หลังจากจบเรื่อง"เล่าเรื่องยิ้ม"ไปแล้ว เราก็มีเรื่อง"เกือบยิ้มไม่ออก"เล่าต่อ ทุกวันตั้งแต่จันทร์-ศุกร์ เราต้องนั่งรถไฟใต้ดิน (subway) 2 ขบวนจากที่พักใน Stockholm ไปที่ Lab ใช้เวลาประมาณ 1 ชม เวลาทำงานของคน Sweden ใน Lab จะทำ 9 am - 5 pm ของเราไปแรกๆก็กลับประมาณ ทุ่มหนึ่ง เลิกงานก็เดินคนเดียวมาขึ้รถไฟ subway ที่นี่ไม่ต้องกลัวหลง เพราะทุกสายต้องผ่าน T-center เพื่อเปลี่ยนขบวนรถ ที่ T-center จะใหญ่มาก มีหลาย plateform และหลายชั้น
เย็นวันหนึ่งจำได้ว่าเป็นวันศุกร์เราออกจากLabค่ำไปหน่อย กว่าจะนั่งรถไฟไปถึง Tcenter
ก็ค่ำมากแล้ว คนที่คอยรถไฟก็น้อยลง
ระหว่างคอยรถไฟเรามองไปเห็นม้านั่งว่างอยู่ เลยเดินไปนั่ง
สักครู่ก็มีคนมานั่งด้วยเป็นผุ้ชายวัยกำลังดีแต่ที่ไม่ดีตรงที่พี่แก
"หัวโล้น" (skin
head)
ถ้าห่มจีวรก็เหมือนพระ แต่พวก
skin head
ไม่ชอบต่างชาติเขาหาว่าไปแย่งอาชีพ
และพี่แก่ก็กินเหล้ามาด้วย ดูท่ทางเหมือนคนเมา
(เฮ้อ....โชคไม่ดีมีคนเมามานั่งด้วย)
ชักจะเริ่มกลัวขึ้นมานิดๆ แต่พอดูหน้าตาพี่แกไม่ดุแถมค่อนข้างดีเลยกลัวน้อยลง
จริงๆแล้วเราไม่ชอบคนกินเหล้าแต่ก็ไม่กล้าลุกหนีกลัว skin head
จะโกรธ
(คิดอยู่ว่าจะทำยังไงดี ต้องคุยกับคนเมาไหมเนี๊ยะ)
skin head ถามเราว่า "Where are you from? "จะตอบว่ามาจากที่ทำงานแบบไทยๆก็คงไม่ใช่ เขาคงอยากรู้ว่าเราเป็นคนชาติไหน เอ....จะบอกว่าเป็นคน(หญิง)ไทยก็ไม่กล้า ต้องยอมผิดศีลบอกว่ามาจาก Japan ดีกว่า พี่แกทำหน้าแปลกๆๆคงสงสัย!!?? ว่าญี่ปุ่นทำไม่สีเข้มจัง ถ้าพี่แกไม่เชื่อ เราก็จะบอกว่าเราเป็นลูกครึ่ง (ไม่รู้จะเอาครึ่งอะไรดี)
พี่แกก็ถามต่ออีกมาทำอะไร? พักที่ไหน? อุย....ชักจะไม่ค่อยดีเดี๋ยวจะถามว่าอยู่กับใคร.? เฮอ.....ต้องรีบพูดภาษาญี่ปุ่นที่พอจำได้ จะได้เลิกถามเสียที่ ได้ผลจริงๆด้วยพี่แกบอกว่าไม่เข้าใจ เราก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว รถไฟก็มาพอดี เรายังไม่กล้าลุกขึ้นกลัวพี่แก่จะตามมาคุยต่อบนรถไฟ ต้องรอจังหวะรถเกือบออกแล้วรีบวิ่งขึ้นพร้อมกับ"say good bye "และ "sayonara" พี่แก่ก็ตอบ sayonara โบกมือให้ด้วย เฮอ...โล่งใจจังพ้นมาเสียได้ เกือบยิ้มไม่ออก เสียแล้ว
จากเหตุการณ์นี้ทำให้เรารู้ว่า การอยู่ต่างแดนอย่างโดดเดี่ยวไม่ปลอดภัยเลย บางครั้ง บางสถาณการณ์ เราจะพูดความจริงไม่ได้เหมือนกัน ต้องพึ่งตัวเอง เหมือนที่พระสอนไว้ "อัตตาหิ อัตตาโนนาโถ" และรู้ซึ้งถึงคุณค่าของภาษาต่างด้าว (ช่วยเราได้ในยามคับขัน) เพราะนั้น มาสนุกกับการเรียนภาษากันดีไหม
อ่านเรื่องพี่ Tammy แล้ว สนุกดีค่ะ มีที่จิ้มผิดบ้าง ที่ทำเอาเกือบต๊กกะใจ เช่น ขึ้น ที่ไม่มี น.หนู ดูผ่านๆเหมือนสระ อี แย่เลยนะคะ ฮิ ฮิ...
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับภาษาแลกเปลี่ยนบ้างค่ะ ของเราเจอคุณยาย ผมสีขาวหมดหัว ตอนนั่งรอรถเมล์ที่เพิร์ธ แกถามว่า ยูมาจากไหน เราบอกว่า Thailand มาเรียนหนังสือ แกถามว่า วันนี้จะไปไหนเหรอ บอกว่าจะไป St George Cathedral คำว่า Cathedral ที่แปลว่าโบสถ์นี่เสียงออกยากมาก ก็ออกไปตามที่คิดว่าถูก ปรากฎว่าแกสอนทันที แถมให้เราทำปากตามแกด้วย จากนั้นจนบัดนี้ คิดว่าออกเสียงนี้ได้ดีจนไม่น่าเชื่อ จำไม่ได้เลยว่าแต่ก่อนอ่านว่าอะไร ต้องขอบคุณคุณยายมากจริงๆ คิดถึงแกทุกครั้งที่พูดคำนี้
คำนี้ออกเสียงว่า ค่ะ ที๊ (ออกเสียงแบบเอาลิ้นออกมาอยู่ระหว่างฟันแล้วพ่นลมออกเสียง ท.นะคะ) ดรอล เสียงเน้นที่ ตัวกลางฟังเผินๆเหมือน ตี๊ กว่า ที๊ด้วยค่ะ
ขออีกบ่อยๆนะคะ ชอบ..ชอบ..ชอบจริงๆ เราจะได้คอยแจม