เทอมนี้เป็นเทอมที่หนักหน่วงเอาการทีเดียว ต้องเรียนถึง 7 ตัวในเทอมเดียว แต่โชคดีหน่อยที่มันจะเหลื่อมๆกัน คือ ตัวนึงเริ่มไปแล้วและใกล้จบ สี่ตัวกำลังเริ่มและเรียนไปพร้อมๆกัน อีกสองตัวจะมาต่อตอนหลังแบบไม่ให้หายใจกันเลยทีเดียว ใน 7 ตัวนี่ 4 ตัวเป็นเศรษฐศาสตร์ 3 ตัวเป็นปรัชญา --"
หนึ่งในวิชานึงที่ต้องเรียนเป็นวิชาเกี่ยวกับ Spinoza
Spinoza เป็นนักปรัชญาชาวดัตช์ (ลุกครึ่งยิวกับโปรตุเกส) ในศตวรรษที่ 17 เกิดที่ Amsterdam และก็ย้ายที่ไปหลายที่และไปจบชีวิตที่ Den Haag ด้วยอายุเพียง 44 ปี ถึงแม้ว่าอายุจะสั้นแต่ Spinoza มีอิทธิพลต่อนักปรัชญาที่เขารู้จักเป็นอันมาก นักปรัชญาเหล่านั้นแม้จะมีอายุมากกว่าเขาแต่ก็ถือว่าเขาเป็น Guru ทางด้านปรัชญา เป็นคนที่จะบอกว่า หลักปรัชญาที่คิดขึ้นมานั้นดีหรือไม่ดี ว่ากันว่า เขาย้ายจาก Amsterdam ไปที่อื่นๆเพราะว่ารำคาญคน มีแต่คนจะมาคุยกับเขา บ้างก็ว่าถูกแบนจากเมืองบ้าง
หนังสือเล่มหลัก ของเขาคือ Ethics มีเล่มอื่นด้วยแต่ว่าไม่น่าจะได้เรียนในตัวนี้ Ethics เป็นหนังสือที่กระทั่งตัว Spinoza เองตัดสินใจไม่พิมพ์ตอนมีชีวิตอยู่ด้วยความที่แน่ใจว่า จะต้องขัดกับหลักความเชื่อทางคริสตศาสนาเป็นแน่แท้ โดยเฉพาะในเรื่องคอนเซปเกี่ยวกับพระเจ้า หนังสือเล่มนี้ถูกพิมพ์หลังจากที่เขาเสียชีวิต เมื่อเขาสั่งเสียกับเพื่อนของเขาว่า ให้นำหนังสือเล่มนี้จากลิ้นชักไปจัดพิมพ์หากเกินอะไรขึ้นกับเขา หลังจากเขาเสียชีวิต เพื่อนเขาทำตามคำสั่งเสีย โดยการนำหนังสือไปพิมพ์ ขณะเดียวกัน ในลิ้นชักนั้นก็มีจดหมายโต้ตอบของ Spinoza พร้อมทั้งต้นฉบับที่ยังไม่เสร็จของหนังสือเรื่องอื่นๆอยู่ เพื่อนเขาจึงพยายามรวบรวมจดหมายทั้งหมด และพิมพ์พร้อมกับหนังสือ Ethics
เท่า ที่อาจารย์เล่าให้ฟังคร่าวๆเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้นั้น มันน่าสนใจมากและมีความคล้ายคลึงกับศาสนาพุทธอย่างมาก คือ ถ้าจะเปรียบแบบไม่พอดีนัก อาจบอกได้ว่า ปรัชญา Spinoza เป็นพุทธศาสนาแห่งโลกตะวันตกก็อาจจะพอได้อยู่ ทั้งนี้เพราะจุดมุ่งหมายของ Spinoza มิได้ต้องการตอบความจริงเกี่ยวกับโลกเท่าใดนัก แต่ต้องการที่จะหาวิธีที่จะทำให้มนุษย์อยู่อย่างเป็นสุขและพ้นทุกข์ไปได้!
ใน Ethics มีห้าส่วนหลักๆ Spinoza เล่าเรื่องราวไล่เรียงกันไปดังนี้คือ ส่วนแรกว่าด้วยเรื่องโลกและจักรวาล ให้เห็นภาพรวมของธรรมชาติ พระเจ้า ฯลฯ ส่วนที่สองว่าด้วเยรื่องมนุษย์ องค์ประกอบของมนุษย์ทั้งด้านกายและด้านจิตใจ ส่วนที่สามว่าด้วย ความรู้ของมนุษย์ คือส่วนที่ว่าด้วยจินตนาการ ส่วนที่สี่เป็นเรื่องของอารมณ์ของมนุษย์ ซึ่งครอบงำจิตใจของมนุษย์ และส่วนสุดท้ายคือ ความรู้ที่จะทำให้มนุษย์อยู่อย่างเป็นสุข และพ้นทุกข์ !!!
ได้ฟังดังนี้ก็เกิดความคิดว่า ช่างคล้ายคลึงกับพระพุทธศาสนาอย่างมาก อย่างน้อยก็ในเชิงเป้าหมาย ในพระพุทธศาสนาเองก็ได้มีการพูดถึงในทุกๆส่วนที่ Spinoza ได้พุดถึง แม้ว่าจะไม่ได้ใช้วิธีการเขียนแบบเดียวกันก็ตาม แต่จากการที่ศึกษาศาสนาพุทธมาระดับหนึ่งก็ทำให้เห็นความคล้ายคลึงของทั้งสอง หลักมากทีเดียว
ระหว่างพักได้ไปถามอาจารย์ว่า ฟังเรื่อง Spinoza ทำให้นึกถึงพระพุทธเจ้า อาจารย์บอกว่า มีหลายคนอยู่ที่เปรียบเทียบ Spinoza กับศาสนาพุทธ หรือปรัชญาตะวันออก แต่ก็มีจุดด้อยอยู่เยอะและไม่ค่อยวิพากษ์เท่าใดนัก ... ได้ฟังดังนั้นจึงรู้สึกว่า นี่น่าจะเป็นประเด็นสำหรับ final essay ได้เลยทีเดียว และรู้สึกได้กับตัวเองว่าเราน่าจะทำได้ดีกว่างานที่เคยมีมา ในฐานะที่เราเป็นคนพุทธและศึกษาศาสนามาระดับหนึ่งและเข้าถึงพระไตรปิฎก และชุมชนธรรมะที่จะให้คำแนะนำได้ ..
ตอนนี้สั่งซื้อหนังสือ Ethics ของ Spinoza ไปแล้ว (ประมาณ 12 ยูโรครับพ่อ) น่าจะได้อย่างช้าต้นสัปดาห์หน้า จากนั้นคงจะได้ศึกษาเรื่องนี้มากขึ้น และน่าจะได้ค้นพบจุดร่วมและจุดต่างของ Spinoza และพระพุทธศาสนา ที่จะเป็นประโยชน์ทั้งกับตนเอง และอาจจะเป็นประโยชน์กับโลกตะวันตกก้ได้
อยากอ่านบ้าง....
และยิ่งกว่านั้น ก็หวังว่าจะได้อ่าน บทความของคุณ
เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้กับพุทธศาสนา
ในเชิงเปรียบเทียบ วิพากษ์ และ วิจารณ์
สวัสดีครับ ท่านอาจารย์บาทเดียว
หวังว่าจะได้ติดตามตอนต่อๆไป เช่นกันครับ
ขอบคุณครับที่ได้แนะนำให้รู้จัก "ปราชญ์" ผู้ยิ่งใหญ่อีกหนึ่งท่าน
รออ่านเหมือนคุณชินค่ะ
Cheers.