วันรับ-ส่ง ตายาย วันแห่งการระลึกถึงบุญคุณ การแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที ต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว วันรับตายายตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือนสิบ ส่วนวันส่งตายาย ตรงกับวันแรม ๑๔ ค่ำ หรือแรม ๑๕ ค่ำ เดือนสิบ ลูกหลานจะนำอาหารคาวหวาน เครื่องใช้ในครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็น ข้าวสาร อาหารแห้ง หอม กระเทียม พริก เกลือ กะปิ น้ำปลา น้ำตาล ปลาเค็ม กล้วย อ้อย มะพร้าว ไต้ ด้าย เข็มเย็บผ้า ธูปเทียน ผัก ผลไม้ นำลงจัดในหมรบ ส่วนที่ขาดไม่ได้คือขนมเดือนสิบ อันประกอบด้วย พอง ลา ขนมบ้า ขนมดีซำ ขมไข่ปลา ขนมฉาวหาย นำมาจัดหมรบยกไปวัดกัน นำไปวางรวมกันที่ “หลาเปรต” นอกจากนั้นลูก หลาน ก็จะนำกระดูก กระดาษเขียนชื่อผู้คนที่ตายแล้ว เพื่อสวดบังสุกุล โดยมีสายสิญจน์ล้อมไว้รอบและต่อยาวไปจนถึงพระสงฆ์ที่ทำพิธีกรรม
เมื่อเสร็จพิธีกรรมทางศาสนา ลูกหลาน ก็จะไปตั้งเปรตโดยจะนำอาหารอีกส่วนหนึ่งไปตั้งเปรตเพื่ออุทิศส่วนกุศลไป ให้ ปู่ ย่า ตา ยาย และบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว รวมถึงผู้ตายที่ไม่มีญาติด้วย
นอกเหนือจากการได้ทำบุญ อิ่มเอมไปด้วยบุญกุศลแล้ว ยังถือเป็นวันที่สานสายสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในครอบครัว ไม่ว่าจะอยู่ไกล หรือใกล้ๆ ก็จะกลับมาเยี่ยมเยือนบ้าน ลูก ๆ หลาน ๆ กลับมาหา ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ ให้ได้ชื่นใจ ถือเป็นวันที่เปี่ยมสุขของครอบครัวอีกวันหนึ่ง
ดอกไม้ ธูปเทียน
สีทองเขาเรียกขนมลา ขนมที่มีฟองเรียกว่าไข่ปลา สีขาวและชมพูเรียกขนมฉาวหาย
ขนมบ้า..โรยงาขาว ขนมดีซำ
ผลไม้ ...ขนมหวานที่มีชื่อเป็นมงคล
อาหารสำหรับการตั้งเปรต
เป็นประเพณีที่ในชีวิตไม่เคยเห็นเลย ยิ่งใหญ่จริงเลยจ้า
ไม่ได้ไปทำบุญแต่พรุ่งนี้เช้าต้องตักบาตรสักหน่อยขอบคุณนะครับที่นำ ประเพณีดีๆมา นำเสนอ
อิ่มเอม...มานครซิจะพาทำบุญและเที่ยวเมืองนคร มีเทศกาลสารทเดือนสิบ สิบวันสิบคืนเชียวน่ะ สนุกแน่นอน
กวิน คุณย่าขออนุโมทนาบุญด้วยน่ะจ๊ะ