๒-๓ วันก่อน พระเถระผู้คุ้นเคยแวะมาเยี่ยม เรื่องหนึ่งที่คุยกันก็คือการเขียนหรือพิมพ์ชื่อพระครูสัญญาบัตรและพระราชาคณะไม่ถูกต้อง ผู้เขียนคิดว่าเรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญ จึงนำมาเล่าไว้ที่นี้... อันที่จริง เรื่องนี้เขียนครั้งหนึ่งแล้ว แต่มีประเด็นปลีกย่อยเรื่องสมณศักดิ์เกินไป ดังนั้น สำหรับผู้สนใจเพิ่มเติมเรื่องสมณศักดิ์ก็ คลิกอ่านที่นี้ . . . ในบันทึกนี้จะเล่าเฉพาะประเด็นการเขียนชื่อเท่านั้น
พระครู นั้นมีหลายระดับ เฉพาะพระครูสัญญาบัตรเท่านั้นจึงจะเป็นชื่อพระราชทาน ส่วนพระราชาคณะ (หรือที่เรียกกันว่า ท่านเจ้าคุณ) ทุกระดับชั้นจะเป็นชื่อพระราชทาน ดังนั้น การเขียนชื่อจะต้องเขียนติดกัน ห้ามเว้นวรรค เพราะเจอเสมอที่มักจะเขียนเว้นวรรค (เฉพาะอย่างยิ่งในใบฏีกากรรมการผ้าป่า) โดยสำคัญผิดว่า ข้างหน้านั้นเป็นชื่อ ข้างหลังเป็นนามสกุลเหมือนชาวบ้านทั่วไป...
ในกรณีที่เป็นพระครูสัญญาบัตร เช่น...
เพราะถ้าเขียนเว้นวรรคก็อาจทำให้สำคัญผิดว่าเป็น พระครูชั้นประทวน ไปได้ กล่าวคือ พระครูชั้นประทวนนี้ จะมีเพียงคำว่า พระครู นำหน้าชื่อเดิม ดังเช่นก่อนบวชชื่อ สมชาย ซึ่งเรียกกันว่า นายสมชาย และพอมาบวชก็จะเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเป็น พระสมชาย .... ต่อมาถ้าพระสมชายได้รับการยกเป็นพระครูชั้นประทวนก็จะเขียนว่า พระครูสมชาย ...
ส่วนนามสกุลนั้น โดยทั่วไปตามธรรมเนียมในวัดจะใช้ฉายามากกว่านามสกุล ดังเช่นพระสมชาย มีฉายาว่า อนุตฺตโร ก็จะเขียนว่า พระสมชาย อนุตฺตโร ....
แต่ระเบียบนอกวัด บางครั้งยังต้องใช้นามสกุล ดังเช่นพระสมชาย มีนามสกุลว่า ประทีปธรรม ก็จะเขียนได้ว่า พระสมชาย ประทีปธรรม นั่นคือ
ต่อมาถ้าพระสมชายได้รับการยกเป็นพระครูชั้นประทวน ก็อาจเขียนใหม่ได้ว่า
และต่อมา ถ้าพระครูสมชายได้รับการยกเป็นพระครูสัญญาบัตร ก็จะมีชื่อพระราชทานใหม่มา สมมุติว่าชื่อว่า พระครูสุวิมลธรรมคุณ ก็ให้เขียนติดกัน... ห้าม เขียนเว้นวรรคว่า พระครูสุวิมล ธรรมคุณ เพราะจะทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นพระครูชั้นประทวน (มิใช่ชื่อพระครูสุวิมล นามสกุลธรรมคุณ แต่เป็นชื่อพระราชทานว่า พระครูสุวิมลธรรมคุณ)
จะเห็นได้ว่า ถ้าเขียนชื่อพระครูสัญญาบัตรโดยเว้นวรรคเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นนามสกุล จะทำให้มีผู้เข้าใจผิดว่าท่านเป็นเพียงพระครูชั้นประทวน มิใช่ชั้นสัญญาบัตร... กรณีนี้ บางครั้งก็มีการหยอกล้อ ทำให้เจ้าของชื่อที่ถูกเขียนผิดๆ เกิดความขวยเขิน ทั้งผู้ที่เขียนหรือพิมพ์ผิดไปก็บ่งบอกว่าเป็นผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์...
ในกรณีที่เป็น พระราชาคณะ (หรือท่านเจ้าคุณ) ก็เป็นชื่อพระราชทาน ต้องเขียนติดกันเหมือนชื่อพระครูสัญญาบัตร เช่น
เพราะถ้าเขียนเว้นวรรค จะกลายเป็นว่าเจ้าของชื่อเป็นเพียงพระบวชใหม่หรือพระธรรมดาเท่านั้น ดังเช่น พระศรีสุวรรณรังษี เป็นชื่อพระราชทานของท่าน (มิใช่ท่านชื่อว่า ศรี นามสกุลว่า สุวรรณรังษี) ...
นอกประเด็นนิดหน่อย บางท่านอาจรู้สึกว่าเรื่องยศช้าง-ขุนนางพระ ยุ่งยากจริงๆ ทำไมไม่เลิกให้หมดเรื่องราวไป...ผู้เขียนก็ฟังมานานแล้วว่า เค้าเคยมีประชุมว่าจะยกเลิกตั้งแต่ผู้เขียนไม่เกิดโน้นแหละ แต่ก็ยุ่งยากขึ้นไปอีกว่า ถ้ายกเลิกเรื่องนี้แล้ว จะเอาอะไรมาแทน เพราะในสังคมหมู่มากต้องมีสิ่งเหล่านี้เป็นธรรมดาเพื่อเป็นการหมายรู้บางอย่าง ดังเช่นข้าราชการ เมื่อก่อนก็มียศพระราชทานเป็นท่านขุนหรือคุณหลวง... พอเลิกเจ้าขุนมูลนาย ก็เปลี่ยนมาเป็นระบบข้าราชการชั้นตรีชั้นโท ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นระบบซีห้าซีหก และฟังว่าตอนนี้ก็กำลังจะพัฒนาไปเป็นระบบแท่ง...
นั่นก็คือ สิ่งหนึ่งต้องมาแทนสิ่งหนึ่ง สรุปว่าเป็นเรื่องธรรมดา สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องเขียนก็ควรเขียนให้ถูกต้องตามระเบียบธรรมเนียมนิยม...
มีเรื่องสงสัยอยู่เรื่องหนึ่งครับ ขอนมัสการถามพระอาจารย์ครับ
กระผมได้อ่านบัญชีเลื่อนตั้งพระครูสัญญาบัตร พ.ศ.2550 ปรากฏมีชื่อพระเถระที่ได้รับการตั้งพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนาม "พระครูสิริญาณวิมล"รายละเอียดดังนี้ครับ
บัญชีรายนามพระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศ ฯ
ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนใต้
จัดพิธี ณ วัดพัฒนาราม อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๑ เวลา ๑๓.๓๐ น.
๔๔. พระครูปลัด ยรรยง ธ. วัดน้ำขาวนอก/จะนะ/สงขลา ” พระครูสิริญาณวิมล ”
ครั้งแรกก็ไม่สงสัยอะไรครับ พอดีกระผมไปราชการ ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติที่วัดเบญจบพิตร มีพระเถระท่านหนึ่งชี้ให้ดู ก็นึกออกครับ ว่าราชทินนามนี้เหมือนกับอาจารย์ "พระครูสิริญาณวิมล"(พระมหาอุดม มหาวิริโย)ที่พักสงฆ์เกาะบกครับ ก็สงสัยว่าทำไมมีราชทินนามเหมือนกันครับ
กราบนมัสการครับ
เคยทราบเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจนัก...
อาจารย์ต้องไปถามเจ้าหน้าที่หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง... เพราะหลวงพี่ไม่รู้เรื่องนี้...
ตามความเห็นส่วนตัว ชื่อเหมือนกันเป็นเรื่องธรรมดา แม้ว่าจะไม่ตั้งใจแต่ความผิดพลาดหรือพลั้งเผลอก็มี...
หรือบางครั้งอาจมีอักษรผิดกันนิดหน่อยก็ได้ ซึ่งเคยอ่านวิจารณ์เรื่องทำนองนี้นานแล้วว่าตำแหน่งพระราชาคณะที่...
บางครั้งมีสองชื่อสองรูปในยุคสมัยเดียวกัน....
เจริญพร