คอมพิวเตอร์เมื่อใช้ไประยะหนึ่งจะมีการเสื่อมชำรุดไปตามสภาพระยะเวลาที่ใช้งาน ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จึงควรเอาใจใส่ ดูแลและบำรุงรักษา อย่างเหมาะสมสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มอายุการใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะช่วยให้สามารถประหยัดงบประมาณในการซ่อมบำรุงหรือการเปลี่ยนอุปกรณ์
สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมที่คอมพิวเตอร์ของคุณจะทำงานได้ดีนั้นคืออย่างไร
เช่น ในห้องคอมพิวเตอร์ของคุณควรจะมีอุณหภูมิสูงเท่าไร
มีความชื้นไม่เกินเท่าไร ขีดจำกัดของการทำงานเป็นอย่างไร
ระยะเวลาในการทำงานของเครื่องเป็นอย่างไร
ดังนั้น
ห้องทำงานด้านคอมพิวเตอร์จึงควรเป็นห้องปรับอากาศที่ปราศจากฝุ่นและความชื้น แผ่นดิสก์ที่เก็บไฟล์ข้อมูลนั้นอาจเสียหายได้ถ้าหากว่าแผ่นดิสค์ได้รับการขีดข่วน
ได้รับความร้อนสูง หรือตกกระทบกระแทกแรงๆ
สิ่งที่ทำลายข้อมูลในแผ่นบันทึกได้แก่ ความร้อน ความชื้น ฝุ่น ควัน
และการฉีดสเปรย์พวกน้ำยาหรือน้ำหอม ต่างๆ เป็นต้น
การทำความสะอาดระบบคอมพิวเตอร์
1.
ไม่ควรทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ในขณะที่เครื่องยังเปิดอยู่
ถ้าคุณจะทำความ สะอาดเครื่อง ควรปิดเครื่องทิ้งไว้ 5 นาที
ก่อนลงมือทำความสะอาด
2. อย่าใช้ผ้าเปียก ผ้าชุ่มน้ำ เช็ดคอมพิวเตอร์อย่างเด็ดขาด
ใช้ผ้าแห้งดีกว่า
3. อย่าใช้สบู่ น้ำยาทำความสะอาดใด ๆ กับคอมพิวเตอร์
เพราะจะทำให้ระบบของเครื่อง เกิดความเสียหาย
4. ไม่ควรฉีดสเปรย์ใด ๆ ไปที่คอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์
และอุปกรณ์ต่างๆ
5. ไม่ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นกับคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ
6. ถ้าคุณจำเป็นต้องทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์
โปรดใช้อุปกรณ์ทำความสะอาด ที่คู่มือแนะนำไว้เท่านั้น
7. ไม่ควรดื่มน้ำชา กาแฟ เครื่องดื่มต่าง ๆ
ในขณะที่ใช้คอมพิวเตอร์
8. ไม่ควรกินของคบเคี้ยวหรืออาหารใด ๆ
ขณะทำงานด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์
สาเหตุที่ทำให้เครื่องพีซีเกิดความเสียหาย
1.
ความร้อน
ส่วนใหญ่เกิดจากความร้อนของอุปกรณ์บนเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์เอง
เมื่อเกิดความร้อนสูงจะต้องรีบระบายความร้อนที่เกิดจากอุปกรณ์ต่างๆ
ออกไปให้เร็วที่สุด
วิธีแก้ไข
•
พัดลมระบายความร้อนทุกตัวในเครื่อง ต้องอยู่ในสภาพดี 100%
อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดควรจะอยู่ระหว่าง 60-70 องศาฟาเรนไฮต์
• ใช้เพาเวอร์ซัพพลาย (ตัวจ่ายไฟ) ในขนาดที่ถูกต้องกับเครื่อง
• ใช้งานเครื่องในย่านอุณหภูมิที่ปลอดภัย
อย่าตั้งอยู่ในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงเป็นเวลานานๆ
หรือบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง อากาศถ่ายเทได้ไม่ดีพอ
2.
ฝุ่นผง
ในอากาศมีฝุ่นผงกระจัดกระจายอยู่ในทุกๆที่
ฝุ่นผงที่เกาะติดอยู่บนแผงวงจรของคอมพิวเตอร์
ทำหน้าที่เสมือนฉนวนป้องกันความร้อน ทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นในระบบ
ไม่สามารถระบายออกสู่สภาพแวดล้อมภายนอก
นอกจากนี้อาจไปอุดตันช่องระบายอากาศของเพาเวอร์ซัพพลายหรือฮาร์ดดิสค์
หรืออาจเข้าไปอยู่ระหว่างแผ่นดิสค์กับหัวอ่าน
ทำให้แผ่นดิสค์หรือหัวอ่านเกิดความเสียหายได้
วิธีแก้ไข
•
ควรทำความสะอาดภายในเครื่องทุก 6 เดือน หรือทุกครั้งที่ถอดฝาครอบ
• ตัวถัง หรือ ชิ้นส่วนภายนอกอาจใช้สเปรย์ทำความสะอาด
• วงจรภายในให้ใช้ลมเป่าและใช้แปรงขนอ่อนๆ ปัดฝุ่นออก
• อย่าสูบบุหรี่ใกล้เครื่องคอมพิวเตอร์
3.
สนามแม่เหล็ก
แม่เหล็กสามารถทำให้ข้อมูลในแผ่นดิสก์หรือฮาร์ดดิสค์ก็สูญหายได้อย่างถาวร
แหล่งที่ให้กำเนิดสนามแม่เหล็กในสำนักงานมีอยู่มากมาหลายประเภท
อาทิเช่น
• แม่เหล็กติดกระดาษบันทึกบนตู้เก็บแฟ้ม
• คลิปแขวนกระดาษแบบแม่เหล็ก
• ไขควงหัวแม่เหล็ก
• ลำโพง
• มอเตอร์ในพรินเตอร์
• UPS
วิธีแก้ไข
•
ควรโยกย้ายอุปกรณ์ที่มีกำลังแม่เหล็กมากๆ
ให้ห่างจากระบบคอมพิวเตอร์
4.
สัญญาณรบกวนในสายไฟฟ้า
สัญญาณรบกวนในสายไฟฟ้ามีหลายลักษณะ
อาทิเช่น
• แรงดันเกิน
• แรงดันตก
• ทรานเชียนต์
• ไฟกระเพื่อม
แรงดันเกิน
ในกรณีที่เครื่องของท่านได้รับแรงดันไฟฟ้าเกินจากปกติ จะมีผลทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในเครื่องเกิดความเสียหายได้
แรงดันตก
ในกรณีที่มีการใช้ไฟฟ้ากันมากเกินความสามารถในการจ่ายพลังงานไฟฟ้า
จะมีผลทำให้เกิดเหตุการณ์ไฟตกได้
ไฟตกอาจทำให้การทำงานของเพาเวอร์ซัพพลายผิดพลาดได้
เนื่องจากเพาเวอร์ซัพพลายพยายามจ่ายพลังงานให้กับวงจรอย่างสม่ำเสมอ
โดยไปเพิ่มกระแส แต่การเพิ่มกระแสทำให้ตัวนำ
เพาเวอร์ซัพพลายและอุปกรณ์ต่างๆ ร้อนขึ้น ซึ่งมีผลทำให้อุปกรณ์ต่างๆ
เกิดความเสียหายได้
ทรานเชียนต์
หมายถึง การที่ไฟฟ้ามีแรงดันสูง (sags) หรือต่ำกว่าปกติ (surge)
ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ทรานเชียนต์ที่เกิดในบางครั้งจะมีความถี่สูงมาก
จนกระทั่งสามารถเคลื่อนที่ผ่านตัวเก็บประจุไฟฟ้าในเพาเวอร์ซัพพลาย
เข้าไปทำความเสียหายให้แก่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้
ไฟกระเพื่อม
ทุกครั้งที่ท่านเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า จะทำให้กำลังไฟเกิดการกระเพื่อม
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการกระแสไฟฟ้ามากๆ
ก็จะทำให้ความแรงของการกระเพื่อมมีค่ามากตามไปด้วย จากการศึกษาพบว่า
การเปิดใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละครั้งจะทำให้เกิดการกระเพื่อมภายในเสี้ยววินาที
การกระเพื่อมจะมีผลต่อทุกๆ ส่วนภายในตัวเครื่อง
รวมทั้งหัวอ่านข้อมูลของฮาร์ดดิสค์ด้วย
วิธีแก้ไข
• ในกรณีไฟเกิน
ไฟตก และ ทรานเชียนต์ แก้ไขได้โดยการใช้เครื่องควบคุมกระแสไฟฟ้า หรือ ที่เรียกว่า
Stabilizer
• ส่วนไฟกระเพื่อม แก้ได้โดยการลดจำนวนครั้งในการปิด/เปิดเครื่อง
5.
ไฟฟ้าสถิตย์
ไฟฟ้าสถิตย์สามารถเกิดขึ้นได้ทุกฤดูกาล
แต่ในสภาวะที่อากาศแห้ง จะส่งผลให้ความเป็นฉนวนไฟฟ้าสูง
ประจุของไฟฟ้าสถิตย์จะสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก
และหาทางวิ่งผ่านตัวนำไปยังบริเวณที่มีศักย์ไฟฟ้าต่ำกว่า
ดังนั้นเมื่อท่านไปจับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ประจุของไฟฟ้าสถิตย์จากตัวท่านจะวิ่งไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านั้น
ทำให้อุปกรณ์เกิดความเสียหายได้ แต่ในสภาวะที่มีความชื้นสูง
ไฟฟ้าสถิตย์ที่เกิดขึ้นจะรั่วไหลหายไปในระยะเวลาอันสั้น
วิธีแก้ไข
•
ควรทำการคายประจุไฟฟ้าสถิตย์
ด้วยการจับต้องโลหะอื่นที่ไม่ใช้ตัวถังเครื่องคอมพิวเตอร์
ก่อนจะสัมผัสอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบคอมพิวเตอร์
6.
น้ำและสนิม
น้ำและสนิมเป็นศัตรูตัวร้ายของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด
สนิมที่พบในเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์
มักจะเกิดจากการรั่วซึมของแบตเตอรี่บนเมนบอร์ด
ซึ่งถ้าเกิดปัญหานี้ขึ้น
นั่นหมายความว่าท่านจะต้องควักกระเป๋าซื้อเมนบอร์ดตัวใหม่มาทดแทนตัวเก่าที่ต้องทิ้งลงถังขยะสถานเดียว
วิธีแก้ไข
•
หลีกเลี่ยงการนำของเหลวทุกชนิดมาวางบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ของท่าน
• กรณีการรั่วซึมของแบตเตอรี่ แก้ไขได้โดยการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
เมื่อเครื่องของท่านมีอายุการใช้งานได้ประมาณ 1-2 ปี เป็นต้นไป
การบำรุงรักษาตัวเครื่องทั่วๆไป
• เครื่องจ่ายไฟสำรอง (UPS)
ถ้ามีงบประมาณเพียงพอควรติดตั้งร่วมกับตัวเครื่องคอมพิวเตอร์
ด้วยเพราะ UPS จะช่วยป้องกันและแก้ปัญหาทางไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นไฟตก
ไฟเกิน หรือไฟกระชาก
อันเป็นสาเหตุที่จะทำให้เกิดความเสียหายของข้อมูลและชิ้นส่วนอื่นๆ
• การติดตั้งตัวเครื่องคอมพิวเตอร์
ควรติดตั้งในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ
หรือถ้ามีไม่มีเครื่องปรับอากาศควรเลือกห้องที่ปลอดฝุ่นมากที่สุด
และการติดตั้งตัวเครื่องควรจากผนังพอสมควรเพื่อการระบายความร้อนที่ดี
• การต่อสาย Cable ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์ต่างๆเช่น
Printer Modem Fax
หรือส่วนอื่นๆจะต้องกระทำเมื่อปิดเครื่องเรียบร้อยแล้ว
• อย่าปิด - เปิดเครื่องบ่อยๆ เกินความจำเป็น
เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายแก่โปรแกรมที่กำลังทำงานอยู่
• ไม่เคลื่อนย้ายเครื่องคอมพิวเตอร์ขณะที่เครื่องทำงานอยู่
เพราะจะทำให้อุปกรณ์บางตัวเกิดความเสียหายได้
• อย่าเปิดฝาเครื่องขณะใช้งานอยู่
ถ้าต้องการเปิดต้องปิดเครื่องและถอดปลั๊กไฟก่อน
• ควรศึกษาจากคู่มือก่อนหรือการอบรมการใช้งาน Software
ก่อนการใช้งาน
•
ตัวถังภายนอกของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่เป็นส่วนประกอบของเหล็กกับพลาสติกเมื่อใช้นานๆ
จะมีฝุ่นและคราบรอยนิ้วมือมาติดทำให้ดูไม่สวยงามและถ้าปล่อยไว้นานๆ
จะทำความสะอาดยาก จึงควรทำความสะอาดบ่อยๆอย่างน้อย 1-2 เดือนต่อครั้ง
โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดที่ตัวเครื่อง
หรือใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ และที่สำคัญคือ
ควรใช้ผ้าคลุมเครื่องให้เรียบร้อยหลังเลิกใช้งานทุกครั้งเพื่อป้องกันฝุ่นผงต่างๆ
อ้างอิงข้อมูลจาก
สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานศาลยุติธรรม
ผู้บันทึก : อาทิตย์