1. ชื่อโครงการ
(ภาษาไทย) การพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้การจัดการความรู้ “กรณีศึกษาการบริหารงานวิชาการโรงเรียนชุมชนบ้านพุดหง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3”
(ภาษาอังกฤษ) The Development for the Management Quality by the Knowledge Management : The Case Study for Academic Administration in Chumchonbanputhong School
2. ประเภทของงานวิจัย
วิจัยและพัฒนา (Research and Development) และการวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Particicatory Action Research)
3. คำสำคัญ
องค์กรแห่งการเรียนรู้ หมายถึง องค์กรที่ต้องรับรู้และเรียนรู้ทั้งจากสภาพภายนอกและภายใน เพื่อนำมาปรับตัวและทำในสิ่งที่องค์กรต้องทำและเป็นองค์กรเรียนรู้ตลอดเวลา
การจัดการความรู้ หมายถึง การจัดการเพื่อเอื้อให้เกิดความรู้ใหม่ โดยใช้ความรู้ที่มีอยู่และประสบการณ์ของคนในองค์กรอย่างเป็นระบบ เพื่อพัฒนานวัฒกรรมที่จะทำให้ความได้เปรียบเหนือคู่แข่งทางธุรกิจ
สถานศึกษา หมายถึง สถานศึกษาที่ได้รับรางวัลพระราชทาน ปี 2547 คือ โรงเรียนชุมชนบ้านพุดหง
4. คณะทำงานหรือทีมวิจัย
หัวหน้าชุดโครงการ
ชื่อ – สกุล นายวิโรจน์ ฤกษ์ศิริ
ตำแหน่งทางวิชาการ รองผู้อำนวยการโรงเรียน/ชำนาญการพิเศษ
หน่วยงาน โรงเรียนชุมชนบ้านพุดหง
การติดต่อ โรงเรียนชุมชนบ้านพุดหง ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช
โทรศัพท์ 075 – 497028 มือถือ 081 – 7882849,084 – 0549455
E – mail : [email protected],[email protected]
ทีมวิจัย
ชื่อ – สกุล นางทิวาพร กาญจนะ
ตำแหน่งทางวิชาการ ครู
หน่วยงาน โรงเรียนชุมชนบ้านพุดหง
การติดต่อ โทรศัพท์ 075-497028 มือถือ 081-2772255,0819681132
5. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
ในปัจจุบันนี้ ทกประเทศต่างให้ความสำคัญกับการศึกบามาก เคยมีฐานความคิดเดียวกันที่ว่า “กำลังคน คือ ทรัพย์สมบัติที่ล้ำค่าที่สุดและการศึกษา คือ กุญแจแห่งการดำรงชีวิตและความสำเร็จของคนในชาติ” (Education and Manpower Burear ,2543 อ้างถึงใน มีชัย เอี่ยมจินดา 2543:28) คงที่ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ได้ระบุไว้ ในมาตรา 49 ว่า “บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาไม่น้อยกว่าสิบสองปีที่รัฐต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ...” มาตรา 80 (3) “พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการจัดการศึกษาในทุกระดับและทุกรูปแบบให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม จัดให้มีแผนการศึกษาแหงชาติกฎหมายเพื่อพัฒนาการศึกษาของชาติ จัดให้มีการพัฒนาคุณภาพครูเละบุคลากรทางการศึกษาให้ก้าวหน้าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก...” ดังนั้น การคำเนินการพัฒนาการศึกษาในความ
รับผิดชอบของสถานศึกษาสู่การเป็นสังคมฐานความรู้ ( Knowledge - Based Society ) และการจัดให้มีกระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคม ด้วยการถ่ายทอดความรู้ การอบรมบ่มนิสัย ภาย ใต้ภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของยุคโลกาภิวัฒน์ จะต้องอาศัยวิสัยทัศน์ในการพัฒนาวางตนอย่างสอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา(นคร ตังกะพิภพ. 2550 : 1 ) โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญาความรู้และคุณธรรมมีจริยธรรมเเละวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่รวมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ตามจุดมุ่งหมายของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2545 ซึ่งสอดคล้องกับเเนวคิดพื้นฐานของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ.2510-2554) ยึด “คนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา” โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
โรงเรียนชุมชนบ้านพุดหง เป็นโรงเรียนขนาดกลางที่จัดการศึกษาตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยมีสภาพของโรงเรียนเป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพมาตรฐาน และความเชื่อถือศรัทธาสูงในท้องถิ่น ตำบลหินตก อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ปัจจุบันมีนักเรียน 195 คน มีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 10 คน ซึ่งข้าราชการครูส่วนใหญ่อยู่โรงเรียนนี้ไม่น้อยกว่า 10 ปีขึ้นไป และมีความตั้งใจว่าจะเกษียณอายุที่โรงเรียนแห่งนี้ จึงมีความรักและผูกพันกับสถาบันสูง คิดเสมอว่า โรงเรียนอยู่ในสภาพดีอยู่แล้ว มีความทันสมัย มีความพร้อม ในการจัดการเรียนการสอน จนได้รับรางวัลพระราชทาน เมื่อปี 2547
อย่างไรก็ดี การเป็นโรงเรียนรางวัลพระราชทานดูเหมือนเป็นจุดเด่นที่สำคัญแต่โรงเรียนก็ยังมีจุดบกพร่อง ได้แก่ ความรู้สึกว่าโรงเรียนอยู่ในสภาพดีอยู่แล้ว จนอาจทำให้ไม่สนใจการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดการเรียนการสอน การนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการจัดการความรู้ให้กับนักเรียน ชุมชน และสังคมโดยรอบ การประยุกต์ให้ความรู้ในกิจการงานของตนการนำประสบการณ์จากการทำงานและการประยุกต์ใช้ความรู้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสกัดขุมความรู้ออกมาใช้แทนที่จะเริ่มที่งานหรือเป้าหมายของงานคือการบรรลุผลสัมฤทธิ์ในการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดงานตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ (operation Effectiveness)
คุณภาพการศึกษาของโรงเรียนชุมชนบ้านพุดหง ย่อมเกิดขึ้นจากระบบการบริหารจัดการที่ดีอย่างรู้และเข้าใจเป้าหมายชัดเจน เพี่อปฏิบัติภารกิจให้ได้ตามความคาดหวังนั้น ดังนั้นการยึดติดอยู่กับรูปแบบการบริหารจัดการความรู้แบบเก่าๆ ไม่กล้าเผชิญความเปลี่ยนแปลง คอยแต่รับคำสั่งมอบหมายงานจากหน่วยเหนือเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงเป้าหมายหรือจุดมุ่งหมายของการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาชาติ พ.ศ. 2542 การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยcละพัฒนาที่ผู้วิจัยต้องการศึกษาว่า การนำรูปแบบการจัดการความรู้ (knowledge Management) มาใช้กับงานวิชาการโรงเรียนชุมชนบ้านพุดหงจะมีผลต่อการพัฒนางานวิชาการของโรงเรียนอย่างไร
6. วัตถุประสงค์โครงการ
6.1 เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการความรู้งานวิชาการของโรงเรียนชุมชนบ้านพุดหง
6.2 เพื่อประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการความรู้งานวิชาการของโรงเรียนชุมชนบ้านพุดหง
7. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ / เป้าหมายเมื่อจบโครงการ
7.1 ผู้เรียนได้รับความรู้ในคุณภาพและมาตรฐานที่สูงขึ้น
7.2 ผู้เรียนมีความรู้ในสิ่งที่ตนเองมีความต้องการและสนใจ
7.3 ผู้เรียนมีความกระตือรือร้น สนุกสนานไปกับกิจกรรมที่ครูจัดให้
7.4 ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยของ สพท.นศ.3
7.5 ครูผู้สอนมีความชำนาญในการสอนในวิชาที่ตนเองสอนมากขึ้น
7.6 ครูผู้สอนประหยัดเวลา งบประมาณ ในการจัดทำสื่อ/อุปกรณ์ ที่มีราคาแพงในการจัดการเรียนการสอน
7.7 ครูผู้สอนมีความกระตือรือร้นในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนมากขึ้น และเสริมสร้างทักษะการสอนให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
7.8 ประชาชนในตำบลหินตก อำเภอร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช มีความรู้ในเรื่องต่างๆอย่างกว้างขวาง และทันต่อเหตุการณ์
7.9 มีศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชน หน่วยงานต่างๆ
เข้ามาอ่านแล้วครับอาจารย์
เจอกันจนได้ ยังคงเป็นคนใฝ่รู้ตลอดเลยน่ะครับชื่นชมๆๆๆๆ
ผมดีใจมากที่มีดาวเทียมครับ