อารมณ์กระแทก โลกกระเทือน


การที่เราได้เจอกัลยาณมิตรเป็นสิ่งประเสริฐยิ่ง และการได้มีโอกาสได้เรียนรู้ก็ยิ่งประเสริฐ

วันนี้อย่างเต็มที่รู้สึกขอบคุณต่อสรรพสิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาและกระทบ สภาวะที่มากระทบในวันนี้ทำให้เดี้ยงไปหลายตลบ โชคดีที่ได้กัลยาณมิตรธรรมและผู้ผลักพลังทางด้านจิตวิญญาณคว้าไว้ และให้เรียนรู้ทางด้านปัญญา...กว่าสภาวะเซจะทำให้เราลุกขึ้นมาได้ ก็พลันเกิดสภาวะปิติและนิ่งพอที่จะทำให้ได้ใคร่ครวญทางปัญญาภายในตนเอง

การถูกสภาวะกระทบจากสรรพสิ่งเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถเลี่ยงได้ในขณะที่เรายังมีลมหายใจอยู่ แต่ที่เราเดี้ยง หรือตามไม่ทันในสภาวะที่มากระทบนั้น นั่นเป็นเพราะสภาวะแห่งจิตและปัญญาเราอ่อนกำลัง ยิ่งเมื่อไรที่สภาวะแห่งจิตที่ละเอียดขึ้น สิ่งที่จิตเสพเข้าไปก็จะละเอียดตามไปด้วย ... หากเราไม่ตั้งใจต่อการเรียนรู้เราจะตามไม่ทันในสภาวะที่เกิดขึ้น จนพลักดันให้เราไปกระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมต่อสรรพสิ่งอื่นทั้งทางกายและวาจาอย่างไม่ได้เจตนาไป...

จุดตั้งต้นแห่งการใคร่ครวญ...

"ทุกข์เพราะอะไร ทำไมจึงได้ทุกข์"... เราไม่รู้หรอกว่า ณ ขณะนั้นเกิดอะไรขึ้น เรารู้แต่สภาวะที่ถูกผลักดันแห่งภายในอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว อันมาจากการที่มีสภาวะกระทบจากภายนอกเคลื่อนเข้าสู่ภายในอย่างรวดเร็วตัวมโนวิญญาณนั้นทำงานไปแล้วตามอัตโนมัติ เคลื่อนไปภายในเสี้ยวของเสี้ยวของเสี้ยววินาทีไปทำงานในอาลัยวิญญาณผลักขึ้นมาสู่มโนวิญญาณอีกครั้ง (ขอใช้คำเหล่านี้ไปก่อน ณ ขณะ) เมื่อเราสติอ่อน เราตามไม่ทันในสภาวะจิตของเรา จิตเราเคลื่อนไปเสพในเรื่องราวที่มากระทบ แทนที่เราจะพิจารณาใคร่ครวญต่อสภาวะเบื้องลึกนั้นมากกว่า...

จริงๆ แล้วในสภาวะที่เกิด ที่มากระทบไม่ได้มีอะไรเลย...มันเป็นเฉกเช่นนั้นเอง

จิตของเราถูกหลอกให้ไปเสพอยู่ภายใต้สภาวะที่เรียกว่า "สัจจะ" และใช้ "ตัวกูดีเลิศประเสริฐ" มาหลอกซ้ำเข้าไปอีก ทำให้เราเผลอไป adjust ต่อบุคคลอื่นที่ได้กระทำบางสิ่งบางอย่างไปแล้ว แต่เราลืมใคร่ครวญไปว่าภายใต้การเกิดและดำรงอยู่นี้ ... ทุกสรรพสิ่งเป็นผู้สร้างเหตุปัจจัยต่างๆ ขึ้นมาด้วยตัวเอง และต้องไปรับผลตามเหตุปัจจัยนั้นด้วยตัวของเขาเอง ไม่ใช่จากเราไป adjust เราไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะไปตัดสินในสรรพสิ่งต่างๆ แต่เรามีสิทธิ์ที่จะยืดอกอย่างกล้าหาญและตั้งมั่นในสัจจะ...ที่ว่าด้วยถูกหรือผิด... แม้แต่พระพุทธองค์เองท่านได้ตรัสสอนโลกและจักรวาลนี้ไว้ว่า

-------------------------------------------------------------------------------------------------

"สัจจะย่อมเป็นสัจจะ ไม่ว่าคนจะเชื่อหรือไม่

แม้จะมีคนสักล้านคนที่เชื่อในความเท็จมันก็คงเป็นความเท็จอยู่ดี...

เธอจะต้องมีความกล้าหาญที่จะเชื่อในสัจจะ"

จาก "คือเมฆสีขาว ทางก้าวเก่าแก่ ; วรรณกรรมพุทธประวัติในทัศนะใหม่" หน้า 39 "หงส์บาดเจ็บ"

ติช นัท ฮัน...

-------------------------------------------------------------------------------------------------

เมื่อน้อมกลับมาตนเองสภาวะที่เกิด เราได้เห็นคนที่กำลังทำผิดโดยที่เขาไม่ได้ตระหนักในสภาวะนั้นของตนเอง เป็นการสร้างเหตุและปัจจัย และภายใต้แห่งเหตุและปัจจัยนั้น (อิทัปปัจยตา) เรารู้สึกสงสารต่อสิ่งที่บุคคลนั้นจะต้องได้รับ เราลืมในเรื่องการนำอุเบกขามาใช้...เพราะ ณ ขณะนั้นขาดสติใคร่ครวญพิจารณา แต่เมื่อได้รับกำลังใจอันงดงามจากกัลยาณมิตร และการวางใจลงอย่างเบาเบา ใคร่ครวญต่อสรรพสิ่งที่เกิดและเรื่องราวที่มากระทบ จึงได้มองเห็นถึง...การนำเรื่องอุเบกขามาพิจารณาที่ว่าด้วยการวางใจเป็นกลาง

"ใครทำสิ่งใดได้สิ่งนั้น"... "ใครสร้างเหตุปัจจัยใด ก็ย่อมได้รับผลตามเหตุปัจจัยนั้น"... ก็เท่านั้นเอง

หากแต่เราไม่เมินเฉย ทำหน้าที่แห่งความเป็นกัยาณมิตรที่ดี ช่วยบุคคลตามแต่สภาวะที่เราช่วยได้ในขณะนั้นอย่างเต็มกำลังเพื่อให้เขาได้ออกจากสภาวะแห่งการทำผิดให้เป็นถูก หรือบิดเบือนออกไปจากสภาวะแห่งสัจจะ... ด้วยใจแห่งอ่อนน้อมต้องไม่สนับสนุนในกิจที่ส่งเสริมให้เกิดการทำผิด...

ใคร่ครวญอีกครั้งแล้วก็วางลงจากใจอย่างเบาเบา...

เพราะทุกสภาวะต่างเคลื่อนเข้ามาให้เรียนรู้อย่างใคร่ครวญด้วย "สติปัญญา"...

--------------------

วรรคสุดท้ายของความคิด

การเรียนรู้อย่างใคร่ครวญ "สติ" ทำให้เราไม่เผลอต่อการใช้อารมณ์กระแทกออกไปสู่สรรพสิ่งต่างๆ หรือหากว่าเราเป็นผู้ถูกกระแทกทางอารมณ์ หากเราไม่มีสติใคร่ครวญด้วยปัญญาที่งดงามนี้ เราจะไม่สามารถรอดพ้นและตกลงไปเป็นเหยื่อทางอารมณ์ ก่อความสั่นสะเทือนโลกทั้งโลกนี้ได้ด้วยเพียงแค่สภาวะทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นภายในตัวเราเท่านั้น

ความสั่นสะเทือนโลกด้วยอารมณ์นี้เป็นเฉกเช่นใด...

นั่นก็เสมือนระลอกคลื่นของน้ำที่กระเพื่อมต่อๆ กันไป นั่นก็คือ ทุกสรรพสิ่งที่ได้มาเสพอารมณ์ที่กระทบและกระเทือนของเราไป ก็จะก่อเกิดเป็นสภาวะสั่นสะเทือนในบุคคลนั้นๆ ต่อๆ ไป...อีกจนยากจะเบาบางลงไปได้...เมื่อไรก็เมื่อนั้น โลกก็ยิ่งห่างไกลออกไปจากคำว่า "สันติ"... เนื่องด้วยที่สภาวะแห่งภายในของผู้คนต่างสะทือนสะท้านทางอารมณ์จนยากเกิดสภาวะ "สันติภายในใจ" ได้นั่นเอง

การที่หนึ่งในชีวิตนี้ได้มีหรือได้เจอกัลยาณมิตร...นั้นถือว่าเป็นความโชคดีของการได้เกิด เพราะกัลยาณมิตรนั้นต่างพยุงกันและกันนำไปสู่สภาวะแห่งใจเบาเบา และความเบิกบานทางดวงจิต และกัลยาณมิตรที่ว่านี้เป็นได้ในทุกๆ สภาวะ อาจเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อน หรือคนรู้จัก หรือสรรพสิ่งต่างๆ ได้ที่สามารถคอยเกื้อหนุนทางด้านจิตวิญญาณกันและกันให้น้อมนำไปสู่ "ความเจริญแห่งภายใน"...

ขอบคุณสิ่งที่ได้เรียนรู้และก้าวเดินผ่านไปได้อีกครั้ง แม้ว่าสภาวะนี้ได้ใช้เวลามากพอควรแต่นั่นก็ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องบางเรื่องได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น...

บทสรุป

เรื่องราวทุกเรื่องราว...ก็เป็นเช่นนั้นเองตามสภาวะสัจจ

 

-------------------------------

 

 

หมายเลขบันทึก: 233520เขียนเมื่อ 5 มกราคม 2009 22:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2013 13:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)
  • แวะมาสวัสดีปีใหม่นะจ๊ะ นอนหลับฝันดีค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง โชคดีตลอดปีนะคะ
บรรยากาศอย่างนี้ สงบ นิ่งมาก พี่ชอบจริงๆ เลยนำมาฝากค่ะ



รู้อารมณ์ คิดได้ จากใจแล้ว

สติแผ้ว ปัญญามากระจ่าง

ทำให้ได้ อวยชัย ชนะวาง

สิ่งต่าง ๆ ที่สถิตย์ สะกิดใจ

............

รู้ทั้งรู้ทุกอย่าง ทางจะเดิน

แต่บังเอิญผงมาบังรั้งเอาไว้

ปิดตาเล็ก ๆ มันไม่ให้ไป

เดินไม่ได้ ทั้งรู้ว่า ข้างหน้าทาง

The top secret

อารมณ์..เป็นผลของความรู้สึก ถ้ารู้จักฝึกสติ  คุมความรู้สึก  อารมณ์ก็จะไม่เกิด เป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลม

น้องกะปุ๋มทำดีแล้วค่ะ

สวัสดีปีใหม่ ขอให้สุขภาพกายและใจเข้มแข็งนะคะ

             พี่นำ ดอกบัวตองบนดอยสูงมาฝากค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่อร...

พี่อรสบายดีนะคะ เมื่อคืนกะปุ๋มนอนหลับไม่ฝันเลยค่ะ... แต่ก็หลับสนิทสบายดีค่ะ

ขอบคุณนะคะ

(^___^)

กะปุ๋ม

สวัสดีปีใหม่ค่ะ...พี่ศศินันท์

ขอบพระคุณนะคะสำหรับภาพงามๆ ... ที่นำมาฝากดูเย็นตาเย็นใจมากเลยค่ะ

สุข สงบ ในทุกขณะจิต

(^___^)

กะปุ๋ม

 

สวัสดีค่ะ...อ.จิด้า

ขอบพระคุณนะคะสำหรับกลอนที่นำมาฝาก... ทุกลมหายใจเข้าและออก คือการเดินทางที่น้อมเข้าไปแห่งภายใน...ที่ลึกซึ้งยิ่ง

และที่สุดของการเดินทาง...เรื่องราวรายทางต่างก็เป็นเช่นนั้นเอง

ขอบพระคุณนะคะ

(^__^)

กะปุ๋ม

สวัสดีปีใหม่ค่ะ...พี่แก้ว

ดอกบัวตองงามนัก...ขอบพระคุณสำหรับดอกไม้งามและกำลังใจอันงดงามนะคะ พี่แก้วคือพี่สาวที่น่ารักเสมอของน้องๆ ค่ะ

ขอเป็นกำลังใจในการก้าวเดินไปแห่งชีวิตนะคะ

(^___^)

กะปุ๋ม

สวัสดีค่ะ

* ฝากกลองมาร่วมอารมณ์กระแทกโลกกระเทือนด้วยค่ะ

                Sdc17981

* กลองมันอยู่ของมันนิ่งๆ มันก็เป็นกลองเช่นนั้นเอง

* เมื่อมีการกระทบมันก็ยังคงเป็นกลองเช่นนั้นเอง...

* สัจจธรรมไม่เปลี่ยน...สสารเปลี่ยน

* สุขกายสุขใจนะคะ

การสั่นสะเทือนเป็นเหตุให้เกิดปัญญา

สาธุค่ะ พี่สาว

^_^

ให้กำลังใจ สู่ใจที่สงบ

ทุกอย่างนั้นเป็นผัสสะ ที่มากระทบ ผัสสะต่างๆจะบริสุทธิ์ได้ ถ้าไม่มีเสียงทะเลาะในหัว เพียงคิดว่าสียงนั้นสัก แต่ว่าเสียง

จาก... ผู้เริ่มฝึกจิตมือใหม่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท