ตอนเย็นพาแม่ไปออกกำลังกายแถวริมแม่น้ำชี อากาศดีไม่ร้อนไม่เย็นเกินไป แสงแดดพอเหมาะ... แม่เดินส่วนข้าพเจ้าปั่นจักรยาน ได้ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร
จอดจักรยาน...มองดูเครื่องร่อนที่ล่องลอยไปบนท้องฟ้า...
เหมือนนกที่บินได้อย่างเสรี
มีผู้คนมากมายที่เลือกเดิน ...วิ่ง นั่งดูน้ำ คุยกัน
บรรยากาศงาม...ในความรู้สึก
เมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมการออกกำลังกาย แม่ก็เลยชวนไปบ้านอาขวัญต่อ
ไปเจอครอบครัวเจ้าเพ็ญกำลังพาเด็กๆ สำรวจโลกใบเล็กๆ กลางท้องทุ่งนา ส่งเสียงอันสดใส... ข้าพเจ้าไปร่วมสมทบด้วย
เดินเป็นขบวน...ไปตามคันนา...
ดูมด...ไส้เดือน แม้แต่กองขี้ความ เด็กๆ ก็พากันหยุดดู เด็กสองคนน้องเกรซและน้องกันต์มีจินตนาการค่อนข้างสูง เขาเป็นผู้เลือกเส้นทางการเดินสำรวจเอง โดยมีแม่และพ่อคอยดูและระแวดระวังเรื่องความปลอดภัย ส่วนป้าปุ๋มหรือ “หัวหน้าป้าปุ๋ม” ที่น้องกันต์ชอบเรียกนั้น ร่วมเป็นหนึ่งในทีมสำรวจของน้องกันต์ด้วย เด็กสองคนอายุสี่ขวบและสองขวบ น้องเกรซเป็นน้องสาวของน้องกันต์...กำลังเริ่มหัดพูด
พอเดินไปถึงบริเวณที่สูงที่ต้องปีน “หัวหน้าป้าปุ๋ม” ต้องได้แบกน้องกันต์ตัวอ้วน และพ่อมิงค์แบกน้องเกรซ ส่วนแม่เพ็ญหอบสัมภาระ...
“หัวหน้าป้าปุ๋ม”...มีน้ำหนักห่างจากหลานกันต์ ประมาณสิบห้ากิโลกรัม แต่ก็แบกน้องกันต์ได้ เพราะป้าปุ๋มนั้นแข็งแรง เป็นนักกีฬา...
พอแบกน้องกันต์ขึ้นหลัง เสียงปู๊ดดังสนั่น พร้อมเสียงหัวเราะอันสดใด และเสียงบ่นระหว่างของป้าและเสียงอธิบายของหลาน...น้องกันต์พูดเจื้อยแจ้วว่า “ก็น้องกันต์มีแก๊ซเต็มท้องงัย จึงได้ปล่อยลมออกมา”....
ทั้งป้าและหลาน...แบกกันไปตามท้องทุ่งนา
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ...ท่ามกลางอากาศงามๆ เป็นสภาวะแห่งการเยียวยาแห่งวิถีความเรียบง่าย ที่เราเลือกกำหนดให้แก่ชีวิตเราเอง ในช่วงเวลาแห่งการดำรงอยู่นี้ข้าพเจ้าค่อนข้างพึงพอใจ และปรากฏเป็นความสุขเล็กๆ หากแต่ยิ่งใหญ่ และกว่าจะได้สัมผัส เราต้องอาศัยการฝึกฝนและการเรียนรู้ที่จะหยิบยื่นความสุขๆ ที่ทรงคุณค่านี้ให้แก่ตัวเราเอง...
สภาวะเฉกเช่นนี้ ไม่มีใครหาหรือหยิบยื่นให้ใครได้
นอกจากบุคคลนั้น ต้องให้โอกาสตนเองได้เข้าไปคลุกวงในด้วยตัวเอง
------------------------------
น่ารักมากค่ะ ความสุขจากสิ่งเล็กๆรอบตัวต้องใช้ความละเอียดและความช้าจึงจะสัมผัสความงดงามได้นะคะ สมัยนี้ความเร็วทำให้ผู้คนมองข้ามความสุขที่อยู่ใกล้ตัวไปหมดนั่นคือการสร้างความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวและการได้เป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติไปด้วยกัน
สวัสดีค่ะ...พี่นุช
นานมากเลยนะคะที่เราไม่ได้คุยกัน วันนี้เป็นวันที่เหมือนต้องพักฟื้นหลังจากเมื่อวานโดนพายุอารมณ์ของผู้คนโหมกระหน่ำ ซึ่งเป็นอีกวันที่ได้เรียนรู้ภายในและจัดการตนเอง...
แต่พอไหว...พอไหว...
ทำให้ตระหนักในความโชคดีที่ได้เกิดเป็นมนุษย์เพื่อเรียนรู้และก้าวเดิน
ความแง่งามคือ สภาวะแห่งการเก็บเกี่ยว และนอบน้อมต่อสภาวะที่เข้ามาปฏิสัมพันธ์...ทุกอย่างไม่ว่าผู้คน เรื่องราว คือ ครูที่เข้ามาสอนเรื่องชีวิตแก่เรา
(^___^)
โลกน้อย ๆ ของเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ก็โลกใบเดียวกันครับ...
แต่เด็ก ๆ มักเห็นโลกใบนี้สดใสกว่าผู้ใหญ่...
เพราะเด็ก ๆ ใจของเขาใสกว่าผู้ใหญ่ครับผม...
ขอบคุณมากครับ..
ค่ะ...คุณดิเรก...
และจักรวาลที่ยิ่งใหญ่ คือ ...หัวใจเรา
การได้เรียนรู้เรื่องภายใน...เป็นความมหัศจรรย์เสมอต่อการได้มีลมหายใจนี้อยู่
"พลังของเด็กเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่"... ที่เราไม่อาจละวางหรือเพิกเฉยไปได้ โลกใบน้อยๆ ที่มีการสั่งสมและเพาะพันธุ์พืชแห่งอารมณ์ความรู้สึกนึกคิด... เราพึงหยิบยื่นเหตุแห่งปัจจัยดีดีเพื่อร่วมสรรค์สร้างโลกใบเล็กๆ นี้ให้สวยงามนะคะ
(^___^)