วันนี้ขอเผยแพร่ รายงานการประเมินโครงการเข้าค่ายวิชาการ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ
โรงเรียนชุมชนหนองหินวิทยาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 เพื่อเป็นสารสนเทศแก่ผู้บริหารสถานศึกษาและผู้ที่สนใจ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อประเมินโครงการเข้าค่ายวิชาการอ่านคิด วิเคราะห์
และเขียนสื่อความ โรงเรียนชุมชนหนองหินวิทยาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2
โดยใช้รูปแบบการประเมิน 360 องศา กลุ่มเป้าหมายที่ใช้การวิจัยครั้งนี้ เป็นคณะกรรมการ
จัดกิจกรรมเข้าค่ายวิชาการ การอ่านคิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ ครูและนักเรียนโรงเรียนชุมชนหนองหินวิทยาคาร มีรายละเอียด ดังนี้ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 3 คน ครูและคณะกรรมการโครงการเข้าค่ายวิชาการ การอ่านคิด วิเคราะห์และเขียนสื่อความ จำนวน 26 คน นักเรียนช่วงชั้นที่ 2 (ป.4-6) จำนวน 131 คน และนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 (ม.1-3) จำนวน 144 คน รวมทั้งสิ้น 275 คน เครื่องมือที่ใช้ในเก็บรวบรวมข้อมูล มี 3 ชนิด ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ สำหรับผู้อำนวยการสถานศึกษา ครู คณะกรรมการโครงการ แบบสอบถามสำหรับคณะกรรมการโครงการ ครู แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน ใช้สังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมเข้าค่ายวิชาการ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ โรงเรียนชุมชนหนองหินวิทยาคาร แบบประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความสำหรับนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการประเมินปรากฏผลดังนี้
1. ครูและคณะกรรมการโครงการมีความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการเข้าค่ายวิชาการการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( ค่าเฉลี่ย= 3.98) และรายด้านมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกด้าน
2. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อโครงการเข้าค่ายวิชาการ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ โดยรวมอยู่ในระดับมาก
3. ผู้บริหารสถานศึกษาและรองผู้อำนวยการสถานศึกษามีความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมโครงการเข้าค่ายวิชาการ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ โรงเรียนชุมชนหนองหินวิทยาคาร ปรากฏผลดังนี้
3.1 รูปแบบการจัดกิจกรรมของโครงการ เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก กิจกรรมตามโครงการมีความเหมาะสม ครู นักเรียนมีพัฒนาการจัดการเรียนการสอนดีขึ้น มีการบูรณาการเนื้อหาวิชาให้สอดคล้องกัน สอดคล้องกับความต้องการของครูผู้สอนที่ต้องการได้รับความรู้เพิ่มเติมและสัมพันธ์กับวัตถุประสงค์และที่สำคัญควรมีการติดตามการปฏิบัติงานของนักเรียนอย่างต่อเนื่องและรายงานผลการประเมินให้ผู้เกี่ยวข้องทราบเพื่อพัฒนางานและมีผลการดำเนินการงานตามโครงการ ควรสรุป จากประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของนักเรียนเป็นหลัก แต่มีข้อเสนอแนะว่า ควรเพิ่มการติดตามผลการจัดกิจกรรมในระยะเวลาที่เหมาะสมและมีความชัดเจนในตัวชี้วัดของการประเมิน ก่อนลงมือจัดกิจกรรม ควรมีการประชาสัมพันธ์การเข้าร่วมโครงการ (ร้อยละ 71.40) ควรให้องค์กรภายนอกเข้ามามีส่วนร่วมให้มากกว่านี้ ซึ่งการจัดกิจกรรมพบข้อดีคือ นักเรียนได้พัฒนาตนเอง ด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ รวมถึง ความรับผิดชอบ การทำงานเป็นทีม เป็นกลุ่ม ความซื่อสัตย์ ความใฝ่รู้ใฝ่เรียน ส่วนปัญหา
และอุปสรรค ที่พบคือ เนื้อหาหรือกิจกรรมบางฐานที่เรียนมีกิจกรรมมากเกินไป จนนักเรียนทำไม่ทันและไม่ได้นำเสนอผลงานและระยะเวลาในการจัดกิจกรรมมีน้อยทั้งงบประมาณในการดำเนินงานมีจำนวนจำกัด ส่งผลต่อการดำเนินงานตามโครงการ ข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงคือ กระบวนการในการจัดกิจกรรม ต้องมีมาตรฐานมากขึ้น สร้างกิจกรรมที่ดึงดูดความสนใจให้มากและท้าทายความคิดให้มากและที่สำคัญจัดหางบประมาณภายนอกสนับสนุนให้มากขึ้น
3.2 การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโรงเรียนหลังการจัดกิจกรรมโครงการเข้าค่ายวิชาการ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ พฤติกรรมการสอนของครู พบว่า ครูมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการเรียนการสอน ตามมาตรฐานการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความทั้ง 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผล การทำวิจัยในชั้นเรียน การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และครูมีเจตคติต่อการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก การเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อผู้เรียน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติต่อการเรียนการสอนและครูผู้สอนอยู่ในระดับดี ครูเข้าใจและสนใจนักเรียนมากขึ้น ทำให้นักเรียนมีผลการเรียนดีขึ้น มีความเข้าใจในทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจน นักเรียนสนใจและชอบกิจกรรมที่ครูจัดให้ นักเรียนมีความกระตือรือร้น อยากเรียนรู้ และมีข้อเสนอแนะว่า เน้นกระบวนการการทำงาน การตรวจสอบ ต้องให้อิสระในการเรียนการสอนและกิจกรรมอื่น ๆ
3.3 ปัจจัย เงื่อนไขที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในโรงเรียนหลังจัดกิจกรรมโครงการเข้าค่ายวิชาการ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ เห็นว่า คณะกรรมการมีความรับผิดชอบ ขยันมากขึ้น รู้บทบาทหน้าที่ของตนเอง มีความเข้าใจในงานที่ต้องปฏิบัติ มีการพัฒนางานและพัฒนาตนเอง ส่งผลดีต่อโรงเรียน ครูผู้สอนมีการจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมีการสอนแบบโครงงาน เน้นกระบวนการคิด มีการวัดผลการประเมินผลที่หลากหลาย มีความรับผิดชอบและขยันมากขึ้น รู้วิธีการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ งานวิจัยและมีความสนใจในการเรียนรู้เพื่อพัฒนางานอยู่เสมอ มีส่วนร่วมในลักษณะทีมงานมากกว่าเดิม มีกระบวนการทำงานเป็นทีม รู้จักเคารพในสิทธิ บทบาทและหน้าที่ ตามที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี ด้านการสนับสนุนจากองค์กรภายนอก รู้จักติดต่อประสานงาน ให้ความร่วมมือและสนับสนุน ตามโครงการเป็นการพัฒนางานอีกรูปแบบหนึ่ง
3.4 ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของโรงเรียน ก่อนและหลังดำเนินจัดกิจกรรมโครงการเข้าค่ายวิชาการ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ เห็นว่า ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของโรงเรียน หลังดำเนินโครงการดีขึ้น (ร้อยละ 100) ครูและนักเรียนสนใจเข้าร่วมจัดกิจกรรมโครงการเข้าค่ายการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ มีความเข้าใจในการสอน สนใจเอาใจใส่ผู้เรียน มีผลงานด้านการสอน มีการออกแบบและจัดกิจกรรมการเรียนรู้ใช้แหล่งเรียนรู้ให้เป็นประโยชน์ มีการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดการเรียนรู้กับผู้เรียน และมีข้อเสนอแนะว่าควรกำหนดเป้าหมายชัดเจน มีกระบวนการพัฒนากิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ให้ดำเนินการจัดกิจกรรมโครงการเข้าค่ายการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความอย่างต่อเนื่อง ให้เข้มมากกว่าเดิม เน้นกระบวนการมากกว่าเป้าหมาย
ทรงศักดิ์ ปักสังขาเน. รายงานการประเมินโครงการเข้าค่ายวิชาการ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ โรงเรียนชุมชนหนองหินวิทยาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 ,2551
เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ต่อไป
ครูแนน
หนูเรียนอยู่ม.4 ที่ ชัยนาท อยากเข้าค่ายแบบนี้บ้างอ้า.........
เราตกอะ