ความหลากหลายของสายพันธุ์พืชตระกูลส้ม
Diversity of Citrus species
สามารถ เศรษฐวิทยา,กาญจน์ จันทร์ลอย,นางมณฑา วงศ์มณีโรจน์,รศ.ดร.รวี เสรฐภักดี
ศูนย์วิจัยและพัฒนาไม้ผลเขร้อน สถาบันวิจัยและพัฒนากำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน นครปฐม
ในความหมายของคำว่า ส้ม (Citrus) ได้กินความหมายครอบคลุมไปนอกเหนือจากสกุลของส้ม (genus Citrus) แต่รวมไปจนถึงพืชอื่น ๆ ที่ใกล้เคียง (citrus relatives) ทั้ง subfamily Aurantioideae (Murraya paniculata) มะไฟจีน (Clausena lansium)มะนาวเทศ (Triphasia trfolia) กระแจะ(Hesperethusa crenulata) มะนาวผี (Atalantia monophylla) มะตูม (Aegle marmalos)มะขวิด (Feronia limonia) และมะสัง (Feroniella lucida) เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีส้มในสกุลอื่นๆที่มีบทบาทที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมการผลิตส้มของโลกอีกด้วย
ส้มมีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตติดต่อระหว่างพื้นที่ของประเทศจีนตอนใต้ อินเดีย คาบสมุทรมลายู ซึ่ง รวมถึงประเทศไทยทั้งหมดด้วย จากเอกสารรายงานของ มองซิเออร์ เดอ ลา ลูแบร์ (Monsieur De LaLoubere)ที่เขียนไว้ในหนังสือ A New Historical Relation With The King of Siam ที่ได้เข้ามาในประเทศไทยในระหว่างวันที่ 27 กันยายน 2230 (ค.ศ.1687)ถึงวันที่ 3 มกราคม 2231 (ค.ศ.1688)หรือมากกว่า 300 ปีที่ผ่านมา ในเอกสารนี้ได้กล่าวถึงพืชหลายชนิดรวมทั้ง ส้มโอ (Soum-O หรือ Pompelmousees) ส้มแก้ว (Soum –Keou) และมะกรูด (Ma-Crout) ส่วนกลุ่มส้มเปลือกล่อน คาดว่าได้มีการนำเข้ามาในประเทศไทยเมื่อกว่า 100 ปี ที่ผ่านมาพร้อมกับชาวจีนที่อพยพและได้มีการปลูกและขยายพันธุ์จนได้เป็น “ส้มเขียวหวาน” ในที่สุด
การแบ่งกลุ่มของส้ม
ส้มเป็นพืชอยู่ในตระกูล Rutaceae สกุล Citrus สำหรับประเทศไทย มีการจำแนกพืชตระกูลส้ม พบว่าตระกูลย่อยที่สำคัญที่สุด คือ ตระกุลย่อยของส้ม ซึ่งประกอบด้วยส้มชนิดต่าง ๆ มะขวิด มะตูม และส้มสามใบ อย่างไรก็ดี พืชตระกุลย่อยนี้ สามารถแบ่งได้ 4 กลุ่ม ได้แก่
-กลุ่มส้มเกลี้ยงและส้มตรา (Orange group) แบ่งเป็นส้มที่มีรสหวาน (Sweet Orange: Citrus sinensis) และส้มทีมีรสเปรี้ยว หรืออาจมีรสออกขม (Sour or Bitter Orange: Citrus aurantium)
-กลุ่มส้มจีน ส้มเขียวหวาน (Mandarin group) ได้แก่ ซัทซูมา มานดาริน (Satsuma Mandarin:Citrusunshiu) คิงส์ แมนดาริน (King Manderin: Citrus nobilis) เมดิเตอร์เรเนียน แมนดาริน (Mediterranean Mandarin: Citrus delicoia) คอมมอน แมนดาริน (Common Mandarin: Citrus reticulata)
-กลุ่มส้มโอ และเกรฟฟรุท (Pummelo and Grapefruits) ได้แก่ ส้มโอ (Pummelo: Citrus maxima) และเกรฟฟรุท (Grapefruits: Citrus paradise)
-กลุ่มมะนาว (Common acid member group) ได้แก่ ซิตรอน (Citron: Citrus medica) เลมอนหรือมะนาวฝรั่ง (Citrus lemon)
1.กลุ่มส้มเกลี้ยง (The Orange Group ) แบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ
1.1 Sweet Orange (Citrus sinensis [L.] Osbeck) หมายถึงพืชกลุ่มส้มเกลี้ยงทั้งหมด เป็นส้มที่ปลูกมากที่สุดของโลก แบ่งเป็นประเภทย่อยลงไปได้อีกดังนี้
A. Common Orange กลุ่มนี้มีการปลูกประมาณ 2 ใน 3 ของส้มเกลี้ยงทั้งหมด พันธุ์ที่รู้จักและมีความสำคัญได้แก่ Valencia, Pineapple, Hamlin, Shamouti, Salustiana, Cadenera, Mosambi, Calabrese และ Belladonna ในประเทศไทยที่พบคือ ส้มเกลี้ยง
B. Sugar or Acidless Oranges ไม่ค่อยปลูกกันมากนักเป็นส้มเกลี้ยงที่มีปริมาณกรดต่ำกว่าปกติมากจึงมีรสหวานโดยตลอด พันธุ์ที่สำคัญได้แก่ Succari, Sucrena และVainiglia สำหรับพันธุ์ที่ปลูกในประเทศไทย คือ ส้มตรา (ส้มกาหรือส้มเช้ง) มี 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ที่มีสาแหรก (ริ้วตามความยาวจากขั้วสู่ก้นผล) และสายพันธุ์ที่ไม่มีสาแหรก
C. Pigmented or Blood Oranges พันธุ์ส้มกลุ่มนี้มีสีของ anthocynin pigment นอกเหนือจาก carotenoids จึงทำให้ส้มกลุ่มนี้มีสีออกไปทางแดงปลูกในย่านเมดิเตอเรเนียน พันธุ์สำคัญได้แก่ Moro,Tarocco, Sanguinello Comune, Maltaise Sanguine, Doblefina และ Spanish SanguinelliD.Navel Oranges
1.2 Sour or Bitter Oranges (Citrus aurantium L.) บางครั้งกลุ่มนี้เรียกว่า Sevelle Orange สำหรับในประเทศไทยรู้จักกันในชื่อที่เรียกว่า ส้มซ่า ในอดีต ส้มชนิดนี้ได้มีการนำมาใช้เป็นต้นตอของกลุ่มส้มเกลื้ยงเนื่องจากมีความทนทานต่อโรคยางไหลและไฟทอฟธอราได้ดีแต่ในปัจจุบันได้ยุติการใช้ในแหล่งปลูกส้มอุตสาหกรรมทั้งหมดเนื่องจากว่าการเข้าคุ่ระหว่างต้นพันธุ์ที่เป็น sweet orange บนต้นตอ souar orange นั้นมีความอ่อนแอต่อดรค tristeza virus เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ส้มชนิดนี้ยังมีความสำคัญในแถบเมดิเตอเรเนียน เนื่องจากการใช้การผลิตน้ำอบ (cologne) หัวน้ำหอม (perfume) และเครือ่งสำอางอื่นๆอีก กลุ่มพันธุ์ที่ใช้กันอยู่ได้แก่ Bouquet และ Bergamot นอกจากนี้ ยังได้นำมาใช้ในการผลิตแยมผิวส้ม(marmalade) และใช้เป็นไม้ประดับ
2.กลุ่มส้มเปลือกล่อน (The Mandarins) จัดเป็นส้มกลุ่มที่ปลูกกันมากที่สุดในทวีปเอเชียซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย แหล่งที่ผลิตสำคัญได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน ไทย อินเดีย ฟลอริดา ออสเตรเลีย และย่านเมดิเตอเรเนียน ส่วนประเทศในเอเชียที่มีปลูกค่อนข้างมาก ได้แก่ ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย แบ่งเป็น 5 กลุ่มย่อย ดังนี้
2.1 Satsuma Mandarins (Citrus unshiu Mar.)จัดเป็นกลุ่มหลักของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
โดยสายพันธุ์ที่นิยมกันมากที่สุด คือ Miyagawa Wase
2.2 King Mandarins (Citrus nobilis Lour .) เรียกกันย่อยๆว่า King บางครั้งก็เรียนว่า King of Siam อย่างไรก็ตาม ส้มชนิดนี้ไม่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยเป็นส้มที่มีรสชาติดีมากชนิดหนึ่ง แต่มีผิวที่หนาและขรุขระ
2.3 Mediterraneae Mandarins (Citrus delicuiosa Ten.) ใช้เป็นไม้ประดับและใช้สกัดน้ำมันสำหรับเครื่องสำอาง มีเพียง พันธุ์เดียวคือ Willowleaf
2.4 Common Mandarins (Citrus reticulate Blanco)เป็นกลุ่มที่มีความสำคัญอย่างมาก รวมทั้งประเทศไทยด้วยพันธุ์ที่สำคัญของไทยได้แก่ เขียวหวาน โชกุน (หรือสายน้ำผึ้ง) Ponkan ,Cravo ,Dancy,Clementine และ Ellendele นอกจากนี้ยังมีส้มลูกที่ผสมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมที่เชื่อว่าเป็น tangor (ลูกผสมระหว่าง tangerine X orange) ได้แก่ Tangan และส้มหัวจุก (Som-chuk หรือ Somjook) สำหรับพันธุ์ฟรีมองต์ (Frermont) เป็นลูกผสมระหว่าง Clementine X Ponkan
2.5 Small Fruited Mandarins เนื่องจากมีลักษณะคล้ายส้มเปลือกล่อนแต่มีรสชาติเปรี้ยวจัด นอกจากนี้ ยังมีส้มที่คล้ายลูกผสมของ Mandarin อีกหลายชนิด ที่สำคัญได้แก่ Calamondin (Citrus madurensis Lour.)หรือเรียกกันว่าCalamansi ในฟิลิปปินส์ และ Rangpur
(C. limonia Osbeck) ซึ่งมีการนำมาใช้เป็นต้นตอ
3. กลุ่มส้มโอและเกรฟฟรุต (The Pummelos and Grapefrits) พันธุ์ที่สำคัญและนิยมปลูกกัน ได้แก่ ขาวน้ำผึ้ง ขาวแตงกวา ทองดี ขาวหอม ขาวใหญ่ ขาวพวง ขาวแป้น ท่าข่อย ทับทิม หอมหาดใหญ่ เป็นต้น
A. กลุ่มที่มีรสเปรี้ยวปานกลางถึงเปรี้ยวจัด กลุ่มนี้มีปริมาณกรดระหว่าง 1.02-1.93 %
B. กลุ่มที่หวานหรือมีกรดต่ำ กลุ่มนี้มีปริมาณอยู่ระหว่าง 0.08-0.10%
นอกจากนี้หากแบ่งตามเนื้อสีแล้ว สามารถแยกเป็น 2 กลุ่มเช่นกัน ได้แก่
A. กลุ่มที่มีเนื้อสีขาวหรือไม่มีสี ได้แก่ พันธุ์ ขาวพวง ขาวแป้น ขาวใหญ่ ขาวน้ำผึ้ง ขาวแตงกวา
B. กลุ่มที่มีเนื้อสีแดงหรือเนื้อสีชมพู ซึ่งสีเนื้อเกิดจาก carotenoid pigment พวก licopene พันธุ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ ทองดี Chandlerนอกจากนี้ก็มีพันธุ์อื่นอีก เช่น ท่าข่อย และทับทิม เป็นต้น
4. กลุ่มส้มที่มีรสเปรี้ยวจัด (The Common Acid Members) ส้มกลุ่มนี้พบว่ามีรสเปรี้ยวจัดที่เป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญ คือ มีส่วนของปลายผล (stylar end) มักพบลักษณะนูนขึ้นซึ่งเรียกว่า areolar mammalia (บางครั้งเรียกว่า nipple) แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มย่อย คือ
4.1The Citrons (Citrus mesica L.) ลักษณะที่สำคัญ คือ ตากอกมีสีม่วงแต้มอยู่ มีเนื้อเยื่อชั้นกลาง (albedo หรือ mesocarp) ที่หนามาก เป็นส้มที่อ่อนแอต่อโรค tristeza virus อย่างมากจึงนิยมใช้เป็นindexing plant เพื่อใช้ตรวจสองโรคไวรัสชนิดนี้ พันธุ์ที่สำคัญได้แก่ Dimnta และ Ettrog ในประเทศไทยพบปลูกตามหมู่บ้านชาวเขาทางภาคเหนือซึ่งเรียกว่า ส้มมะละกอ นอกจากนี้คือ ส้มมือ (Buddha’s Hand Citron หรือ Fingered Ciron(C.medica var.sarcodacylis[not.] Seing ซึ่งใช้เป็นสมุนไพร
4.2The Lemons (Citrus limon [l.]Burm.F) เรียกกันในภาษาไทยว่า มะนาวฝรั่ง หรือมะนาวนมยาน ทางภาคเหนือบางครั้งเรียกมะนาวริโปน พันธุ์ที่สำคัญได้แก่ Eureka และ Lisbon ส่วนพันธุ์อื่น ๆ อีกที่สำคัญ เช่น Villafranca,Berna และ Femminello Ovale เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีส้มที่มีลักษณะคล้ายเมลอนอีกหลายชนิด เช่น Sweet lemon,Alemow (c.macrophylla) และ rough lemon (c.jambhiri)
4.3The Limes ได้แก่มะนาว ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้คือ
A. Small-furited Acid Limes (Citrus aurantifolia Swing) เป็นกลุ่มมะนางที่ปลูกกันในประเทศไทย บางครั้งเรียกว่า Mexican lime หรือ Key lime มีปริมาณ citric acid ที่สูงมากโดยมีถึง 7-8% อย่างไรก็ตาม มะนาวมีความอ่อนแอต่อโรคแคงเกอร์ (Xanthomonas campestris pb.Xitri) และtristeza virus อย่างมาก จึงนิยมใช้เป็น indexing ในการตรวจสอบไวรัสร่วมกับ แต่มะนาวมีความทนทานต่อโรค () พันธุ์มะนาวที่มีปลูกกันมากในประเทศไทยได้แก่ แป้น ไข่ และอีมัน
B. Large-fruited Acid Lines (Citrus latifolia Tan.) มีลักษณะความทนโรคที่ตรงข้างกับมะนาวกลุ่มแรก เชื่อว่าเป็นลูกผสมโดยธรรมชาติ พันธุ์ที่สำคัญได้แก่ Tahiti และ Bearss เป็นพันธุ์ส้มที่ไม่มีเมล็ดเนื่องจากเป็น triploidy
ส้มอีก 2 กลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในสกุล Citrus ได้แก่ Kumquat (Fotunella spp.) ซึ่งเรียกในภาษาไทยว่า ส้มกินเปลือก และ trifoliate orange (Poncirus trifoliate) ซึ่งก็คือ ส้มสามใบส้มสามใบนั้นได้มีการนำมาใช้เป็นต้นตอนานมาแล้ว ในปัจจุบันได้มีการผลิตลูกผสมระหว่างส้มสามใบและส้มเกลี้ยง (sweet orange) ได้เป็นลูกผสมที่เรียกชื่อว่า citrange ขึ้น โดยพันธุ์ที่นำมาใช้เป็นต้นตออย่างกว้างขวางและรู้จักกันอย่างดี คือ Troter และ Carrizo รวมทั้งลูกผสมข้ามชนิดอีกหลายพันธุ์ เช่น Seingle citrumelo เป็นต้น
จากการที่ส้มมีทั้งชนิด และพันธุเป็นจำนวนมาก การที่จะผลิตส้มจึงจำเป็นต้องคำนึงถึงตลาดที่จะสามารถรองรับผลผลิตเป็นหลัก ซึ่งจะรวมทั้งชนิดและปริมาณ นอกจากนี้ การผลิตยังจะต้องพิจารณาถึงศักยะของการผลิตส้มที่มีคุณภาพดีหรือสูง มิใช่เพียงแต่ปริมาณเท่านั้นพื้นที่แต่ละแห่งพื้นความรู้ความสามารถของเกษตรกรเฉพาะบุคคลรวมทั้งช่องทางของตลาดก็เห็นข้อจำกัดหนึ่งของการผลิตด้วยเช่นกัน
อยากรู้วิธีการปลูกส้มเช้ง (กา,ตรา)เค้าปลูกกันยังงัย ต้องเตรียมที่ดินอย่างไร ซื้อกิ่งพันธ์ที่ไหน ต้องดูแลอย่างไร (ลบกวน "ขอด่วน")
รูปแบบการปลูกใช้เหมือนกับมะนาวครับ ปลูกในห่วงเหมือนกับมะนาวก็ยังได้ ให้ดูข้อมูลที่ให้ไว้ ส่วนกิ่งพันธ์เห็นที่ตำบลกระดังงา สมุทรสงครามครับ หรืออีกที่ก็ไร่ขิงพันธ์ไม้ ใกล้วัดไร่ขิงครับดูแล้วน่าเชื่อถือครับ