องค์กรอัจฉริยะ 15 เรื่องเล่าคนสำราญ งานสำเร็จ
จากแผนการไปสู่องค์กรอัจฉริยะในอนาคต โครงการเล่าเรื่องคนสำราญ งานสำเร็จ ก็เป็นอีก 1 โครงการที่บูรณาการเข้าไปกับเวทีที่มีอยู่ประจำเดือนนั่นคือ การประชุมผู้บริหารพบหัวหน้างาน เหมือนโครงการเล่าเรื่องความดี
เริ่มขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2551 โดยน้องอ๊อฟ และน้องหนึ่ง งานซ่อมบำรุง ที่คิดนวัตกรรม “ไฟตากบอัจฉริยะ” ไฟตากบเป็นไฟฉุกเฉิน เมื่อมีไฟฟ้าดับ ไฟตากบจะติดขึ้นทันที การดูแลไฟตากบให้พร้อมใช้งานเสมอนั่นคือ การทดสอบประจำเดือน ในการปล่อยกระแสไฟทิ้ง และชาร์ตแบตเตอรี่ใหม่ ซึ่งขั้นตอนทำงานต้องแบกบันไดปีนขึ้นไป ดึงปลั๊กไฟออก ทางทีมงานมีแรงบันดาลใจจากการไปเข้าร่วมดูผลงานนวัตกรรมที่ไปโชว์ที่งาน HA National Forum ครั้งที่ 9 กรุงเทพฯ จึงกลับมาประดิษฐ์ “ไฟตากบอัจฉริยะต้นแบบ และใช้แสงไฟจากพ้อยเตอร์ หรือไฟฉายส่องไป ไฟตากบก็จะติดขึ้นเอง
ผู้เขียนได้เรียนรู้ว่า ถ้าทีมงานน่ารัก มีความสามัคคีกัน และดึงศักยภาพของแต่ละคนออกมา ก็จะเกิดนวัตกรรมอีกมากมาย ในงานซ่อมบำรุงมีน้องเป็นช่างอิเลคทรอนิคส์มาเติมเต็ม จึงประดิษฐ์นวัตกรรมที่เกี่ยวกับอิเลคทรอนิคส์ได้ดี และมีผลงานเตรียมจะโชว์อีก (ขณะนี้อยู่ในช่วงพัฒนาอยู่ค่ะ)
เดือนมิถุนายน 2551 โดยน้องจามรี อ่อนโฉม หัวหน้างานประชาสัมพันธ์ ออกมาเล่าความสำเร็จในการส่งข่าว และกิจกรรมต่าง ๆ ในคณะแพทยศาสตร์ไปออกสื่อจนโครงการภารกิจพิชิตพุง AF (Anti Fat)ได้ลงหนังสือพิมพ์เดลินิวส์เต็มหน้า ถ้าตีเป็นเงิน ค่าพื้นที่ก็ประมาณ 300,000 บาท ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่ทำให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นที่รู้จัก
ผู้เขียนได้เรียนรู้ว่าบางทีโครงการที่บางคนคิดว่าธรรมดา แต่กลับเป็นที่สนใจของสื่อมวลชน และประชาชน เพราะฉะนั้นเราอย่าตัดสินกันเองเลย ส่งไปให้คนกลาง หรือประชาชน ประเมินค่าดีกว่า และคุณค่าในงานของเราก็จะเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกัน งานที่เราทำอยู่ดีคิดว่าธรรมดา แต่ถ้าผู้รับบริการชื่นชม และขอบคุณก็สามารถเป็นกำลังใจในการทำงานของทุกๆคน ครั้งต่อไปได้
เดือนกรกฎาคม 2551 โดยน้องวสี เลิศขจรสิน หัวหน้างานหลักประกันสุขภาพ ออกมาเล่าเรื่องการเขียน Blog ที่มีประโยชน์ในการทำงาน และยังมีประโยชน์ให้กับผู้ไม่รู้ หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับหลักประกันสุขภาพ มีคน mail เข้ามาถาม ถ้าไม่รู้คำตอบก็ต้องพยายามไปค้นคว้ามาเพื่อตอบคำถาม รวมทั้งยังเกิดเครือข่ายในงานหลักประกันสุขภาพด้วยกัน คนที่ทำงานคล้ายๆ กัน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
ผู้เขียนได้เชิญน้องวสีมาเล่าก็จากคนอ่านบันทึกผ่าน Blog ก็ทำให้ผู้เขียนได้ความรู้เพิ่ม และเห็นน้องมีเครือข่าย มีแฟนพันธุ์แท้เข้ามาทักทาย ถ้ามองกันดีๆ การบันทึกใน Blog ไม่เพียงเกิดประโยชน์กับตนเองในการค้นคว้าหาความรู้ และนำประสบการณ์มาเล่าแล้ว ยังมีประโยชน์ให้คนอื่น หรือน้องๆ ในงานได้ศึกษา เท่ากับเขียนแนวทางปฏิบัติในการทำงานรูปแบบใหม่
จากเรื่องเล่าคนสำราญ งานสำเร็จ ทั้ง 3 เรื่อง ผู้เขียนมุ่งหวังหยิบยกเรื่องดี ๆ ในคณะออกมานำเสนอเป็นตัวอย่างที่ไม่เหมือนกัน หวังว่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้แต่ละงานอยากสร้างผลงาน และออกมานำเสนอกันทั้งทีม
ในความรู้สึกของผู้จัด ก็ภูมิใจแทนน้อง แม้อาจไม่ดูยิ่งใหญ่ในสายตาคนอื่น แต่ก็ยิ่งใหญ่ในสายตาผู้เขียน อย่างน้อยก็มีความกล้าหาญที่ออกมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง ด้วยความเต็มใจ ถ้าผู้ฟัง ฟังอย่างตั้งใจและชื่นชม ก็จะเกิดประโยชน์ ทุก ๆ อย่างมีจุดเริ่มต้น เช่น แรงบันดาลใจ, การชักชวน, ความมุ่งมั่นในงาน และผู้เขียนเชื่อว่าทุก ๆ คน รู้สึกภูมิใจในตนเอง
ความเห็น (1)
ก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติเริ่มจากก้าวแรกเสมอ