2. ข้าศึกของสหกรณ์
ท่านได้บรรยายถึงสิ่งที่ทำให้สหกรณ์ไม่ประสบความสำเร็จว่า “สิ่งแรกสุดที่เป็นศัตรู หรือข้าศึกของสหกรณ์ คือ “ความเห็นแก่ตัว”ภาษาฝรั่งเรียกว่า SELFISH ภาษาบาลีว่า อตถพต ปัญญา อสุจีมนุสสา คือปัญญาที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เป็นมนุษย์จิตใจสกปรก เป็นคนเลวทรามที่ทำลายทุกอย่าง สหกรณ์ที่รวมกันไม่ได้ ล้มกิจการไปมากก็เพราะความเห็นแก่ตัวของคน
ลักษณะของคนเห็นแก่ตัว คือ เกียจคร้าน ชอบเอารัดเอาเปรียบคนอื่น อิจฉาริษยา ไม่ซื่อสัตย์ ไม่มีความกตัญญู ไม่มีน้ำใจเป็นนักกีฬา คอยจ้องเอาแต่กอบโกยผลประโยชน์ ทำลายความสามัคคี สร้างความแตกแยก คนแบบนี้จะทำระบบสหกรณ์ได้อย่างไร มีแต่ความมืดบอด จนเกิดวิกฤตการณ์อันเลวร้าน ครูเห็นแก ก็ทำนาบนหลังลูกศิษย์ หมอเห็นแก่ตัวก็ทำนาบนหลังคนไข้ ตุลาการเห็นแกตัวก็ทำนาบนหลังจำเลย พระเจ้าพระสงฆ์เห็นแก่ตัวก็ทำนาบนหลังอุบาสก อุบาสิกา ศาสนาจึงเกิดขั้นเพื่อทำลายความเห็นแก่ตัว
ความเห็นแก่ตัวมันเลวร้ายจนไม่มีคำจะพูด ความไม่เห็นแก่ตัวมันก็ประเสริฐจนไม่มีคำจะพูดเช่นกัน หากทุกคนไม่เห็นแก่ตัวศาลหรือกฎกฎหมายก้ยกเอาไปทิ้งทะเลรวมไปถึงสิ่งที่เรียกว่าศาสนา เพียงแต่ไม่เห็นแก่ตัวมันก็เกิดระบบสหกรณ์ ถ้าสมาชิกเห็นแก่ตัว สหกรณ์ก็กลายเป็น “สหโกง” ภายในพริบตาเดียว ถ้าเห็นแก่ตัว สหกรณ์ก็พังพินาศ คนเห็นแก่ตัว ถ้าเรียกมาพัฒนาให้ความสามัคคี หรือชวนมาทำสหกรณ์ให้สำเร็จ “ชวนช้างลอดรูเข็ม” ยังง่ายยิ่งกว่าชวนคนเห็นแก่ตัวมาทำสหกรณ์ “ ทั้งท่านได้เคยเทศนาไว้ว่า ” ต่อให้ฝนทุกเม็ดบนท้องฟ้าตกลงมาเป็นทองคำก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของคนเห็นแกตัว” ซึ่งเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก
ไม่มีความเห็น