(ร่าง) นโยบายว่าด้วยการรับนักเรียนเข้าเรียนชั้น ป.1
ความหวังอันสูงสุดของพ่อแม่คือ ให้ลูกเป็นคนมีการศึกษาที่ดี คำว่า "ลูกมีการศึกษาที่ดี" ของพ่อแม่ มักจะหมายถึงสอบได้คะแนนดี และได้เรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ส่วนหนึ่งจึงตั้งหน้าตั้งตา เร่งให้ลูกเรียน เริ่มตั้งแต่อนุบาล เพื่อจะให้อ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็นให้เร็วที่สุด เพื่อให้ได้เข้าโรงเรียนดังกล่าวได้
เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกมานานแล้วว่า การเรียนการสอนในโรงเรียนอนุบาลนั้น จะต้องเป็นการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ก่อนเข้าสู่การศึกษาระดับประถมศึกษา เด็กอนุบาลควรได้รับการเตรียมความพร้อม ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ การอยู่ร่วมในสังคม และการเตรียมความพร้อม เพื่อการพัฒนาสติปัญญา ธรรมชาติของเด็กวัย 3-5 ปี เป็นวัยที่การควบคุมด้านร่างกายยังไม่คล่องแคล่ว ประสาทสัมผัสต่างๆ หู ตา มือ ฯลฯ ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา การทำงานยังไม่แม่นยำ และไม่เต็มที่ เด็กวัยนี้เพิ่งจะเริ่มออกจากอ้อมอกพ่อแม่ ออกจากบ้านเพื่อมาสู่โลกใหม่ คือโรงเรียน เด็กต้องเรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่น และการพึ่งพาตนเองได้ตามสมควร
แนวทางการจัดการเรียนการสอนในระดับชั้นอนุบาลที่ถูกต้อง จึงควรเปิดโอกาสให้เด็กได้พัฒนาทุกด้าน ไม่ใช่การบังคับให้เด็กนั่งเรียนกันอยู่แต่ในห้องเรียน และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเร่งรัดให้อ่านเขียน ท่องจำ คำนวณเลขคณิตเท่านั้น แต่จะต้องให้เด็กได้เรียนอย่างสนุก มีการเล่นต่างๆ เพื่อช่วยการพัฒนา และการเรียนรู้ด้านการคิดและอื่นๆ ให้เป็นไปตามวัย และคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
การที่โรงเรียนประถมศึกษาจำนวนหนึ่ง มีผู้นำเด็กมาสมัครเป็นจำนวนมาก ไม่สามารถรับเด็กทั้งหมดได้ จึงได้ดำเนินการคัดเลือกเด็กที่จะเข้าเรียนในระดับชั้น ป.1 ด้วยวิธีการสอบข้อเขียนที่เน้นเนื้อหาวิชาการเป็นหลัก ส่งผลกระทบให้การจัดการเรียนการสอนในระดับอนุบาล ไม่สามารถอำเนินการได้อย่างถูกต้อง ตามหลักการพัฒนาเด็กปฐมวัย กล่าวคือ มีการเร่งเรียนการอ่านออก เขียนได้ คิดเลขคณิตยากๆ เน้นการท่องจำ ไม่สนใจ หรือสนใจน้อยกับการพัฒนาด้านอื่นๆ ที่สำคัญคือ สำหรับเด็กวัยนี้ วิธีการดังกล่าวบั่นทอนพัฒนาการของเด็ก ซึ่งเป็นช่วงอายุที่มีอัตราของการพัฒนาการสูงในทุกด้าน
สถานการณ์การสอบเข้า ป.1 ของเด็กอนุบาลในปัจจุบันอยู่ในภาวะวิกฤต จึงจำเป็นจะต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ และให้มีการดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ไม่มีความเห็น