คนไทยรู้จักซาลาเปามานานมาก ถึงกับมีปริศนาคำทายว่า “อะไรเอ่ยอยู่บนกระดาษ?”
ลักษณะที่เป็นก้อนๆ รูปร่างกลม ทำจากแผ่นแป้งห่อหุ้มไส้ต่างๆ อาทิ หมูสับ หมูแดง ถั่วดำ ถั่วแดง ครีม ฯลฯ ทำให้ซาลาเปาจัดว่าเป็นอาหารประเภทกินง่าย สามารถพกพาติดตัวเป็นเสบียงเวลาเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ใช้มือหยิบกินได้สบาย ไม่เลอะเทอะ
ซาลาเปาที่ทำขายกันอยู่ มีให้เลือกทั้งแบบทำสดออกมาเสิร์ฟ และทำสุกมาแล้วอุ่นอีกครั้งด้วยการนึ่งก่อนเสิร์ฟ แม้ว่าธรรมชาติของซาลาเปาจะเป็นอาหารอร่อยเมื่อกินร้อนๆ แต่ซาลาเปาที่ทำดีๆ มีแป้งนุ่มๆ นั้น แม้จะซื้อมาตอนร้อนๆ แต่กว่าจะได้กินก็เย็นซะแล้วนั้น ยังกินได้อร่อยเช่นกัน
เดี๋ยวนี้ ไส้ของซาลาเปามีการพัฒนาขึ้นมาเป็น “ของเหลว” ทำให้วิถีกินซาลาเปาต้องเปลี่ยนไป
ซาลาเปานี้ชื่อว่า “เสี่ยวหลงเปา” (Xiaolongpao)
เสี่ยวหลงเปาเป็นซาลาเปาทำสดออกมาเสิร์ฟ ก้อนขนาดพอคำ แต่คีบใส่ปากทั้งคำไม่ได้ ใช้มือหยิบกินก็ไม่ได้ เพราะร้อนค่ะ ร้อนมาก
ร้อนขนาดคนที่ว่าแน่ในเรื่อง “กินของร้อน” ก็ไม่กล้าคีบหรือหยิบ เสี่ยวหลงเปาเข้าปากเมื่อพนักงานเสิร์ฟนำมาวางตรงหน้า
ทั้งนี้ก็เพราะภายในซาลาเปาบรรจุไส้พร้อมน้ำซุปร้อนจัด ขนาดที่ทำได้ปากพองได้ทันทีที่สัมผัส
แต่ถ้าขืนรอให้ซาลาเปาแบบนี้เย็นลงซะก่อนจึงจะกิน ก็เสียรสชาติความเป็นเสี่ยวหลงเปาไปจนหมด อย่ากินซะดีกว่า
ดังนั้น เมื่อพนักงานเสิร์ฟวางถาดเสี่ยวหลงเปาตรงหน้า วิถีกินซาลาเปาแบบนี้ จึงแตกต่างจากซาลาเปาแบบดั้งเดิม
· เริ่มจากมือหนึ่งถือตะเกียบ อีกมือถือช้อนกระเบื้อง
· ใช้ตะเกียบคีบเสี่ยวหลงเปามาใส่ในช้อนกระเบื้อง
· ใช้ปากกัดแป้งให้เป็นช่องเล็ก หรือถ้ากลัวริมฝีปากพองก็ใช้ปลายตะเกียบเจาะเป็นรูเล็กๆ
· ค่อยๆ ดูดน้ำซุปแบบจิบทีละนิดๆ จนหมด
· ใช้ตะเกียบคีบซาเลาเปาที่อยู่ในช้อนไปจิ้มน้ำซอสส่งเข้าปาก
· คีบขิงอ่อนซอยส่งตามเข้าปากไป
· เคี้ยวทุกอย่างพร้อมๆ กัน
แบบนี้ก็จะได้รสชาติอย่างครบถ้วน!
ร้านที่ฉันไปชิมเสี่ยวหลงเปามานั้นชื่อว่า Din Tai Fung อยู่ที่ไต้หวันค่ะ นอกจากเสี่ยวหลงเปาแล้ว ร้านนี้มีอาหารอร่อยอีกหลายอย่าง ตอนนี้ขยายกิจการออกไประดับนานาชาติด้วย มีสาขาอยู่ในหลายประเทศ เช่น จีน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลี ฮ่องกง ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา เกียรติประวัติความอร่อยคือ นิวยอร์คไทมส์จัดให้เป็น 1 ใน 10 ร้านอาหารชั้นยอดของโลกเมื่อปีค.ศ. 1993
ซาลาเปาแบบนี้เพิ่งเป็นที่นิยมในเมืองไทยเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง และเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่อมีร้านขายเสี่ยวหลงเปามาเปิดสาขาตามศูนย์การค้าต่างๆ
ถ้ามีโอกาสไปกินซาลาเปาไส้น้ำซุปนี้เมื่อใด ก็อย่าลืมวิถีกินที่บอกไว้นะคะ
“เสี่ยวหลงเปา” (Xiaolongpao) นี่ชอบมากค่ะ แต่บางที โดนลวกปากไปเหมือนกัน
ท่าทางแซ้บ แซบ ครับ ท่านป้าเจี้ยบ
“เสี่ยวหลงเปา” (Xiaolongpao)小笼包 ต้องมากอนที่เซี่ยงไฮ้นะค่ะ..
ลูกละ สามหยวน (สิบห้าบาทไทย) เข่งหนึ่ง ประมาณ 18 หยาวน
อร่อยมาก ๆ ๆ ถ้าลูกใหญ่ก็ใช้หลอดดูด ดูด..อิอิ..ที่ 豫园
สวัสดีค่ะ เป็นแฟนหนังสือป้าเจี๊ยบค่ะ ครัวหวานบ้านป้าเจี๊ยบ ลองทำทุกสูตรแล้วอร่อยค่ะไปหาตามร้านหนังสือก็จะให้เค้าหาว่ามีหนังสือเล่มอื่นที่ป้าเจี๊ยบเขียนอีกหรือเปล่า ก็ไม่มี เมื่อวานก็เพิ่งทำบลูเบอรี่ชีสพายแบบไม่มีเตาอบ เพราะว่ายังไม่มีเตาอบค่ะ ตอนนี้กำลังหาอาชีพเสริมจะขายซาลาเปาค่ะ แล้วอยากได้สูตรไส้หมูสับ ครีมและอื่นๆที่เกี่ยวกับสุขภาพค่ะ อยากรบกวนถามป้าเจี๊ยบมากที่สุด เพราะมั่นใจว่าจะได้สูตรที่สามารถทำขายได้ รบกวนป้าเจี๊ยบจริงๆนะคะ
ป้าเจี๊ยบ กรุณา forward mail มาที่ [email protected] ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณกนกพร ดีใจที่ได้รู้จักแฟนหนังสือครัวหวานนะคะ หนังสือที่เกี่ยวกับอาหารอีกเล่มชื่อ คุกกี้ป้าเจี๊ยบค่ะ ของซีเอ็ด
ป้าเจี๊ยบยังไม่เคยทำซาละเปาสักที แต่ทำขนมจีบขนาดยักษ์กิน และมักจะใช้หมูสับที่ปรุงรสเรียบร้อยแล้วทำไส้ ซึ่งซื้อจากซุปเปอร์มาเก็ตค่ะ นำมาผสมกับหน่อไม้บ้าง กระหล่ำปลีบ้าง หรืออะไรที่สมาชิกครอบครัวชอบกิน ปรุงรสเพิ่มอีกนิดหน่อยด้วยซีอิ้วขาว เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบกินน้ำปลา ทำทีไรก็กินกันได้ดีทุกที ...
จะทำอะไรขายก็ลองคิดถึงวัตถุดิบที่จะใช้ก่อนนะคะ อะไรคือสิ่งที่เราหาได้ง่าย ดี ราคาไม่ถูกกลไกตลาดบีบมากจนเกินไปจนกระทั่งพอขาดตลาด หรือราคาขึ้นพรวดพราด คนทำขายก็แย่ นึกรายการออกแล้วค่อยมาคิดกันว่าจะเอาพวกนี้แหละมาทำอะไรได้บ้างที่ลูกค้าจะติดใจ