วันนี้ (17 เมษายน 2549) ที่บ้านผู้หว่าน จว.นครปฐม ผมได้รับเชิญจาก สคส.ให้มาร่วม ลปรร.ในเวทีคุณอำนวย (แห่งชาติ...ตามที่อาจารย์หมอวิจารณ์ได้ให้นัยยะไว้ช่วงเปิดเวที) จริง ๆ แล้วตั้งใจว่าจะเล่าเรื่องตั้งแต่เริ่มต้นเดินทางมา (16 เมษายน 2549) จนวันกลับ (18 เมษายน 2549) แต่ตอนนี้จำเป็นต้องเขียนเรื่องนี้ก่อน เพราะ Get และเดี่ยวจะใช้เป็นเรื่องเล่าในเวทีนี้เลยครับ
คุณอำนวย (Knowledge Facillitator: KF) ในสไตล์ของผม ตามรูปแบบที่เป็นผมเอง ก่อนที่จะรู้จัก KM และก็ยังคงเป็นแบบเดิม ๆ ที่ดำเนินต่อมาถึงปัจจุบัน ฉะนั้นตามที่ผมเป็น...คุณอำนวยคือ... ผมคนเดิมที่เขาเรียกใหม่ว่าคุณอำนวย (เป็นก็เป็น เป็นก็ได้) เพียงแต่ขอบคุณ สคส.ซึ่งทำให้ผมได้รู้จัก KM และทำให้การจัดระบบของการดำเนินชีวิตของผมดีขึ้น มีคุณค่าขึ้น ประเด็นนี้ค่อยเล่ากันอีกครั้ง ว่ากันต่อที่ ในสไตล์ของผม คุณอำนวย (Knowledge Facillitator: KF) เป็นอย่างไร และได้ทำอยู่อย่างไรบ้างครับ ดังนี้
เป็นคุณอำนวยของชีวิตตนเอง โดยการใช้ KM Movement เป็น Life Movement ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน ที่ทำงาน หรือเพื่อนบ้าน "ให้เนียนเข้าไปในเนื้อชีวิต อย่าให้ผิดปกติอะไร" เพราะในแท้ที่จริง การจัดการความรู้ หรือ KM ก็คือส่วนหนึ่งของชีวิตอยู่แล้วโดยธรรม(ชาติ) อยู่แล้ว
เป็นคุณอำนวยในงานประจำ เป็นการใช้ KM Movement โดยไม่พูดตรง ๆ เพราะหากพูดก็จะถูกมองเป็นการเพิ่มภาระงาน การเลือก Model ต้นแบบ โดยการชี้เอาเลย ที่คิดว่ามีศักยภาพและมีความพร้อม แต่ก็ยังเลือกที่จะให้โอกาสในการตัดสินใจเลือกว่าเอาไหม จากนั้นก็ทำเพื่อให้เห็นผล ชี้ชวนคนอื่นต่อ โดยผมเองบ้าง หรือคนที่ทำแล้วสำเร็จบ้าง หรือโดยคนที่เข้ามาเห็นเอง
เทคนิคสำคัญคือ การ “ฉกฉวยโอกาส” ซึ่งก็คือการฉวยโอกาสที่จะสามารถเกิดการ ลปรร.กันได้ ในทุกสถานการณ์เท่าที่เป็นไปได้ และเทคนิคที่ใช้ในการทำหน้าที่คุณอำนวยอื่น ๆ “ที่ว่านั้น” มีให้เห็นเท่าที่นึกได้ตอนนี้ 3 อย่าง คือ
- ไร้รูปแบบของเวทีฯ ในการขับเคลื่อนงานประจำ หรือการดำเนินชีวิต โดยใช้การจัดการความรู้ KM Movement กล่าวคือ ปลดปล่อยให้รู้สึกเป็นอิสระที่สุด แต่มีเป้าร่วมกันที่จะได้ออกมา...ร่วมกัน สบาย ๆ ทั้งการวางตัวและบรรยากาศ ที่ไหนก็ได้ง่าย ๆ เน้นถามจากทีมงานเป็นหลัก แม้เราจะต้องเลือกเองก็ให้เลียบ ๆ ถามก่อน
- เปิดประเด็นโดยเราเป็นผู้ขอความรู้ อะไรก็ได้ที่เป็นประเด็นอยู่ หรือรู้ว่าเขาสนใจ เขารู้ เพราะจะเป็นการให้เกียรติกัน เคารพกันในศักดิ์ศรีของกันและกัน จากนั้นก็ใช้ลูกเล่นแหย่ ๆในคำถาม จากประเด็นที่เกิดขึ้น และเชิ่อมโยงอารมณ์ขันที่เกิดขึ้นเอาไว้อย่างต่อเนื่อง
- จับประเด็นจากเรื่องที่เขาคุยกัน ให้ได้ ให้เร็ว โดนใจ เชื่อมโยงเข้ามาในประเด็นที่เป็นโจทย์ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหา หรือพัฒนา โดยพยายามเน้นที่เห็นเป็นสิ่งที่กลุ่มภาคภูมิใจร่วมกัน เช่นเรื่องที่ชุมชนเกาะเรียน เราเลือกใช้ประเด็น “เรียนสวนร่วม” เพื่อเดินเรื่องเวทีในครั้งแรก และต่อมาจนถึงปัจจุบันใน “การพัฒนาสุขภาพชุมชน”
เขียนได้แบบเห็นภาพ ว่าเขากำลังทำอะไรกันในเวทีคุณอำนวย
ฮิ ฮิ เข้ามาแซวค่ะ
พี่เมตตา (กอง จ. แห่ง มอ.) ผู้ที่ข้าฯ ชื่นชม
ขอบคุณมากครับพี่ สำหรับภาพเหตุการณ์ และรายงานสถานการณ์จะเล่าค่ำ ๆ คืนนี้นะครับ
แอบดูอยู่ครับ .. ไม่อยากให้รู้แต่อดไม่ได้ ..
" ให้เนียนเข้าไปในเนื้อชีวิต อย่าให้ผิดปกติอะไร "
เรื่องแบบนี้เป็นไปโดยธรรมชาติถ้า "คุณอำนวย" คนนั้นทำงานด้วยใจ และมีความรัก เคารพ ศรัทธาในคุณค่าของคนทุกคนเสมอกัน
ลปรร. (3)
ไม่แอบหากแต่เฝ้า..ติดตาม..*^__^*
JJ เมื่อ จ. 17 เม.ย. 16:25:08 2006 เขียนว่า:
การสลาย เพื่อก่อเกิด สุดประเสริฐ การ แลก เปลี่ยน เรียน รู้
หากเราร่วมสร้าง..สรรค์...
สิ่งใหม่..ด้วยใจที่มุ่งมั่น...
ย่อมจะนำ..สิ่งดีๆ..สู่สังคมคะ
ความเห็นนอกกรอบไปเลย
คุณเอื้อ คุณกิจ คุณอำนวย บางครั้งก็อยู่ในคนๆเดียว" ให้เนียนเข้าไปในเนื้อชีวิต อย่าให้ผิดปกติอะไร"ถูกต้องครับ
เพิ่มเรดติ้งอีกครั้งอย่างไม่ตั้งใจแต่เป็นเพราะลืม
ลืมถามคุณชายขอบว่า ถ้าหน้าที่ของ KF(ไม่มี C) เป็นอย่างที่พูด ก็หมายถึงว่า "ใครๆ" ก็สามารถเป็น KF (ไม่มี C) ได้ใช่ไหม
แล้วคุณชายขอบพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็น KF (ไม่มี C) อย่างที่เป็นได้อย่างไร
เรียน อาจารย์หมอ JJ, อาจารย์ Handy, Dr.Ka-poom, คุณนอกกรอบ, คุณปอม, คุณวิชัย และคุณไร้นาม ตลอดจนท่านที่เข้ามาอ่านทุกท่าน
รับทราบประเด็นคำถามต่าง ๆ ที่ให้ คห.ไว้แล้วนะครับ ล้วนเป็นคำถามที่ยอดเยี่ยม ต่อยอดความรู้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งทำให้เกิดการเติมเต็มจนสมบูรณ์ได้ ยอดเยี่ยมและขอขอบคุณทุกท่านครับ
แต่ในขณะนี้กำลังระดมสมองกันในเวทีคุณอำนวยวันที่ 2 จึงขอผัดการ ลปรร.ไว้ก่อน และรับปากว่าทุกประเด็นจะตอบ เมื่อเดินทางกลับถึงบ้านแล้ว นะครับ
การที่ยังไม่ตอบ นับว่าเป็นวิธีการของ KF ที่คนจำพวก KFC-knowledge Frustrating Co-ordinator (ชื่อนี้คนไร้นามตั้งให้ตัวเอง) ชอบมาก เพราะจะได้ใช้จังหวะนี้ ตั้งคำถามไปเรื่อยๆ เหมือนการยิงลูกฟรีคิก
เช่น KF นั้น B2B อย่างไร
เพราะเปรียบเทียบการเป็น KFC ของคนไร้นามนั้นเป็นจาก B2B คือ Born to Be