เรื่องที่ (๓๔) ข้อความในตู้จดหมาย


รางวัลที่ยิ่งใหญ่

เรื่องที่ (๓๔) ข้อความในตู้จดหมาย

            ผมได้รับข้อความในตู้จดหมายที่โรงเรียนว่า “โทรหามาร์กาเร็ต เบอร์ ๕๕๕๖๑๖๗” ผมไม่รู้จักทั้งชื่อและหมายเลข  แต่เนื่องจากผมเป็นครูสอนวิชาซ่อมรถยนต์ในโรงเรียนมัธยม  ผมจึงมักได้รับโทรศัพท์อยู่เสมอจากผู้ที่ต้องการหาคนซ่อมรถ  ผมจึงโทรไปที่หมายเลขดังกล่าว

            “ขอพูดกับคุณมาร์กาเร็ต ครับ” ผมว่า

            “มาร์กาเร็ต พูดค่ะ” มีเสียงตอบรับมาตามสาย

            “ผมชื่อรอน  เวนน์ มีคนฝากข้อความไว้ว่าให้ผมโทรศัพท์มาหาคุณ”  ผมกล่าวต่อ ในใจก็นึกสงสัยว่าหญิงคนนี้มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับรถยนต์

            “แหม ดีใจจริงที่คุณโทรมาค่ะ  ขอเวลาสักสองสามนาทีนะคะ ดิฉันมีเรื่องอยากจะเล่าให้ฟัง คิดว่าคุณคงสนใจค่ะ”

            “ครับ” ผมตอบพลางดูนาฬิกา  ผมมีเวลาไม่กี่นาทีก่อนเข้าสอน

            “ดิฉันเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลเซนต์ลุกส์เพรสไบทีเรียน  เมื่อวานนี้ตอนดิฉันกำลังเดินทางกลับบ้านจากที่ทำงาน ขับรถมาตามทางสาย ๒๙๐ รถก็เกิดมีปัญหาขึ้นมา”

            “อ้อ ครับ” ผมพูดพลางดูนาฬิกาอีกครั้ง

            “ตอนนั้นดึกแล้ว  ดิฉันอยู่คนเดียว เลยไม่กล้าจอดรถข้างทาง แต่ในที่สุดเครื่องยนต์ก็ดับเลยต้องค่อย ๆ ประคองรถเข้าข้างทาง  ดิฉันนั่งคิดอยู่พักหนึ่งว่าจะเอาอย่างไรดี”

            ผมไม่อยากแสดงว่ารอฟังจนจบเรื่องไม่ไหว แต่ผมก็ต้องรีบไปสอนแล้ว “คุณจะให้ผมไปดูรถให้ไหมครับ” ผมถาม

            “เดี๋ยว  ขอเล่าให้จบก่อนค่ะ” หญิงคนนั้นตอบ

            ผมเคาะดินสอกับปึกกระดาษตรงหน้าขณะที่มาร์กาเร็ตเล่าเรื่องต่อ “อยู่ ๆ ก็มีเด็กหนุ่มสองคน  อายุประมายี่สิบปี  มาจอดรถจ่อท้ายรถดิฉันแล้วลงมาจากรถ  ดิฉันไม่รู้ว่าเขาจะมาทำอะไร  จึงกลัวมาก”

            “เขามาถามดิฉันว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วบอกว่าฟังดูแล้วน่าจะช่วยแก้ไขให้รถวิ่งต่อไปได้  ดิฉันเลยเปิดฝากระโปรงรถให้    ดิฉันนั่งภาวนาอยู่ในรถว่าหนุ่มทั้งสองคนนี้คงจะไม่เหลวไหล  สองสามนาทีต่อมาเขาก็ตะโกนบอกให้ดิฉันลองติดเครื่อง  ไม่อยากเชื่อเลยค่ะ  เครื่องติดทันทีเลย  พ่อหนุ่มสองคนนี้ปิดฝากระโปรงรถแล้วบอกว่ารถคงไม่เป็นอะไร  แต่ควรรีบเอาไปตรวจเช็ค”

            “คุณอยากให้ผมตรวจดูว่าทุกอย่างเรียบร้อยใช่ไหมครับ” ผมถาม

            “ไม่ค่ะ  ไม่ใช่ ฟังดิฉันก่อน” หญิงคนนั้นเล่าต่อ “ดิฉันรู้สึกเป็นหนี้น้ำใจเด็กทั้งสองนี้มาก ขอบคุณแล้วขอบคุณอีกและจะให้ค่าป่วยการ แต่แกก็ไม่ยอมรับ  ตอนนี้แหละค่ะที่แกบอกว่าเป็นศิษย์เก่าของคุณ”

            “อะไรนะครับ” ผมถามด้วยความประหลาดใจ “ลูกศิษย์ของผมหรือครับ  ชื่ออะไรครับ”

            “พวกแกไม่ยอมบอกชื่อค่ะ  ให้แต่ชื่อคุณและหมายเลขโทรศัพท์ของโรงเรียนมา และให้ดิฉันสัญญาว่าจะโทรมาขอบคุณคุณ”

            ผมไม่อยากเชื่อเลย  ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร นอกจากสอนเด็กให้ซ่อมเครื่องยนต์แล้ว  ผมยังมักจะสอนเรื่องเกี่ยวกับชีวิตไปด้วย ให้มีน้ำใจ ให้ซื่อสัตย์และใช้สิ่งที่เรารู้เพื่อช่วยคนอื่น  แต่ผมไม่เคยรู้ว่านักเรียนได้เรียนรู้เรื่องเหล่านี้ที่ผมสอนหรือไม่

            “คุณเวนน์ค่ะ ยังฟังอยู่หรือเปล่าค่ะ” คุณมาร์กาเร็ตถาม

            “กำลังฟังอยู่ครับ” ผมตอบ

            “ดิฉันหวังว่า คุณคงทราบนะคะว่าดิฉันรู้สึกขอบคุณจริง ๆ” มาร์กาเร็ตพูด

            “ผมก็หวังว่าคุณคงทราบว่าผมรู้สึกขอบคุณคุณแค่ไหน  ขอบคุณครับที่อุตสาห์โทรมาบอก” ผมตอบและวางหู

            ผมเดินกลับไปที่ห้องเรียน  รู้สึกเกิดกำลังใจขึ้นมา ที่ได้รู้ว่า ลูกศิษย์ของผมช่วยเหลือผู้อื่นตามที่ผมสอนเอาไว้ในห้องเรียน  ผมเพิ่งได้รับรางวัลยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ครูจะพึงได้รับ

                        รอน   เวนน์

หมายเลขบันทึก: 223192เขียนเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2008 20:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท