การเคลื่อนไหวของเด็กปฐมวัย : กระตุ้นการพัฒนาสมอง
ความรู้ที่ว่าการให้เด็กในช่วง 3-6 ปี เคลื่อนไหวโดยการวิ่ง กระโดด ปีน หมุนตัว เดิน เป็นสิ่งที่เด็กมีความพอใจ ยิ่งถ้าพวกเขาทำได้ย่อมส่งผลให้เกิดความภาคภูมิใจในตนเองเป็นอย่างมาก เด็กวัยนี้สมองส่วนที่ได้รับการพัฒนามากที่สุดคือ บริเวณสมองที่รับรู้สัมผัสและการเคลื่อนไหว (sensorimotor) ผู้ใหญ่จำเป็นต้องปล่อยให้เด็กเล่นเกมทั้งในร่มและกลางแจ้งให้พอเพียง เปิดโอกาสให้เด็กสำรวจสภาพแวดล้อมต่าง ๆ อย่างเต็มที่ แนะนำให้เด็กเล่นโดยมีอุปกรณ์การเล่นมากขึ้น ส่งเสริมให้เด็กเล่นเกมที่ใช้สมาธิมากขึ้น และให้รู้จักการมองอย่างจดจ่อ สิ่งที่กล่าวนี้เป็นความรู้ที่ ผู้เลี้ยงดูเด็กปฐมวัย จำเป็นต้องนำไปสู่การปฏิบัติให้ได้ สำหรับครูปฐมวัยที่ออกแบบกิจกรรม โดยให้เด็กนั่งทำงานเป็นเวลานาน ๆ ในแต่ละวันไม่ทำให้เด็กปฐมวัยเกิดการเรียนรู้ได้เลยหรือถ้าเกิดก็น้อยมาก
กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะสำหรับเด็กปฐมวัย
ครูปฐมวัยควรมีความรู้เรื่องกิจกรรมดังกล่าว เพื่อให้เด็กได้เคลื่อนไหวที่เป็นการกระตุ้นการพัฒนาสมอง ประเภทของการเคลื่อนไหว ได้แก่
1. การเคลื่อนไหวแบบไม่เคลื่อนที่เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายที่ไม่ต้องเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยให้ร่างกายทุกส่วนตอบสนองต่อการเคลื่อนไหว ได้แก่ การดึง การหมุน การโยกตัว การแกว่งหรือหมุน การลื่น การโอนเอน
2. การเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนที่ เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายที่ต้องเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ได้แก่ การเดิน การวิ่ง กระโดด การควบเท้า สไลด์
3. การเคลื่อนไหวประกอบอุปกรณ์ เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายที่ใช้วัสดุสิ่งของประกอบการเคลื่อนไหว ซึ่งจะทำให้เด็กได้รับการพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ จินตนาการ มีความสนุกสนาน วัสดุที่ใช้สามารถหาได้ง่าย ๆ เช่น เชือก ลูกบอล ริบบิ้น เศษผ้า ฯลฯ
การเคลื่อนไหวกระตุ้นการพัฒนาสมอง
การที่ครูได้ออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนให้เด็กได้เคลื่อนไหวดังกล่าวข้างต้น ส่งผลต่อพัฒนาการของสมอง เพราะช่วงปฐมวัยเป็นระยะที่สมองบริเวณที่ควบคุมการเคลื่อนไหวอยู่ระหว่างการพัฒนา การเคลื่อนไหวและความต้องการเคลื่อนไหว เป็นกลไกสำคัญที่จะให้สมองได้ใช้ประโยชน์จากเซลล์สมองและซีนแนปส์ ยิ่งเซลล์และจุดซีนแนปส์นั้นทำงาน เซลล์และซีนแนปส์นั้นก็จะประสานกระชับมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าการเคลื่อนไหว (movement) เป็นทั้งผลลัพท์ของสมองที่ได้รับการพัฒนาและเป็นตัวกระตุ้นให้สมองเกิดการพัฒนาด้วยเช่นเดียวกัน เด็กที่ครอบครัวเลี้ยงดูแบบไม่ได้ให้เคลื่อนไหวหรือครูปฐมวัยที่ไม่ค่อยได้จัดกิจกรรมกลางแจ้ง/กิจกรรมเคลื่อนไหว หรือ จัดกิจกรรมไม่เพียงพอ ร่างกายจะไม่แข็งแรง อ่อนแอ ไม่ทนทาน การควบคุม อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ไม่ดี แปลว่าสมองมีการพัฒนาน้อยในบางระบบ
ดังนั้นครูปฐมวัยจำเป็นต้องจัดกระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญคือ ต้องออกแบบเกม กีฬาให้มีความหลากหลายพอเพียงเพื่อพัฒนาร่างกายและสมองให้ครบทุกด้าน กิจกรรมที่ครบครันจะช่วยพัฒนาส่วนเชื่อมต่อกับประสาทต่าง ๆ ของการรับความรู้สึกโดยเฉพาะพัฒนาเซรีเบลลัม และสมองทั้งสองซีก การกลิ้งตัว หมุนและหกคะเมนตีลังกา เป็นกิจกรรมที่เหมาะสมสำหรับเด็กปฐมวัย ครูต้องเข้าใจว่าการเล่นของเด็กคือการพัฒนาทักษะที่ก่อรูปขึ้นมาแล้วในวงจรการเรียนรู้ของสมอง สิ่งที่เด็กพยายามเล่นในวันนี้ เช่น การควบคุมท่าทางการเดิน การวิ่งแข่ง การเล่นกระบะทราย การเดินบนไม้แผ่นเดียว การตัดกระดาษเป็นรูปต่าง ๆ เป็นการทำซ้ำ ๆ เพื่อสร้างสมองทุกส่วนให้พร้อมสำหรับการ “ใช้งาน” เพื่อการเรียนรู้ในวัยต่อไป เพราะกระบวนการเรียนรู้ในความเคลื่อนไหวจะช่วยพัฒนาการาเรียนรู้เกี่ยวกับมิติ ระยะ ทิศทาง เวลา ความเร็ว แรง ฯลฯ การเรียนรู้ดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้อยู่ที่เด็กต้องปฏิบัติจริงไม่ใช่เกิดจากการบอกเล่าและจำ การให้เวลาสำหรับการสำรวจและการฝึกฝน เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาร่างกายของเด็กสู่การกระตุ้นพัฒนาสมอง
การเคลื่อนไหวในเด็กปฐมวัย เป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ครูปฐมวัยต้องคอยวางแผนและออกแบบให้เหมาะสม ไม่ใช่ปล่อยให้เด็กเคลื่อนไหวตามยถากรรม ต้องคอยดูแลเอาใจใส่ให้เวลาเด็กทำกิจกรรมการเคลื่อนไหว คอยให้กำลังใจ สนับสนุนและส่งเสริมให้เด็กได้มีกิจกรรมอย่างเหมาะสมและเพียงพอที่จะได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ เพื่อให้เด็กทุก ๆ คนที่รับผิดชอบ ได้รับโอกาสในการพัฒนาด้านร่างกายและส่งผลต่อการพัฒนาด้านอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพต่อไป
---------------------
ขอบคุณมากที่แวะมาเยี่ยมเยียนค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์ดร.ดารารัตน์ อุทัยพยัคฆ์
ดิฉันนางสาวกิ่งกาญจน์ พันมะวงค์ เลขที่ 8 หมู่ที่1 นักศึกษาป.บัณฑิต รุ่นที่ 13 ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
ดิฉันชอบบทความนี้ตรงที่ว่าการเคลื่อนไหวสามารถกระตุ้นพัฒนาสมองของเด็กปฐมวัยในช่วงอายุ 3 - 6 ปีได้
ซึ่งดิฉันจะนำข้อมูลที่ได้้นี้ไปปรับใช้กับหลานของดิฉันซึ่งมี อายุ 4 ขวบ และถ้าดิฉันได้ไปสอนเด็กปฐมวัย
ดิฉันจะนำข้อมูลที่ได้จากข้อมูลนี้ไปปรับใช้กับเด็กปฐมวัยค่ะ
ปีใหม่นี้ขอให้อาจารย์มีสุขภาพแข็งแรงนะค่ะและก็ขอให้อาจารย์มีความสุขมากๆตลอดปีกระต่ายเลยนะค่ะ
จากลูกศิษย์อาจารย์ค่ะ
เป็นบทความที่ ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนค่ะ สำหรับการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย สรุปสั้นๆ ว่า การเรียน ของเด็กปฐมวัยนั้นต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ และการปฎิบัติไปด้วย เพื่อพัฒนาให้ ครบทุกด้าน คะ