-
'inflammation' > [ อิน - เฟลม - เม้ - เฉิ่น ] > ย้ำเสียง (accent) ตรง "เม้" เสียงที่เหลือให้พูดเบาลง
-
'inflammation' = การอักเสบ ธาตุไฟกำเริบ
...
เป็นที่ทราบกันดีว่า ปลาทะเลเป็นอาหารที่ดีกับสุขภาพ ทีนี้ปลาเลี้ยง โดยเฉพาะปลาน้ำจืด เช่น ปลานิล ปลาดุก ฯลฯ ดีกับสุขภาพจริงหรือไม่ วันนี้มีคำตอบมาฝากพวกเราครับ
...
ภาพจาก Freeclipartpics.com > [ Click ]
...
ปลาทะเลที่ไม่ผ่านการทอดเป็นอาหารที่ดีกับสุขภาพหัวใจ เนื่องจากมีไขมันชนิดดีพิเศษ หรือโอเมกา-3 สูงและโอเมกา-6 ต่ำ (การทอดจะทำให้น้ำมันปลาซึมออก น้ำมันที่ใช้ทอดซึมเข้าไปแทน)
คณะนักวิจัยจากวิทยาลัยแพทย์ มหาวิทยาลัยเวค ฟอเรสท์ สหรัฐฯ ทำการศึกษาพบว่า ปลานิล (tipalia) และปลาดุก (catfish) ที่เลี้ยงในฟาร์มมีไขมันชนิดดีพิเศษคือ โอเมกา-3 น้อยกว่าปลาแซลมอนหรือปลาเทราท์ที่เลี้ยงในฟาร์มมากกว่า 8 เท่า
...
นอกจากนั้นปลานิลและปลาดุกเลี้ยงยังมีไขมันชนิดโอเมกา-6 สูงกว่าปลาแซลมอนและปลาเทราท์ (ปลาทะเลที่เลี้ยงเป็นฟาร์ม) มาก
การศึกษานี้พบว่า สัดส่วนของน้ำมันชนิดโอเมกา-6 ต่อโอเมกา-3 ในปลาดังกล่าวมีสูงถึง 11:1 ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับเนื้อสัตว์บกคือ เนื้อไก่
...
อาหารสุขภาพควรมีสัดส่วนของโอเมกา-3 สูงหน่อย และโอเมกา-6 ไม่มากเกิน เนื่องจากน้ำมันดีพิเศษชนิดโอเมกา-3 ช่วยลดการอักเสบ หรือป้องกันไม่ให้ธาตุไฟในร่างกายกำเริบ ตรงกันข้ามโอเมกา-6 เพิ่มการอักเสบ หรืออาจทำให้ธาตุไฟในร่างกายกำเริบได้
การกินไขมันชนิดโอเมกา-6 มากเกินอาจทำให้หัวใจ หลอดเลือดเสื่อมเร็ว เสี่ยงโรคภูมิแพ้ เช่น หอบหืด ฯลฯ เสี่ยงโรคข้ออักเสบบางชนิด อาหารที่มีโอเมกา-3 และโอเมกา-6 สูงปรากฏดังตาราง
...
ชนิด | โอเมกา-3 ค่อนข้างสูง | โอเมกา-6 ค่อนข้างสูง |
อาหาร | ปลาทะเล นัท(ถั่วเปลือกแข็ง) เมล็ดแฟลกซีด เมล็ดฟักทอง ถั่วลิสง น้ำมันคาโนลา | น้ำมันพืชส่วนใหญ่ เช่น น้ำมันทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด ฯลฯ |
ผลต่อการอักเสบ | ลดการอักเสบ | เพิ่มการอักเสบ |
...
ปลาจากฟาร์มหลายชนิดต้องเลี้ยงด้วยเนื้อปลา และน้ำมันปลา เช่น แซลมอน เทราท์ ฯลฯ ขณะที่ปลาน้ำจืดหลายชนิด เช่น ปลานิล ปลาดุก ฯลฯ เลี้ยงด้วยข้าวโพด (หรืออาหารอื่นที่มีโอเมกา-6 ค่อนข้างสูง)
การกินไขมันชนิดโอเมกา-3 ให้เพิ่มขึ้น และลดไขมันชนิดโอเมกา-6 ให้น้อยลงทำได้ดังต่อไปนี้
...
(1). กินปลาทะเลที่ไม่ผ่านการทอด (เช่น ปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศหรือน้ำแร่ ปลาทะเลที่ปรุงด้วยการนึ่ง อบ ย่าง เผา แกง ฯลฯ) สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
(2). กินน้ำมันปลา
...
(3). กินพืชที่มีโอเมกา-3 สูงหน่อย เช่น เมล็ดแฟลกซีด เมล็ดฟักทอง ถั่วลิสง ฯลฯ ที่ไม่ผ่านการทอด
(4). ใช้น้ำมันที่มีโอเมกา-6 ต่ำ เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันคาโนลา น้ำมันถั่วลิสง น้ำมันมะกอก (น้ำมันมะกอกไม่ค่อยทนความร้อน ใช้ทำสลัดได้ดี ใช้ผัดทอดไม่ค่อยดีเท่าไหร่) ฯลฯ
...
(5). ลดการกินอาหารประเภทผัดๆ ทอดๆ โดยเฉพาะอาหารนอกบ้าน (อาหารผัดๆ ทอดๆ ในไทยส่วนใหญ่ใช้น้ำมันปาล์มกับน้ำมันหมู ซึ่งมีไขมันอิ่มตัวสูง ส่วนน้อยใช้น้ำมันพืชชนิดมีโอเมกา-6 สูง)
(6). ลดการกินเนื้อสัตว์บกให้น้อยลง (สัตว์บกส่วนใหญ่มีสัดส่วนของโอเมกา-6 สูง)
...
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ และขอส่งความปรารถนาดีปีใหม่แด่ท่านผู้อ่านทุกท่านมา ณ ที่นี้ครับ
...
ภาษาอังกฤษสบายๆ สไตล์เรา
...
ศัพท์ตอนนี้มาจากเนื้อเรื่องคือ 'Omega-6 fatty acids promote inflammation.' = ไขมันกลุ่มโอเมกา-6 ส่งเสริม (เพิ่ม) การอักเสบ
ศัพท์เครือญาติ (โปรดสังเกตว่า มีส่วนที่เหมือนกันคือ 'flame'
...
ตำแหน่งย้ำเสียง (accent) ในภาษาอังกฤษนั้น... ส่วนใหญ่คำนามอยู่พยางค์แรก คำกริยาอยู่พยางค์สองหรือข้างหลัง ถ้าเป็นคำที่ทำให้เป็นคำนามโดยเติม '-tion' ให้ย้ำเสียงหน้า '-tion'
อย่าพูดภาษาอังกฤษโดยไม่ย้ำเสียง (accent) เพราะฝรั่งฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ
...
ที่มา
ไม่มีความเห็น