สะท้อนความในใจ(1)
วันนี้ฉันมีเรื่องที่หาคำตอบให้ใจไม่ได้ จนทำให้นอนไม่หลับ ทั้งๆที่ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน จึงใช้เวลามาค้นหาหนังสืออ่านเพื่อค้นหาคำตอบให้เจอ จะได้ไม่จนปัญญาจนกระทั่งตาค้างนอนไม่หลับเช่นนี้ต่อไป แล้วฉันก็ไปเจอบันทึกหนึ่งที่เก็บไว้ เป็นบันทึกที่มีเรื่องชี้ทางให้มองเห็นว่าปัญหาที่ฉันกำลังเผชิญอยู่ในใจนั้นมันคืออะไร ขอยกบันทึกบางส่วนมาบอกเล่ากันต่อนะค่ะ
ในการปฏิบัติธรรม คุณต้องเผชิญหน้ากับความกลัว เข้าไปในป่า เข้าไปเจอสิ่งเสียดแทงในชีวิตอย่างแรง จนคุณสามารถผ่านมันไปได้
พระอรหันต์หลายท่านได้สูญเสียลูก สูญเสียคนรัก เจ็บปวดทางใจมากมาย จนเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในของเขา
สำหรับถ้าเรามองเรื่องจิตวิวัฒน์ เราต้องมีความเชื่อว่าคนเราเปลี่ยนแปลงได้ อาตมาคิดว่าโอกาสแห่งความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจากการที่คนเราโดนบีบคั้นอย่างรุนแรง คือ พอมันตั้งจิตไว้ได้ถูก ยิ่งเจอความรุนแรงมากเท่าไหร่ เจออุปสรรคในชีวิต ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเพื่อนมนุษย์มากเท่าไหร่ มันยิ่งเกิดศรัทธาในมนุษย์มากขึ้น มันยิ่งซาบซึ้งศรัทธาในเมตตาและความรักมากขึ้น และสิ่งนั้นจะเข้าไปชนะใจคนรอบข้างได้
วิวัฒนาการทางจิตไม่ใช่การนั่งในห้องสมาธิ หรือเพียงแต่สัมผัสกับฌานสมาบัติ แต่เราต้องเข้าไปเผชิญกับการเสียดแทงร้อนแรงในประสบการณ์จริงของชีวิต
อีกอย่างก็คือเราต้องพร้อมที่จะเชื่อในความเป็นไปได้จากสภาวการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ (thinking impossible) นี่คือศรัทธา
ถ้าเราเชื่อในจิตวิวัฒน์ เราต้องมีศรัทธา กล้าที่จะคิดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะอะไร...เพราะคนที่เชื่อเรื่องความรุนแรง และความเกลียดชังมีความเชื่อมั่นในวิธีการของเขามาก จริงๆแล้วมันมีไม่กี่คนในโลก แต่เพราะคนพวกนี้มีความเชื่อความศรัทธาอย่างแรง คือ เอาตัวเองเป็นประจักษ์พยาน
จึงเป็นคำถามที่ว่า พวกที่เชื่อเรื่องสันติวิธีหรือเชื่อเรื่องจิตวิวัฒน์ เราจะอยู่แบบสบายๆ แฮ้ปปี้ๆ วันเด้อฟูล บิ้วตี้ฟูล แค่นั้นเหรอพอมั๊ย....ไม่พอ มันต้องมีความเชื่อมั่นที่แรงพอๆกัน แต่แรงในแบบของสันติวิธี และเชื่อว่าในความเป็นไปไม่ได้นั้นมีโอกาสของความเป็นไปได้สูงมาก เพราะฉะนั้นอาตมาจึงไม่เชื่อในการจะปล่อยโลกให้เป็นไปตามยถากรรม เพราะนั่นมันไม่ใช่สิ่งที่จะช่วยทำให้เกิดจิตวิวัฒน์ได้ เราต้องเข้าไปเผชิญด้วยความศรัทธาในการเปลี่ยนแปลงภายในของมนุษย์
อย่างที่ท่านอาจารย์พุทธทาสบอกว่า ในกลางเตาหลอมเหลว มีจุดที่เยือกเย็นอยู่ในใจของเราพร้อมที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในขั้นวิกฤติได้ท่ามกลางการบีบคั้นและกดดันอย่างแรง และเราก็เชื่อว่าความงอกงามในใจนั้นสามารถปลุกความหวังให้กับคนเล็กคนน้อยได้
พระไพศาล วิสาโล
(การประชุมจิตวิวัฒน์ วันจันทร์ที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ ณ มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ)
ข้อสงสัยที่เกิดในใจและหาคำตอบนั้นคือ เรื่องของคนที่ฉันได้ใกล้ชิดกับคนๆหนึ่งที่มีศรัทธาในมนุษย์ และมีความซาบซึ้งในเมตตาและความรักจนชนะใจคนรอบข้าง มีคนหลายๆคนรักและชื่นชม ยอมให้ในทุกเรื่องที่จะทำให้เธอคนนี้มีภาวะทางกายที่ปกติ ไม่เกิดปัญหาจากโรคประจำตัวที่รุมเร้าให้ต้องทุกข์ทน ซึ่งเป็นอะไรที่ดูดีไปทุกเรื่องสำหรับเธอในฐานะที่สวมหมวกผู้บริหารระดับหนึ่ง แต่เหตุใดเธอจึงมีปัญหาด้านการบริหารที่รุมเร้าเข้ามาจนทำให้เธอเจ็บป่วย
ความเห็น (8)
ทุกอย่างอยู่ที่ใจเรา ถ้าใจเป็นสุข เราก็สุขด้วยค่ะ
ขอบคุณที่นำเรื่องดีดี มาให้อ่านนะคะ
- สวัสดีค่ะ หมอเจ๊คนสวย
- ดิฉันเคยผ่านช่วงเลวร้ายที่สุดของชีวิตมาแล้วเมื่อ 10+ ปีก่อน มรสุมที่มีมาทุกด้าน บีบอัดดิฉันทุกอย่าง เคยนอนไม่หลับทั้งคืน ติดต่อกันหลายคืน แต่เช้าต้องไปทำงาน เป็นอย่างนี้อยู่หลายเดือน
- ดิฉันปล่อยให้ปัญหามันเข้ามาเต็มที่ มาให้พอ แล้วก็ปลดแอกตัวเอง วางทุกอย่างเกือบหมด เหลือแต่ตัวกับหัวใจ + ความรู้ที่มีอยู่ในหวั เริ่มต้นใหม่ที่หัวใจตัวเอง แล้วเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมใหม่
- ผลที่ได้แสนจะคุ้มค่า และมีความสุขค่ะ
- ขอบคุณข้อมูลดีๆ นะคะ
- คุณ แก้ว..อุบล จ๋วงพานิช ค่ะ
- เมื่อคนที่อยู่รอบข้างเรา เขาใจไม่เป็นสุข รัศมีนั้นมันแผ่มาให้ใจที่เป็นสุขของเราเศร้าหมองได้ด้วยนะค่ะ
- เว้นเสียแต่ว่า เราจะมีสติจับได้และเตือนสติได้ทันว่า ควรจะมองความเศร้าหมองนั้นอย่างไร
- คนบางคนหาทางออกให้ตัวเองด้วยการแสดงสิ่งตรงข้ามของใจออกมาก็มีค่ะ
- ในขณะที่ปากแย้มยิ้มออกมา ใจของคนบางคนก็เศร้าและทุกข์ทน
- เห็นด้วยกับที่คุณว่าเลยค่ะว่า "การที่ใจจะเป็นสุขหรือทุกข์นั้น อยู่ที่ใจเรานี่เอง หาใช่ใครอื่นไม่"
- เมื่อหาคำตอบในเรื่องนี้ให้กับใจตัวเองได้ ใจมันก็จะตัดสินว่าควรจะทำอะไรที่ดีกับตนเองให้เอง
- หมอเจ๊ก็นอนหลับตาลงได้เมื่อใจมันกระจ่างใจค่ะ
- น้องอรค่ะ Bright Lily
- พี่เป็นคนที่คนอื่นชอบว่าบ้า
- บ้าอีตรงที่ไปเที่ยวคอยห่วงใยคนอื่นเขาไปทั่ว
- เรื่องนี้ก็เหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องตัวเองโดยตรงหรอกค่ะ
- แต่ก็ต้องเกี่ยวด้วยเพราะการเดินต่อในทิศทางใดๆของเธอ
- หากเธอไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงเดินต่อในเส้นทางเดิมมันจะมีทั้งด้านลบเดิมๆและจะมีด้านลบที่เพิ่มขึ้น
- พี่มากระจ่างใจตรงที่ เรื่องของใจใครคนนั้นต้องแก้เองจึงจะเกิดทางแก้ที่ตรง
- ถ้าเจ้าของไม่หันมาแก้ให้ตรงปม อย่างไรเรื่องนี้ก็คงยังเกิดต่อไปค่ะ
- ได้คำตอบแล้วก็นอนหลับได้ค่ะ
- ได้ประสบการณ์นะค่ะว่า เวลาห่วงใยคนอื่นที่เรารักและเป็นห่วง การจะตัดเยื่อใยไม่ข้องเกี่ยวทำได้ยากกว่าความห่วงตัวเองซะอีก
สวัสดีค่ะ
เรื่องการเปลี่ยนแปลงภายใจนั้น คนไม่มีรากเชื่อมั่นและมีประสบการณ์ตรงค่ะ .... อาจเรียกว่า "จุดเปลี่ยน" ที่จะนำไปสู่การวิวัฒน์ คือ ดีขึ้น พัฒนาขึ้น
ส่งกำลังใจให้ด้วยนะคะ
- น้อง คนไม่มีราก ค่ะ
- พี่โตมาแบบพ่อแม่คอยดูแลอยู่ห่างๆค่ะ
- พี่ว่าพี่โชคดี ที่พ่อแม่ให้โอกาสพี่ได้ดูแลตัวเองคล้ายๆกับปบ่อยตามลำพัง
- ทำให้ได้เรียนรู้จุดเปลี่ยนมาหลายครั้งว่า มันทำให้เกิดอะไรที่ดีขึ้น พัฒนาขึ้น
- พี่จึงไม่ใคร่กลัวการเปลี่ยนแปลง
- หากแต่ใครบางคนกลัวการเปลี่ยนค่ะ
- ความกลัวจะทำให้ยึดมั่น ถือมั่น
- ความกลัวจะทำให้ความคิดมันตัน คิดอะไรไม่ออกค่ะ
น่าอ่านโดยละเอียด อีกครั้งค่ะ
ขอบคุณค่ะ
- น้อง ภูสุภา จ๋า
- คิดอะไรไม่ออก ใจมันเย็นไม่ลง
- ธรรมะคือน้ำที่ช่วยรดราดให้ใจมีทางออก ใจเย็นลงๆค่ะ