เป้าหมายของการบริหารจัดการงานวิจัย คือ การสร้างจิตวิญญาณการเป็นนักวิจัย
กระบวนการพัฒนานักวิจัย คือ พูดให้ฟัง
ทำให้ดู วิเคราะห์ให้เป็น
จิตวิญญาณของนักวิจัยและทีมงาน
เป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดของการทำงานวิจัยให้มีคุณภาพและสำเร็จถ้านักวิจัยและทีมงานไม่มีจิตวิญญาณในการทำวิจัยแล้วจะมีปัญหาต่าง ๆ ตามมามากมาย
ส่วนหนึ่งจากหนังสือเรื่อง บทเรียนการบริหารจัดการงานวิจัย
ซึ่งเป็นโครงการวิจัยที่มีอาจารย์ นักวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏ ๒๕ แห่ง
จำนวน ๑๓๙ คน ทำวิจัยร่วมกับนักวิจัยชุมชนจำนวน ๒๘๑ คน จาก ๕๙ ชุมชน
ทีมที่ปรึกษาและผู้ทรงคุณวุฒิจากมหาวิทยาลัย และหน่วยงานอื่น
ทำงานเรียนรู้ร่วมกัน
จนได้เป็นองค์ความรู้ให้ผู้สนใจศึกษานำไปใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการงานวิจัย
หยิบยกมาเล่าสู่กันฟัง
ก็เห็นด้วยอย่างมากค่ะ ว่าถ้านักวิจัยทำงานอย่างไม่มีจิตวิญญาณในการทำวิจัยแล้วจะมีปัญหาต่าง ๆ ตามมามากมาย เห็นได้จากงานวิจัยมากมายที่ทำเสร็จไปแล้วแต่ไม่ได้มีการนำผลการวิจัยเหล่านั้นไปใช้เลย ที่เรียกกันภาษาชาวบ้านว่า "ทำวิจัยเสร็จแล้ววางไว้บนหิ้ง"
สิ่งที่อยากให้เป็น และอยากเห็นมากที่สุดในทุกวันนี้ คือ มีนักวิจัยที่ทำเพื่อประชาชนจริงๆ หรือมีการทำวิจัยกันจนเป็นเรื่องปกติธรรมดา
อย่ามองว่างานวิจัยเป็นเรื่องยาก ที่ทำกันเฉพาะนักวิชาการ ให้มองว่าทุกคนก็สามารถทำได้ มันไม่ยากเกินไปสำหรับความพยายามหรอกค่ะ
ลองดูสิ แล้วจะรู้ว่า คุณทำได้
จะบอกอะไรให้ว่างานวิจัย ชุด โครงการวิจัยและพัฒนาเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างการบริหารจัดการที่ดีของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง นับว่าประสบความสำเร็จเพราะสามารถสร้างนักวิจัยได้อย่างดีทีเดียว(เป็นคนหนึ่งในนั้นเหมือนกัน)
รูปปั้น ภาพวาด จะดีได้ขึ้นอยู่กับแบบที่นำมาขึ้นรูป หรือมือของผู้ที่รังสรรค์ชิ้นงาน คนที่เป็นนักวิจัยและมีจิตวิญญานการเป็นนักวิจัยได้แสดงว่าผู้ให้ความรู้ ให้คำสั่งสอนมาดี ขึ้นรูปมาดีจึงจะเป็นได้
ขอขอบคุณด้วยใจจริง สำหรับคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ของโครงการวิจัยและพัฒนาเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างการบริหารจัดการที่ดีของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพราะท่านทั้งหลายเสียสละ จริงจัง กับงานเหลือเกิน ทำให้นักวิจัยเด็กน้อยคนหนึ่งเห็นว่า งานหนักไม่เคยทำให้ใครตาย แต่จะทำให้คนทำงานแข็งแกร่งมากขึ้นต่างหาก