วันนี้ไปเยี่ยมเยียนกลุ่มที่ตำบลบางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ไปที่บ้านผู้ใหญ่ภานุวัชร ทุกคนเรียกผู้ใหญ่สอน เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่7 ต.บางจาก ผู้ใหญ่เป็นแกนหลักในการดำเนินงานหลายกลุ่มในตำบล
ความสำเร็จมากมายที่เกิดในตำบลบางจากเห็นจากมีการรวมกลุ่มและดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องหลายกลุ่ม ได้แก่
กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ก่อตั้งเมื่อปี 2543 สมาชิก 629 คน เงินทุน 4.3 ล้านบาท
สถาบันการเงินตำบล ก่อตั้งเมื่อปี 2548 สมาชิก 9 กลุ่ม เงินทุนหมุนเวียนประมาณ 2 แสนบาท
กองทุนสวัสดิการลดรายจ่ายวันละ 1 บาทตำบลบางจาก ก่อตั้งเมื่อปี 2548 สมาชิกประมาณ 1,500 คน
กลุ่มเครือข่ายรถจักรยานยนต์ ก่อตั้งเมื่อปี 2547 สมาชิก 623 คน เงินทุนหมุนเวียนประมาณ 4 แสนบาท ให้บริการสินค้าเงินผ่อนแก่สมาชิก สมาชิกต้องเป็นสมาชิกของกลุ่มออมทรัพย์หรือกองทุนหมู่บ้าน การผ่อนสินค้าได้แก่ รถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรด้านการเกษตร สมาชิกจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน
กลุ่มทำนาข้าว ก่อตั้งเมื่อปี 2546 สมาชิก 40 คน เงินทุนหมุนเวียน 40,000 บาท
กลุ่มเลี้ยงหมู ก่อตั้งเมื่อปี 2549 สมาชิก 50 คน เงินทุนหมุนเวียน 7,000 บาท
กลุ่มผลิตอาหารสัตว์ ก่อตั้งเมื่อปี 2549 สมาชิก 40 คน เงินทุนหมุนเวียน 20,000 บาท
สำหรับกองทุนหมู่บ้านม.7 เองก็มีผลการดำเนินงานที่น่ายินดี มีสมาชิก 265 คน เงินทุนหมุนเวียน 1.2 ล้านบาท
ภาพที่ผู้ใหญ่อธิบายให้ฟังเรื่องของการดูแลประชากรในตำบลใช้กลุ่มออมทรัพย์เป็นหลักในการจัดการทุนและสนับสนุนเรื่องอื่นๆ ในตำบล พัฒนาการของตำบลเป็นดังนี้
ในปี 2543 จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต โดยการส่งเสริมจากกรมการพัฒนาชุมชน หมู่ 7 บริหารจัดการจนสามารถเป็นที่เชื่อมั่นแก่คนในตำบลจึงเปิดกว้างรับสมัครสมาชิกทั้งตำบล ดูแลสมาชิกด้านการเงิน ส่งเสริมอาชีพและสวัสดิการ ปี 2551 มีสมาชิกประมาณ 900 คน สมาชิกถือหุ้น หุ้นละ 100 บาท ฝากทุกเดือน มีเงินกองทุนประมาณ 4.3 ล้านบาท มีผลกำไรประมาณ 4 แสนบาท นำมาจัดสรรเป็น การปันผลสมาชิกร้อยละ 40 กองทุนสวัสดิการร้อยละ 20 ที่เหลือเป็นค่าตอบแทนกรรมการ ทุนสำรอง สาธารณประโยชน์ สัดส่วนการปันผลสมาชิกเมื่อเทียบแล้วได้เท่ากับอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี กองทุนสวัสดิการมีจำนวน 30,000 บาท แต่มีการจ่ายสวัสดิการให้สมาชิกถึง 50,000 บาท มติกลุ่มจัดการโดยเพิ่มสัดส่วนการปันผลเข้ากองทุนสวัสดิการเพิ่มจากร้อยละ 20 โดยตัดจากส่วนที่เป็นทุนสำรองและสาธารณประโยชน์มาบางส่วน สวัสดิการที่กลุ่มจัดให้สมาชิกได้แก่เรื่อง รักษาพยาบาล 150 บาท/ครั้ง ไม่เกิน 5 ครั้ง/ปี นอนโรงพยาบาล 150 บาท/ครั้ง ไม่เกิน 5 ครั้ง/ปี เสียชีวิตจ่าย 2,000 บาท/ราย
นอกจากนี้กลุ่มออมทรัพย์ยังจัดทำกองทุนฌาปนกิจ โดยเก็บจากสมาชิกปีละ 280 บาท ใช้ฐานเดียวกับเครือข่ายอำเภอ ปีนี้เป็นปีที่ 14 ของการดำเนินงาน สามารถจ่ายให้สมาชิกที่เสียชีวิตเป็นเงิน 13,000 บาท/ราย
ปี 2548 ตำบลบางจากร่วมโครงการจัดการความรู้ วางเป้าหมายให้เกิดสถาบันการเงินตำบล และมีกองทุนสวัสดิการตำบล จนสามารถจัดตั้งสถาบันการเงินตำบลบางจาก และกองทุนสวัสดิการลดรายจ่ายวันละ 1 บาทตำบลบางจากได้สำเร็จในปี 2548
สถาบันการเงินตำบลบางจาก สมาชิกคือกลุ่มต่างๆ ในตำบล จำนวนประมาณ 9 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มออมทรัพย์ของหมู่ที่ 3, 4, 7, 10, 11 กองทุนหมู่บ้านม.7 กลุ่มเลี้ยงหมู กลุ่มเครือข่ายรถจักรยานยนต์ กองทุนหมู่บ้าน ม.7 เงินกองทุนประมาณ 2 แสนบาท ปล่อยกู้ดอกเบี้ยร้อยละ 6 และกลุ่มที่กู้นำเงินไปบริหารจัดการอีกชั้น การขยายผลไปสู่สมาชิกรายบุคคลและเปิดทำการเป็นสถาบันการเงินทั่วไปนั้น เมื่อสำรวจข้อมูลแล้วยังติดปัญหารายได้ของสมาชิกในตำบล ไม่มีรายได้รายเดือน เนื่องจากส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนามีรายได้ปีละครั้ง จึงรอดูการเปลี่ยนแปลงอาชีพของประชากร ในขณะนี้มีการปรับเปลี่ยนจากการทำนาเป็นปลูกปาล์มเมื่อได้รับผลอาจจะมีรายได้ต่อเนื่องจนสามารถเปิดเป็นสถาบันการเงินทั่วไปได้
กองทุนสวัสดิการลดรายจ่ายวันละ 1 บาทตำบลบางจาก สมาชิกประมาณ 1,500 คน อบต.สมทบในปี 2550 จำนวน 2 แสนบาท ปี2551 จำนวน 1 แสนบาท
การจัดการกองทุน SML ของหมู่ 7 เมื่อปี 2551 จัดสรรเป็น 2 อย่าง คือ1) ซื้อข้าวเปลือกให้แก่ชาวนา ประมาณ 5 ถัง/ครัวเรือน จัดการโดยเมื่อได้รับผลผลิตให้จ่ายเงินคืนตามมูลค่าข้าวเปลือกที่ได้รับ เพื่อเป็นกองทุนหมุนเวียนในการจัดการต่อไป 2)ซื้อรถไถนาเดินตาม บริหารจัดการโดยให้เช่าแก่คนในหมู่บ้าน คิดค่าเช่าในอัตรา 30 บาท/ครั้ง เพื่อเป็นค่าบำรุงรักษา และซ่อมแซม
จากผลการดำเนินการทั้งหมดส่งผลให้ผู้ใหญ่บ้านม.7 ได้รับรางวัลผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยม(แหนบทองคำ)ประจำปี 2551 ด้วยคะ (ปรบมือ)
สวัสดี น้องรัช แวะไปหาทักน้องแหม่มมาแล้ว ขยันกันจริง เก่งอย่างนี้ นายหัว ภีมนำทีมไปโลดแน่ แวะทักบังหีมบ้างน่ะครับ
น้องรัชให้ข้อมูลที่ละเอียดดีค่ะ
น้องรัชคิดว่า ปัจจัยสู่ความสำเร็จนี้คืออะไรคะ