาหวาน ไขมันในเลือด หัวใจ การทำงานของตับ ไต ลักษณะเม็ดเลือด โลหิตจาง มะเร็งเม็ดเลือด มะเร็งในอวัยวะต่างๆ ไวรัสตับอักเสบ การติดเชื้อต่างๆ เก๊าต์  เอดส์ เป็นต้น รวมถึงกรุปเลือดซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเลือดกรุปอะไร? และเลือดที่นำไปตรวจนี้ยังสามารถดูสมรรถภาพการทำงานส่วนต่างๆของร่างกายได้เกือบทุกส่วน รวมถึงฮอร์โมนต่างๆที่ผิดปกติด้วย

ดังนั้นการเจาะเลือด จึงมีความสำคัญต่อการตรวจและวินิจฉัยโรคของแพทย์ ซึ่งทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ก็จะนำเลือดของท่านไปตรวจวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์อีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของโรคหรือติดตามผลการรักษา ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าแค่เลือดเท่านั้นจะสามารถบอกเรื่องราวของร่างกายได้มากมาย ดังนั้นคราวหน้า...อย่ากลัว..การเจาะเลือด...อีกเลยนะคะ.



ความเห็น (11)

สวัสดีค่ะท่าน JJ

  • ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ ทำให้มีความสุขค่ะ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ.

                             

เวลาเจาะเลือดพยาบาลจะบอกทุกครั้งว่าเส้นเลือดเล็ก หาเส้นเลือดไม่เจอ บางครั้งโดนเจาะไป2-3 ครั้ง บ่อยคร้งที่ไม่อยากจ็บก็บอกว่าหลังมือเลยค่ะ แต่พยาบาลบอกว่ากลัวน้องเจ็บก็เลยถูกเจาะไม่ต่ำกว่า2 ทุกครั้ง ทำไงให้หาเส้นได้ง่ายหรือเส้นเลือดโตขึ้นคะ

สวัสดีค่ะคุณMAM

  • ลักษณะของหลอดเลือดแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่นบางคนเส้นเลือดใหญ่ชัดเจน บางคนเล็กบาง บางคนก็เส้นอยู่ตื้นมองเห็นได้ง่าย บางคนก็อยู่ลึกมีปัญหาในการเจาะเลือดมาก บางคนก็เส้นเปราะแตกง่าย ดังนั้นผู้เป็นเจ้าของควรจะสังเกตตัวเองเวลาที่เจาะเลือดแล้วมีปัญหาดังกล่าว
  • อย่างเช่นของคุณMAMนั้นเส้นมีขนาดเล็กและคงจะอยู่ลึกจากผิวหนัง ทำให้เกิดอุปสรรค์ในการเจาะเลือด ถ้าคนเจาะชำนาญเขาจะรู้เทคนิคในการคลำหาตำแหน่งของเส้นเล็กและมีความแม่นยำมาก แต่ถ้าคนเจาะเลือดไม่ชำนาญแล้วก็จะเจาะหลายเข็มและเส้นเลือดเล็กก็มีโอกาสทำให้เส้นเลือดแตกได้ ทำให้เกิดรอยเขียวจ้ำใต้ผิวหนังได้ค่ะ
  • พยาบาลคงจะหวังดีอยากให้คนไข้เจ็บน้อยที่สุดค่ะ เนื่องจากที่แขนจะเจ็บน้อยกว่าที่หลังมือเพราะมีเนื้อรองรับมากกว่าที่หลังมือและขนาดของเส้นเลือดก็จะใหญ่กว่า การใช้เลือดประมาณ 10 cc. เจาะที่แขนจะได้ปริมาณเลือดเร็วและมากกว่าที่บริเวณหลังมือค่ะ
  • การบริหารแขนคงพอจะช่วยได้บ้างแต่ก็ไม่มากนัก การกินอาหารที่มีวิตามินซีสูงก็จะทำให้ผนังเลือดเลือดแข็งแรงทำให้ไม่เปราะง่าย ลดการเขียวจ้ำหลังการเจาะได้ค่ะ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

ดิฉันหน้าที่เจาะเลือดและสิ่งส่งตรวจ ก็อยากจะแนะนำว่าการที่เจาะเลือดไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลย ดีเสียอีกบางทีโรคบางอย่างเราไม่รู้ว่าเป็นอะไรซึ่งไม่น่ากลัวอย่างที่คิดก็เหมือนมดกัดนิดเดียวแต่บางทีมดกัดเจ็บกว่าอีก เด็กบางคนยังไม่กลัวเลยนั่งหน้าตาเฉย เขาเก่งมาก ยกนิ้วให้ค่ะ ทานที่เจาะเลือดบางท่านที่มือหนักก็ฝากเบาๆมือนะคะแล้วคนไข้เขาจะชมท่านว่าเจาะไม่เจ็บและไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลย

สวัสดีค่ะคุณวิไลวรรณ

  • ดีใจมากค่ะที่คุณวิไลวรรณมาร่วมแบ่งปันความคิดเห็นค่ะ
  • เนื่องจากเลือดจะบ่งบอกอะไรได้มากมาย
  • ดังนั้น...อยากให้เห็นถึงความสำคัญในการเจาะเลือดค่ะ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

กลัวติดโรคจากการเจาะเลือดอ่ะค่ะ เปนไปได้ไหม ตอนนี้กังวลมากๆ

สวัสดีค่ะคุณsong

  • คุณไม่ต้องกลัวการติดโรคจากการเจาะเลือดค่ะ....และเข็มเจาะเลือดนั้นจะต้องใช้แบบครั้งเดียวทิ้งเท่านั้น แล้วห้ามนำกลับมาใช้อีกเพราะว่าตามมาตรฐานแล้วระบุว่าต้องเปลี่ยนเข็มเจาะเลือดทุกคนทุกครั้ง.
  • คุณอย่ากังวลเรื่องการเจาะเลือดเลยค่ะ เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการเจาะเลือดมากมาย....ตั้งแต่เกิดจนตาย.... 
  • อยากแนะนำให้คุณแวะมาอ่านเรื่อง อยากรู้ไหม?...ว่าหมอสั่งเจาะเลือด...ไปทำไม?...ซึ่งผึ้งงานได้เขียนไว้และคิดว่าคงจะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ยังไม่มั่นใจในการเจาะเลือดหรือประโยชน์ที่จะได้รับ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ.

สวัสดีค่ะ ดิฉันคนหนึ่งที่ไปเจาะเลือดเมื่อวานนี้ 25/5/55 เพื่อจะบริจาคเลือดและทำบุญผ่านไปในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เป็นกองทุนเรื่องเล่าเช้านี้ เพื่อการบริจาคโลหิตของคุณสรยุทธ์แต่ปรากฏว่าเลือดไม่ผ่าน เพราะว่า เลือดจาง เจ้าหน้าที่เขาบอกว่าความเข้มข้นของเลือดไม่พอที่จะให้การบริจาค และเขาก็ให้ยามาทาน 1 ชุุด ๆ ละ 4 เม็ด ให้มาเยอะมาก เขาบอกว่ากินจนหมด ถ้าหมดเมื่อไหร่ก็มาตรวจดูความเข้มข้นของเลือดอีกครั้งว่าผ่านหรือไปไม่ ... น่าเสียดายมากเลยค่ะ ก็เลยบริจาคเงินไป ... อยากจะถามท่านผู้รู้ว่า การที่เลือดจางนี้เราจะมีสิทธิ์หายหรือไม่ สาเหตุที่เป็นมันเป็นอันตรายมากน้อยเพียงใด ... เราควรรักษาให้ถูกวิธีอย่างไร ... นอกจากทานยาที่เขาให้มาทาน ... ขอท่านผู้รู้ช่วยกรุณาแนะนำด้วยค่ะ

ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ

ณัฐ

สวัสดีค่ะคุณณัฐ

  • คุณณัฐอาจจะพักผ่อนไม่เพียงพอก็ทำให้เลือดคุณลอย บริจาคไม่ได้หรืออาจจะความเข้มข้นของเลือดน้อย(เลือดจาง)ก็ได้ จึงเป็นสาเหตุให้บริจาคเลือดไม่ผ่านในวันนั้นค่ะ
  • ความจริงแล้วถ้าใครที่มีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง โลหิตจาง ไวรัสตับอักเสบ ซิฟิลิส เอดส์หรือโรคติดเชื้อต่างๆเป็นต้น  ก็ไม่รับเลือดบริจาคค่ะ ถ้าเจาะไปแล้วตรวจพบก็ทิ้งเลือดไปเลยค่ะ เพราะฉนั้นก่อนการบริจาคจะมีการสอบถามก่อนอย่างละเอียดค่ะ
  • ยาที่คุณได้รับน่าจะเป็นยาบำรุงเลือด เพื่อเพิ่มเลือดให้มีความเข้มข้นค่ะ
  • แต่การจะบอกได้ว่าคุณนั้นมีภาวะโลหิตจางหรือเปล่าต้องไปตรวจเช็คสุขภาพดูอีกครั้งค่ะ เพื่อตรวจดูลักษณะของเม็ดเลือดและพยาธิสภาพค่ะ
  • ใจคุณเป็นบุญมากเลยค่ะ ขออนุโมทนาบุญค่ะ....แต่คุณก็ต้องรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์ก่อนนะคะ พร้อมเพื่อไหร่ค่อยไปบริจาคเลือดค่ะ
  • การซื้อเลือดบริจาค ผึ้งงานอยากแนะนำเพิ่มอีกที่ค่ะ คือร.พ.สงฆ์ก็ได้ค่ะ ได้บุญสองต่อเลยค่ะ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ.

ผมไป รพ ด้วยอาการใจสั่นหมอสั่งให้เจาะเลือดไปตรวจ เขาจะตรวจโรคเอด ให้ด้วยรึป่าวครับ เพราะผลออกมาปกต

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท