รศ.พญ.ปารมี
กล่าวว่า หลังจากเริ่มโครงการไปในเวทีแรก
เกิดผลสำเร็จที่เห็นชัดในหลาย ๆ เรื่อง
ได้แก่บุคลากรมีความกระตือรือร้นมากขึ้น
อยากจะมาร่วมโครงการหรือฟังการนำเสนองานของกลุ่มอื่น ๆ
ซึ่งเดิมมักอ้างว่าไม่มีเวลา แต่พอได้ฟังของเพื่อน
ได้เห็นการทำงานของกลุ่มอื่นก็เกิดความอยากที่จะทำบ้าง
เช่นเพื่อนนำเสนอด้วย power point ก็ไปหัดทำบ้าง
และที่สำคัญโครงการนี้เป็นโอกาสที่หลายคนได้แสดงศักยภาพของตัวเองออกมา
และเขาได้พัฒนาตนเองในหลาย ๆ ด้าน
และในระหว่างการนำเสนอก็มีข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะเขาก็ได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่ตนเองคิดนั้นเป็นอย่างไร
และน่าจะส่งผลต่อเป้าหมายของภาควิชาได้
นอกจากนี้ยังเกิดผลข้างเคียงดี ๆ ที่เสมือน ยิงปืนนัดเดียว
ได้นกหลายตัวทีเดียว อาทิ ได้รู้จักว่าใครเป็นใคร หลายคนบอกว่า
บางคนเห็นหน้าตั้งนานแล้ว ไม่รู้เลยว่าอยู่ภาควิชาเดียวกัน,
ทำให้มีการฝึกการใช้คอมพิวเตอร์ภาคปฏิบัติ ไม่ต้องพูดถึงการใช้ power
point เลย แม้แต่การใช้ mouse ก็ไม่คิดเลยว่าหลายคนยังไม่เคยจับ
ผลพลอยได้นี้ จะช่วยให้บุคลากรระดับปฏิบัติมีความสามารถในการ
(กล้า)ใช้คอมพิวเตอร์ และ internet มากขึ้น
ก็จะเข้าถึงแหล่งข้อมูลในยุค IT มากขึ้นด้วย ,
การพูดนำเสนอต่อหน้าธารกำนัล แม้จะก่อให้เกิดความกลัว
กังวลกับผู้ที่ไม่เคย แต่คงสร้างความภาคภูมิใจในตนเองได้ไม่น้อย, เกิด
“คุณอำนวย” ตัวฉกาจ คือ ผศ.ดร.จำนงค์ นพรัตน์ 1 ในทีมงานจัดทำโครงการ
รับอาสาเป็นพิธีกรประจำเวทีการนำเสนอ ช่วยสร้างบรรยากาศคุ้นเคย อบอุ่น
เป็นกันเอง และสนุกสนาน ทำให้มือใหม่หัดขับทั้งหลาย
สามารถผ่านพ้นช่วงแห่งความกังวลไปได้ด้วยดี,เกิดการเรียนรู้ข้ามหน่วยงาน
จากการได้รับความสนใจจาก
สคส.เชิญให้ไปร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเวทีเสวนาการจัดการความรู้ในวงราชการไทย
และได้รับเชิญจากกลุ่มงานสำนักงานอธิการบดีให้ทีมงานไปช่วยสอนแนะเพื่อให้เกิดการประยุกต์ใช้
KM ในการพัฒนางานและอื่นๆ อีกมากมาย
เรื่องเล่า “จิ๊กซอ” แห่งความสำเร็จ
การดำเนินโครงการ
patho-otop เกิดความสำเร็จเล็ก ๆ
ขึ้นมากมายและส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนแนวคิดและการพัฒนางาน
โดยมีเสียงสะท้อนจากผู้เข้าร่วมโครงการ เช่น ผศ. พญ.เสาวรัตน์
เอื้อเพิ่มเกียรติ รองหัวหน้าภาคฝ่ายพัฒนา ในฐานะพี่เลี้ยงโครงการ
เล่าประสบการณ์ “ทำอย่างไร จึงมีบุคลากรมาสมัครทำโครงการถึง 22
ทีม”ว่า “ต้องใช้กลยุทธ์หลายอย่าง
ทั้งทบทวนและปรับเปลี่ยนวิธีไปเรื่อยๆ จึงจะมีคนสมัครมากขนาดนี้
โดยในตอนแรกหลังจากได้ร่างโครงการแล้ว
ก็เชิญผู้ที่คาดหมายว่าน่าจะเป็นพี่เลี้ยงโครงการได้
มาประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็น หลังจากนั้นก็ประกาศรับสมัครทีม
โดยให้กรอกแบบสอบถามเป็นแนวในการพัฒนางาน แต่ก็ไม่มีผู้มาสมัคร
จึงต้องเรียกประชุมชี้แจงพี่เลี้ยงอีกครั้งเพื่อให้ช่วยสื่อสาร
รวมทั้งลดข้อกำหนดในการสมัครให้ง่ายที่สุด”
อ.เสาวรัตน์สรุปในตอนท้ายว่าประเด็นแห่งความสำเร็จในครั้งนี้น่าจะได้แก่
Finding the right facilitator (พี่เลี้ยง)
การมีส่วนร่วมของพี่เลี้ยงตั้งแต่ต้น
และการสื่อสารหลายทาง
ผศ. ดร.
อ.จำนงค์ นพรัตน์ ในฐานะ “คุณอำนวย”
เล่าให้ฟังถึงวิธีที่ทำให้เกิดบรรยากาศของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ว่า
ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง ที่สำคัญต้องให้เขารู้สึกเป็นกันเอง
ให้เขารู้สึกเด่น ให้ความสำคัญกับทุกคนบนเวทีที่ขึ้นมา
นอกจากนี้ก็เลียนแบบเกมส์โชว์ในโทรทัศน์ คือให้ทุกคนใน floor
มีส่วนร่วม นอกจากนี้ ต้องพยายามให้เขาคิดโครงการเอง
เป็นเจ้าของโครงการ จะทำให้เขาอยากทำ
และต้องไม่ให้ระยะเวลาโครงการยาวเกินไป
จุดหนึ่งที่ดีคือการรับประทานอาหารร่วมกันของบุคลากร
ทำให้เพิ่มความสัมพันธ์ในภาควิชา
เหมือนเรารับประทานอาหารกันในครอบครัว
คุณนุชจิเรศ
แซ่ตั้ง (ทีม OPD) เขาบอกว่าเป็นโครงการที่ดี
ทำให้รู้จักหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปฎิบัติงานเพราะตรงนี้เป็นจุดที่รับอุบัติเหตุฉุกเฉิน
เขาจะต้องส่งต่อให้ห้องปฎิบัติการ เขาต้องสัมผัสกับทั้งฝ่ายผู้ป่วย
หอผู้ป่วยและสัมผัสกับห้องปฎิบัติการ
การทำตรงนี้ก็จะทำให้มีการประสานงานเกิดขึ้นทำให้ง่ายต่อการประสานงาน
คุณจุฬาลักษณ์ (ทีม
Hemato) เขาบอกว่าเขาได้ความรู้มากขึ้น
ได้เรียบเรียงระบบความคิด ได้รู้ขั้นตอนการเขียนโครงการ
เพื่อใช้ในงานเขียนวิจัย ได้รู้จักคนในภาควิชามากขึ้น
เป็นการเชื่อมสัมพันธ์ภายในภาควิชา เพราะคนในห้อง lab
ก็มีชีวิตอยู่แต่ในห้อง lab
คุณวรากร (ทีม
Blood bank)
เขาก็บอกว่าเขาทำอยู่แล้วตอนแรกที่มาสมัครเขาคิดว่าภาคการบังคับ
เขาก็เลยสมัคร
แต่พอสมัครไปแล้วตอนที่เขาไปนำเสนอเขาก็คิดว่าสิ่งที่เขาคิดน่ะมีประโยชน์
แล้วยังมีประโยชน์กับห้อง lab อื่นด้วยเอาไอเดียของเขาไปใช้ได้ด้วย
คือเขาพัฒนาของเขาแต่ไม่เขาไม่ได้ให้วิทยาทานในงานแก่หน่วยงานอื่น
จัดการความรู้ สร้าง “ตัวช่วย” พัฒนางาน
ผลอย่างเป็นรูปธรรมที่เกิดขึ้นกับภาควิชาพยาธิวิทยา
คือแต่ละทีมนักพัฒนาต่างคิดหาวิธีเพื่อการพัฒนางานที่ดีกว่าและนำมาใช้และแลกเปลี่ยนกับทีมอื่น
ๆ เช่น ทีม"แล็บด่วน"(Hemato) หน่วยเคมีคลินิก
มีปัญหาเวลาส่งสิ่งตรวจจะต้องเขียนคำว่า “ด่วนมาก” ในใบ request
พร้อมกับติดสติ๊กเกอร์สีแดงและเขียนคำว่าด่วนติดขวดมาด้วย
ซึ่งบางครั้งหลงหูหลงตาไปบ้าง
ทีมพี่เลี้ยงจึงแนะนำและจัดหาตรายางมาให้ปั๊มลงไปเลย ด้วยเจตนาให้
รู้สึกว่า “ ด่วนหยิบก่อน ด่วนทำก่อน ด่วนออกผลก่อน”
เพราะการที่มีคำว่า ด่วนมาก สีแดง ปั๊มติดที่ใบ request
ช่วยกระตุ้นให้ผู้ปฏิบัติงานมีความรู้สึกว่าต้องเร่งมือในการทำการทดสอบรายนั้นๆก่อน
ซึ่งวิธีการนี้หน่วยงานอื่นก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้
ทีม Center
and OPD Lab ที่ทำการพัฒนางานเรื่อง
กล่องแยกสิ่งส่งตรวจจากแกนกระดาษทิชชู
ที่ใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการประยุกต์ โดยการคำนึงถึง
ประโยชน์ในการใช้งาน, ความคุ้มค่า, ความสะดวก
และความปลอดภัยในการรับ-ส่งตัวอย่างตรวจ
ซึ่งตอนนี้ได้นำไปทดลองใช้
และได้รับความร่วมมือจากทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รับส่งlab, เจ้าหน้าที่ห้อง lab, ward,OPD,
เจ้าหน้าที่เจาะเลือด
รวมทั้งญาติผู้ป่วยหรือตัวผู้ป่วยเองด้วยที่มาส่ง labเอง
วันนี้แม้โครงการยังไม่จบแต่ความสำเร็จเล็ก ๆ
ที่เกิดขึ้นมากมายในภาควิชาพยาธิวิทยานั้น
อาจกล่าวได้ว่าปัจจัยแห่งความสำเร็จนั้น มาจากการที่ผู้นำมีความเชื่อ
3 อย่าง คือ 1.
เชื่อว่าบุคลากรระดับปฎิบัติซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของหน่วยงานมีความสำคัญในความสำเร็จขององค์กรไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าระดับหัวหน้างาน
2. เชื่อว่าพวกเขามีศักยภาพ และ 3.
เชื่อว่าการออกแบบโครงการตามหลักการ KM
จะช่วยสร้างบรรยากาศในการดึงศักยภาพเหล่านั้นออกมา
ซึ่งเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ
ที่เกิดขึ้นทีมงานคุณลิขิตได้บันทึกและรวบรวมไว้เป็นคลังความรู้ของภาควิชา
จะเห็นว่าการจัดการความรู้ของภาควิชาพยาธิวิทยาเป็นการนำกระบวนการจัดการความรู้ไปใช้บูรณาการกับงานประจำ
นั่นคือ กระบวนการ CQI (contunuous quality improvement)
และทำทุกจุดย่อย ๆ เป็นเหมือนจิ๊กซอผลสำเร็จชิ้นเล็ก ๆ
ที่เมื่อนำมาประกอบกันก็จะเกิดเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และตอบสนองต่อเป้าหมายของภาควิชานั่นคือ
การนำห้องปฎิบัติการผ่านมาตรฐาน ISO 15189
และบุคลากรมีการพัฒนาทั้งงานทั้งคนในทุกระดับ
อีกทั้งความสำเร็จของภาควิชาก็ยังไปเติมเต็มในภาพใหญ่ของการจัดการความรู้คณะแพทยศาสตร์
ที่หากทุกหน่วยงานของคณะทำอย่างนี้ก็จะทำให้คณะแพทยศาสตร์เป็นองค์กรเรียนรู้ที่มีกงล้อความรู้หมุนอยู่ตลอดเวลา.
รศ.พญ.ปารมี ทองสุกใส
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
โทร. 074-451550 E-mail : [email protected]