นิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ (๒๕ – ๓๑ มีค. ๔๙ หน้า ๘๓ – ๘๔) กล่าวว่าวิทยาศาสตร์กำลังเข้าสู่ยุคใหม่เนื่องจากความก้าวหน้าของคอมพิวเตอร์
การก้าวกระโดดของวิทยาศาสตร์ในลักษณะ “เปลี่ยนกระบวนทัศน์” อาจเกิดจาก
การก้าวกระโดดของ
1. เครื่องมือ เช่นการประดิษฐ์กล้องโทรทัศน์
ทำให้เกิดการเปลี่ยนโลกทัศน์ด้านดาราศาสตร์ไปโดยสิ้นเชิง
มนุษย์เปลี่ยนความเชื่อจากโลกเป็นศูนย์กลางจักรวาล เป็น
โลกเป็นเพียงส่วนหนึ่งของจักรวาล
2. แนวคิด (concept) เช่น การประดิษฐ์แคลคูลัส
ทำให้สามารถคิดกฎของการเคลื่อนไหว (Law of Motion) ได้
รายงานเรื่อง “Towards 2020 Science” (download ได้ที่นี่
http://research.microsoft.com/towards2020science/downloads/T2020S_Report.pdf ) กล่าวว่า ศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์ได้ทำหน้าที่เป็นทั้ง ฐานคิด (framework) และ เครื่องมือค้นคว้า (exploratory apparatus) ให้แก่ศาสตร์อื่นๆ ในอนาคตอันใกล้ คอมพิวเตอร์จะช่วยสมองคน ในการตั้งสมมติฐาน และในการทดสอบสมมติฐานนั้น โดยการวิเคราะห์ข้อมูล และตีความเพื่อการทดสอบสมมติฐาน ในการวิจัยเดิม ส่วนของการตีความหรือแปลผล ต้องใช้สมองมนุษย์ แต่นอนาคตอันใกล้ คอมพิวเตอร์จะเข้ามาช่วยเสริม ทำให้การค้นคว้าวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ทรงพลังขึ้นอีกอย่างไม่คาดคิด
สมองคนมีความสามารถจำกัดในการประมวลข้อมูลจำนวนมากอย่างไม่หลงลืม
และไม่ลำเอียง
แต่คอมพิวเตอร์ในอนาคตจะมีพลังด้านนี้อย่างสูงยิ่ง
การวิจัยด้านวิทยาศาสตร์แห่งอนาคตจะมีลักษณะ
มีการผลิตข้อมูลปริมาณมหึมา ส่งเข้าไปประมวลโดยคอมพิวเตอร์
ให้เป็นข้อมูลทุติยภูมิ ตติยภูมิ หรือชั้นที่ ๔, ๕, - -
ที่สมองมนุษย์สามารถตีความได้
งานวิจัยทำนองนี้ในปัจจุบัน
ที่พอเป็นตัวอย่างขนาดย่อมเยาว์ลงมาเป็นล้านเท่า ได้แก่
• การวิจัยเชิงระบาดวิทยา
• การวิจัยเชิงอุตุนิยมวิทยา ได้แก่
พยากรณ์อากาศ คลื่น เป็นต้น
• การวิจัย bioinformatics
วิจารณ์ พานิช
๒๗ มีค. ๔๙
ไม่มีความเห็น