รัสนิยาย : เจโตปริยญาณ#3


ปรจิตตวิชานนญาณ

อ่าน ความเดิมในตอนที่แล้ว 


ชาญ
 คิดเล่นๆ ในใจว่าจะเลือกใช้ วิธีไหนในการแก้ไขพฤติกรรมของพี่สาว  Shock therapy ใช่แล้ว Shock therapy น่าจะแก้ไขพฤติกรรมของพี่สาวได้เน๊ะ  เอ๊ะ ไม่เหมาะๆ เพราะพี่สาว ไม่ใช่ แว้นบอย-สก๊อยเกิร์ล แค่พี่สาวทำตัว เหมือน รัฐบาลที่ชอบธรรมในทางกฎหมาย แต่ขาดความสง่างามในการบริหารประเทศ  ส่วนชาญ นั้น ทำตัวเป็น ฝ่ายพันธมิตรฯ ที่ออกมาประท้วงรัฐบาลที่ชอบธรรมในทางกฎหมายฯ  ด้วยวิธี การที่ก้าวร้าว จนดูเหมือนบ้าคลั่ง (มันเป็นความขัดแย้งในความรู้สึกจริงๆ) หลายคนสงสัยว่า พันธมิตรฯ มีอุดมการณ์จริงหรือ? มีผลประโยชน์อะไรแอบแฝงหรือเปล่า? ทำแล้วประเทศจะดีขึ้นกว่านี้หรือ? ทำใมไม่ให้รัฐบาลฯ ทำงานพิสูจน์ตัวเองไปก่อน ทำใมฝ่ายพันธมิตรฯ ไม่เอาเวลาไปทำประโยชน์เพื่อประเทศในทางอื่น? โถ่..แต่เห้อ

เห้อ.. เสียงถอนหายใจยาวของ ชาญ ดังขึ้นหลังจากที่คุณโส เล่าเรื่องของ คุณพิณ ผู้ซึ่งเป็นพี่สาวของชาญ ในอดีตชาติ หมอพิณของฉันน่ะ เธอดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงเก่ง เริ่มตั้งแต่ เปิดร้านกาแฟ แรกๆ ก็ทำท่าว่าจะไปได้ด้วยดี แต่ก็เพราะว่าสามีเธอไม่ได้มาร่วมดูแลด้วยทำให้ยอดขายไม่ดีเท่าที่ควร ที่ยัยพิณเปิดร้านกาแฟน่ะเหรอ ก็เพราะเอาไว้ให้ลูก นั่งรอเธอเวลาที่เธอทำคลินิก เธอไม่อยากให้ลูกนั่งรอที่คลินิกเพราะเชื้อโรคมันเยอะ  พอดีที่ช่วงเธอหายป่วยเธอไปสนใจเกี่ยวกับด้านดนตรี เห็นไปเรียนไวโอลิน ทำไปทำมา นายของยัยพิณ ให้เธอคุมวงดนตรี ของโรงพยาบาล

เธอก็บริหารไปได้ด้วยดีล่ะนะ แต่ก็อย่างว่านะคุณ ได้อย่างก็ย่อมต้องเสียอย่าง งานประจำของเธอที่ปกติมันมีเยอะอยู่แล้วก็ทำให้ล่าช้า โดนหมอแผนกอื่นตำหนิ ยัยพิณมันเลยแสดงสปิริต ขอลาออก เพื่อหลีกทางให้คนอื่นมาบริหารควบคุมวงดนตรีแทน ฉันเห็นยัยพิณมันเศร้าๆ มากเลยนะคุณ ต่อมา สารวัตคนที่มาช่วยแต่งเพลงโรงพยาบาล เห็นยัยพิณเครียด เรื่องโดนเลื่อยขาเก้าอี้ผู้จัดการวงดนตรี ก็เลยยุให้ยัยพิณเป็นดีเจ จัดรายการเพื่อสุขภาพ คลื่นวิทยุตำรวจ พร้อมๆ กับ เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นด้วย แรกๆ ก็ไปได้ด้วยดี แต่ก็อย่างว่าล่ะ มัวแต่ไปซ้อมดนตรี จัดรายการวิทยุ เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ ไหนจะงานประจำอีก จะเอาเวลาที่ไหนมาบริหารร้านกาแฟ พี่นาวาเอกมนตรี เพื่อนของฉันที่พึ่งหย่ากะเมีย ก็มาติดพันยัยพิณ ฉันก็ด่าๆ พี่เขาไปนะว่า ถึงยัยพิณเธอจะหย่ากะสามีแต่ว่าเธอก็ยังอยู่กะสามี แต่ดูเหมือนว่าพี่เขา ไม่ค่อยฟังโสเท่าไหร่หรอก ต่อมาอีตาครู สมิทธิ์ ครูชาวต่างชาติของลูกชายเธอก็มาชวนยัยพิณไปออกทริปถ่ายรูป ที่โน่นที่นี่อีก

โหย เรื่องมันยุ่งเหมือนยุงตีกัน คุณคิดดูว่า ยัยพิณมันจะหาเวลาที่ไหนไปจัด รายการวิทยุ และเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น แต่พักหลังๆ ฉันเห็นยัยพิณมันไปคบกะพี่หมอแฟนเก่า ทำให้ พี่มนตรี และครูสมิทธิ์จ๋อยไปตามๆ กัน แต่ว่าฉันห่วงเพื่อนฉันนะ ถ้าเป็นอย่างที่คุณเล่ามา เพราะว่าตอนนี้ฉันต้องไปต่างประเทศนานๆ จะกลับเมืองไทย แต่ขนาดฉันไปต่างประเทศ เพื่อนบ้านยังโทรมาถามฉันเลยว่า โสๆ หมอพิณ เขาไปกะครูสมิทธิ์ ไปกะนายทหารเรือ เขามีปัญหาครอบครัวหรือเปล่า ฉันอึ้งไปเลยล่ะอะไรกันชาวบ้านนี่ช่างสอดรู้จริงๆ ขนาดฉันไม่ได้อยู่ประเทศไทยยังอุตส่าห์โทรไปถามฉันอีกฉันก็บอกว่า ฉันไม่รู้ ต่อมาฉันบอกกะยัยพิณ แทนที่มันจะสำนึกมันกลับไปด่าชาวบ้านว่า คิดแต่เรื่องต่ำๆ และชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น

ดูสิคุณอย่าหาว่าฉันนินทาเพื่อนเลยนะ เอ่อ ครับ ผมว่าคุณโส จิบกาแฟก่อนดีกว่า เดี๋ยวมันจะเย็นซะก่อน ค่ะๆ ถึงไหนแล้ว อ๋อ ยัยพิณมันเป็นคนหัวดื้อ ลองมันคิดว่ามันทำถูกมันไม่ค่อยจะฟังใครนะคุณ ฉันว่าคงยากล่ะ นี่ฉันก็พยายามๆ กันผู้ชายทุกๆ คนที่จะเข้ามาในชีวิตของยัยพิณ รวมถึงตัวคุณด้วยก็เถอะ ฉันยังไม่เชื่อเรื่องที่คุณเล่ามาเท่าไรนะ คุณน่ะไม่ใช่มาแอบชอบเพื่อนฉันอีกคนนะ จะบ้าเหรอคุณโส ผมอายุห่างกะพี่พิณเขาตั้งจะพอ 20 ปี จะมาเป็นกิ๊กอะไรกันเล่า

แล้วนอกจาก ทหารเรือ ครูสมิทธิ์ พี่หมอแฟนเก่า แล้วมีใครอีกมั้ย ครับ อืม อ่อนึกออกแล้ว ก็มีนายสถาปนิกส์ที่ชื่อ นายสืบอีกคนที่ชอบมาวอแว ยัยพิณ เห็นยัยพิณมันปลื้มๆ อยู่ด้วยบอกว่าหน้าตาเหมือนพี่หมอแฟนเก่า ฉันล่ะปวดหัวจริงๆ เล้ย แล้วที่เที่ยวไปวาดภาพ ถ่ายรูป บ้าๆ บอๆ เนี่ยก็ฝากลูก ให้ฉันเป็นคนดูแล ไม่ก็ฝากแม่บ้าน ยัยพิณมันเพิ่งจะทำตัวหลุดโลกมาเมื่อปีกว่าๆ นี่เองนะ ฉันล่ะกลุ้มใจจริงๆ แต่ก็ไม่กล้าเตือนกลัวเสียเพื่อนค่ะ ผมว่าคุณโสน่าจะพยายามๆ หน่อยนะครับ เพราะถ้าเราเตือนด้วยความหวังดีเขาก็น่าจะฟังเราบ้าง ค่ะจริงของคุณ อืมๆ ฉันนึกได้อีกเรื่องช่วงนี้ กระบวนกร ด้าน จิตปัญญาศึกษา กำลังดังฉันเห็นว่ายัยพิณ มันอยากจะเป็นกระบวนกรกะเขาบ้างล่ะมั้ง ฉันอยากจะบอกกะยัยพิณจังเลยว่า เอาเวลาไปบริหารร้านกาแฟ ทำคลินิก จัดรายการวิทยุ เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ให้รอดซะก่อนเหอะ ไหนจะงานประจำอีก อย่าจับปลาหลายมือไปหน่อยเลย นี่ดูคุณโส จะห่วงพี่พิณมากๆ เลยนะครับ ใช่ค่ะก็ไม่รู้ทำใมนะคะ ยัยพิณมันไม่รู้เลยหรืองัยว่า ชาวบ้านร้านตลาด เขามองตัวมันยังงัยตอนนี้  เห้อ....ชาญ และคุณโส ถอนหายใจ พร้อมๆ กัน

จริงๆ แล้ว พี่สาวของชาญ นั้น คิด คนละอย่างกับชาญ นั่นคือ มองว่า การคบกะเพื่อนต่างเพศ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะ

1.ทำให้เธอได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ดีกว่าจ่อมจมอยู่กับความทุกข์
2.ได้มีผู้ที่คอยให้คำปรึกษาและคำปลอบประโลมใจ
3.ถึงอย่างไร คนที่เธอรัก ก็คือเจ้าคุณราชสุภาวดี และลูก (รวมถึงอดีตแฟนเก่าอย่างหมื่นราชเสน่หา)
4.ได้ทำประชดประชันสามีของเธอ
5.ถึงสามีเธอไม่หึง ก็ขอให้กลับไปดู ข้อ 1-3

เป็นคนที่มองโลกในแง่ดีจริงๆ โว้ยพี่สาวกู ชาญคิดในใจ การทำแบบนี้ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง การคบกับผู้ชายคนอื่นนั้น เป็นภาวะที่เธอ ขาดความมั่นใจในตัวเอง เพราะเธอเองนั้นมีเพียบพร้อมทั้งในเรื่องของตำแหน่งหน้าที่การงาน เงิน เกียรติยศและศักดิ์ศรี ในสังคม ทว่าท่านเจ้าคุณราชสุภาวดี กลับไปเลือกผู้หญิงที่ด้อยกว่าเธอ เอามาทำเมีย ชุดความคิดนี้ทำให้พี่สาวของชาญ เกิดความคับแค้น พร้อมๆกันกับ เกิดความรู้สึกว่าตนเองมีปมด้อยเพราะขาดความรักความอบอุ่นจากสามี  ฉะนั้น เธอจึงพยามแสวงหา เพื่อนต่างเพศที่เข้าอกเข้าใจเธอ ทำให้เธอรู้สึกเติมเต็ม ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นยังมีคุณค่า คนแรกที่เธอคิดถึงก็คือ หมื่นราชเสน่หา 

ในบทสวดทำวัตรเช้า  เขมาเขมสรณทีปิกคาถา กล่าวไว้ว่า มนุษย์เป็นอันมาก เมื่อเกิดมีภัยคุกคามแล้ว ก็ถือเอาภูเขาบ้าง ป่าไม้บ้าง อาราม และรุกขเจดีย์บ้าง เป็นสรณะ; นั่น มิใช่สรณะอันเกษมเลย นั่น มิใช่สรณะอันสูงสุด, เขาอาศัยสรณะ นั่นแล้ว ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้.ส่วนผู้ใดถือเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะแล้ว,
เห็นอริยสัจจ์คือ ความจริงอันประเสริฐสี่ ด้วยปัญญาอันชอบ;
คือเห็นความทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความก้าวล่วงทุกข์เสียได้,
และหนทางมีองค์แปดอันประเสริฐ เครื่องถึงความระงับทุกข์;
นั่นแหละ เป็นสรณะอันเกษม นั่น เป็นสรณะอันสูงสุด;
เขาอาศัยสรณะ นั่นแล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้

ภูเขา=เพื่อนต่างเพศ (ยกภูเขามาใส่อก)
ป่าไม้=ทิฐิมานะ
อาราม=กิจกรรมการถ่ายรูป วาดภาพ
รุกขเจดีย์=กิจกรรมการ ร้องเพลง เล่นดนตรี แต่งกวีนิพนธ์

 สรณะ เหล่านี้เมื่อ  บูชา แล้ว ทำให้พี่พ้นทุกข์ได้ กระนั้นหรือ?

หมายเลขบันทึก: 206890เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2008 16:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 12:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ตามมาขอบคุณคุณชาญ...เอ๊ย!!!..คุณเต๋า..ตอนนี้ตาลายอยู่ค่ะ..จะมาติดตามน่ะค่ะ

ขอบคุณคุณ ครู ครูแอน เดี๋ยว รัสนิยายเรื่องใหม่ให้ครูแอนเป็นนางเอกก็แล้วกันนะครับ  

สงสารชาญจัง บอกให้ชาญสวดมนต์ในบทที่น้องกวินนำมาฝาก ขอบอก...มนุษย์มีกรรมเป็นของตน...ถึงจะตาใสแต่ใจไม่สว่างก็เข้าใจสิ่งต่างๆยากเนอะ....พี่สาวชาญคงเป็นเช่นนั้น....

ขอบคุณครับพี่นุส กำลังนั่งพิมพ์บทความแก้ฟุ้งซ่าน แล้วจะไปนั่งสมาธิต่อแล้วครับ

พี่เสื้อน้ำเงินเก่งจังเลยครับ

ดูมีความรู้มากหลาย

ข้าน้อยขอคารวะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท