|
-การศึกษาขั้นพื้นฐาน 12 ปีที่รัฐจัดให้เปล่านั้นเป็นไปตามที่กฎหมายการศึกษากำหนด
ไว้ นโยบายควรเป็นเช่นนี้ก็ว่าไปตามนโยบาย
-ส่วนในทางปฏิบัติสถานศึกษาและท้องถิ่นจะเอาอย่างไรก็สามารถทำแตกต่างกันไปได้อยากให้รัฐและท้องถิ่นให้ความสำคัญในหลักการในการจัดการศึกษาที่กำหนดไว้ในกฎหมายที่ว่า "มีเอกภาพด้านนโยบาย แต่หลากหลายในทางปฏิบัติ "
-เรื่องแบบเรียน เรื่องเสื้อผ้า เรื่องอื่น ๆก็เหมือนกัน ส่วนกลางไม่ต้องไปคิดแทน ให้ชาวบ้านเขาคิดกันบ้าง
-งบประมาณก็คืองบประมาณ ทำไมรัฐบาลต้องคิดเรื่องการแปรรูปงบประมาณให้หลากหลายรูปแบบ คือ เป็นเสื้อ เป็นนมกล่อง เป็นแบบเรียน และเป็นอุปกรณ์การเรียนการสอน ฯลฯ แล้วเราชาวบ้านก็ตกหลุมพวกนักการเมือง เสียเวลาไปอภิปรายว่าควรจัดการอย่างไร เรื่องแบบนี้คุยกันระดับประเทศ ปวดหัวตาย...แค่คุยกันระดับท้องถิ่นก็จะบ้าแล้ว รัฐมนตรีฯเอาเวลาไปคิดเรื่องอื่นเถิด เรื่องแบบนี้ปล่อยให้ชาวบ้านเขาคิดกัน พวกเราชาวบ้านก็อย่าตกหลุมพราง เพราะพอเปิดเวลาเวทีหลาย ๆเวที จนชาวบ้ามึนแล้ว พวกนักการเมืองก็จะประกาศว่า "...เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน.." ซึ่งก็จะอ้างว่าเป็นการสรุปจากเวทีต่าง ๆนั้นซึ่งแสดงว่าเป็นประชาธิปไตยใช่ไหม่จ๊ะ...ไม่รวบอำนาจใช่ไหมจ๊ะ...
-สิ่งที่พวกเราควรตั้งคำถามกับรัฐบาลก็คือรัฐบาลเปลี่ยนวิธีคิดในการบริหารจัดการศึกษาเสียใหม่ได้ไหม ฝ่ายปฏิบัติและท้องถิ่นมาสุมหัวกันหน่อยซี อยากให้รัฐบาลทำอย่างไร ก็ยื่นข้อเสนอไปให้รัฐบาล ทำได้ไม่ได้แค่ไหน ก็ตกลงกัน แต่ละถิ่นแต่ละที่ก็อาจแตกต่างกันได้ ยึดหลักใหญ่ ๆร่วมกัน ย่อย ๆก็แตกต่างกันไปตามสภาพ บริหารแบบนี้ ผู้บริหารระดับสูงค่อยใช้สมองหน่อย การวางมาตรการยิบย่อยเหมือนกันหมดทั้งประเทศมันเป็นการดูถูกภูมิปัญญาชาวบ้านและฝ่ายปฏิบัติ???????ดูถูกตัวเองด้วย??????? ไหม๊??????
paaoobtong
2/2/52
-