ไว้อาลัย Dr Randy Pansch


Randy Pansch : The Last Lecture

ต้องขอขอบพระคุณ คุณ สุวภา เจริญยิ่ง ที่เขียนบทความดีๆ แก่สังคม..จากใจ ธารินทร์

Randy Pansch : The Last Lecture

ขอใช้บทความนี้เป็นบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับบุรุษผู้เผชิญความตายอย่างกล้าหาญ Dr.Randy Pansch ค่ะ

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : สุวภา เจริญยิ่ง

ดิฉันเผอิญได้ดูรายการ Oprah ตอน The Last Lecture เกี่ยวกับการเลคเชอร์ของ Dr.Randy Pansch ที่พูดเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2550

Dr.Randy สอนที่มหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา คือ คาร์เนกี้ เมล่อน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ แกเป็นมะเร็งที่ตับอ่อนระยะสุดท้าย และคาดว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกประมาณ 3-6 เดือน

แกลุกขึ้นมาจัด The Last Lecture และปัจจุบันมีบางคนบอกว่าเป็นวีดิโอที่มีผู้ Download ดูมากที่สุดของ You Tube โดยเวอร์ชั่นนั้นยาว 76 นาที ส่วนอันที่ดิฉันได้ดูเป็นประมาณ 10 กว่านาที

สิ่งที่แกลุกขึ้นมาพูดก็คือ ประสบการณ์ชีวิต โดยแกตั้งคำถาม 2 เรื่องคือ ความฝันในวัยเด็ก (My Childhood Dream) และวิธีที่บรรลุความฝันในวัยเด็กของเรา (Really Achieve your Childhood Dream)

แกได้ยกย่องคุณพ่อคุณแม่ว่าเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ยอมให้แกทำอะไรแปลกๆ เช่น วาดรูป เขียนสูตรคณิตศาสตร์บนผนัง ยอมให้ทาสีประตูห้องเหมือนประตูลิฟท์ แม้แต่ตอนที่แกรู้สึกว่าการเรียนเป็นเรื่องที่ยากและเหนื่อยจนกลับไปบ่นให้คุณแม่ฟัง ท่านก็ตอบแบบเห็นใจว่า จริงนะเพราะตอนที่พ่ออายุเท่าลูก ท่านยังเป็นทหารอยู่ในสนามรบ

ตอนสุดท้ายแกก็ยกเรื่องที่ดิฉันประทับใจมากขึ้นมาพูด คือ

1. Decide if You’re Tigger or Eeyore - ตัดสินใจว่าคุณจะเป็นเจ้าเสือทิกเกอร์ หรือเจ้าลาอียอร์

ถ้าใครไม่คุ้นกับ 2 ตัวละครนี้ ก็ไปหาหนังสือนิทานเด็กเรื่องเจ้าหมีพูร์ (Winnie the Pooh) มาอ่านนะคะ เพื่อนหมีพูร์คือ เจ้าเสือทิกเกอร์ กับเจ้าลาอีเยอร์นั้น ทิกเกอร์เป็นเสือที่มีความร่าเริงอยู่เป็นนิจ มองโลกในแง่ดี และมีความสุขตลอดเวลา แม้เรื่องที่ทำอยู่จะไม่ได้ประสบความสำเร็จหรือเป็นเรื่องที่น่าสนุกนัก

ขณะที่อีเยอร์เคลื่อนไหวเชื่องช้า ขี้เหงา ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง เลยเลือกที่จะไม่ทำมัน

Dr.Randy บอกว่าคนเราเลือกได้ว่าอยากเป็น Tigger หรือ Eeyore และทุกวันนี้แกเลือกที่จะเป็น Tigger และอยากให้ทุกคนมองโลกและชีวิตแบบเข้มแข็ง และมีความสุขแบบ Tiger

2. Work and play Well With Others - ทำงานและใช้ชีวิตที่ดีกับคนอื่น Dr.Randy ให้ข้อคิดว่า เราจะ Work and Play Well ได้นั้นเราต้องกล้าที่จะพูดความจริง (Tell the Truth) รู้จักการขอโทษด้วยกริยาที่เหมาะสม (Apologize Properly) และขอให้เราอดทนรอ แล้วคนเหล่านั้นก็จะเผยด้านที่ดีของเขาให้เราเห็น (Wait and People will Show their Good Side)

3. Show Gratitude - แสดงความขอบคุณ ไม่ว่าคุณมีโอกาสทำอะไรให้ใครหรือไม่ แต่ไม่ว่าใครทำอะไรให้คุณ การแสดงความขอบคุณเป็นเรื่องที่จะมีความหมายไปตลอดกาล

4. Don’t Complain, Just Work Harder - อย่าเอาแต่บ่น ขอให้ทำงานให้หนักขึ้น

ถ้าท่านใดสนใจฟังหรืออยากรู้ฉบับเต็ม ให้ Search หาใน Google หรือเข้า Youtube ได้เลยค่ะ แต่ที่ดิฉันซาบซึ้งมากตรงที่คุณ Oprah แกถามว่า Dr.Randy มีแรงบันดาลใจอย่างไรที่ลุกขึ้นมาพูดในครั้งนี้ แกตอบได้ชัดถ้อยชัดคำและขออนุญาตไม่แปลว่า

"What wisdom would you try to impart to the world if you know it was your last chance? "

เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ แต่สร้างความรู้สึกที่รุนแรงได้ทันที และในตอนท้ายของ Slide Presentation ก็ปรากฏข้อความว่า Why I gave the talk? แล้วคำตอบก็เป็นรูปตัวแกกับลูกตัวเล็กๆ อีก 3 คน

โดยแกได้กล่าวเสริมว่า ที่ผมทำวันนี้ก็เพื่อวันหนึ่งข้างหน้าลูกๆ ผมโตขึ้น พวกเขาก็อาจจะได้มาเห็นเรื่องราวที่ผมพูดในวันนี้ และนี่เป็นสิ่งที่ผมอยากทิ้งไว้ให้กับลูกผมทั้ง 3 คน

If we had to vanish tomorrow what would we want as our lagacy? โอ้โฮ.. ต้องบอกได้คำเดียวว่าน้ำตาซึมกันทั้งห้องส่ง และสะเทือนใจมาถึงดิฉันซึ่งตอนแรกๆ ก็ดูแบบผ่านๆ ต้องลุกขึ้น Search website และนำเรื่องของแกถ่ายทอดมาเล่าสู่กันฟัง

ตอนนี้ Dr.Randy เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 กรกฏาคมที่ผ่านมา แต่สำหรับเราๆ เรายังมีโอกาสที่มีชีวิตและโอกาสที่จะใช้ชีวิต เราจะใช้มันอย่างไร

ก็ฝากถึงทุกท่านที่กำลังกุมชะตาบ้านเมืองขณะนี้ว่า

“Time is all you have and you may find one day that you have less than you think.“

หมายเลขบันทึก: 210928เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2008 11:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 00:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • ขอบคุณข้อมูลดีๆ นะคะ

ยินดีครับ อย่าลืมดูวิดีโอ ด้วยนะครับ คุณ Bright Lily

see ya

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท