ช่วงหลายปีให้หลังมานี่...ข้าพเจ้าเปลี่ยนแปลงตนเอง มาดำเนินชีวิตตามแนวทางวิถีธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม คือ การมีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่ถูกเบียดเบียนด้วยโรคภัยไข้เจ็บ แม้อาการเป็นไข้ เป็นหวัดเล็กๆ น้อยๆ...ก็ไม่เป็นเลย
เมื่อก่อน... ดั่งที่เคยได้ถอดบทเรียนไว้ในหลายๆ บันทึกว่า ข้าพเจ้านั้นเปรียบเป็นมือวางอันดับสอง บางเวลาก็ไต่ขึ้นมาเป็นมือวางอันดับหนึ่งในเรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วย... เป็นโรคภูมิแพ้ และมีภูมิต้านทานต่ำ จะเจ็บไข้ได้ป่วยง่าย ... หากว่าไปอยู่ใกล้ๆ ใครที่เป็นหวัดหรือเป็นไข้ ข้าพเจ้าก็จะเกิดอาการติดต่อทันที...
ผัก ผลไม้
จากเป็นผู้ที่ไม่ทานผัก ผลไม้เลย...
เปลี่ยนเป็นคนที่ทานผัก และผลไม้เป็นหลัก...
การทำงาน
จากที่งานไม่เสร็จ...ก็ไม่เข้านอน
เปลี่ยนเป็น...งานเสร็จไม่เสร็จ ก็ต้องนอนก่อน โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องพักตับ คือ หลังเที่ยงคืนถึงตีสามนี่คือ เวลานอนเลย และขยับมานอนเร็วขึ้น คือ สี่ทุ่ม เพื่อให้ร่างกายทำภาระกิจกับเมลาโทนินได้ดี
ตื่นนอน
จากความพยายามที่ตื่นเช้าไม่ได้สักครั้งเลย ตั้งแต่วัยเด็กจนเวลาล่วงเลยมาสามสิบปี...
เปลี่ยนเป็น... รู้สึกตัวตื่น ณ เวลาตีสามตีสี่ แม้จะเข้านอนเวลาใด ก็จะตื่นรู้สึกตัวเวลานี้เสมอ
สวมใส่ถุงเท้าเป็นหลักเพื่อให้เท้าอบอุน เพราะปกติจะเป็นคนขี้หนาว แต่เมื่อได้สวมใส่ถุงเท้า ร่างกายก็จะอบอุ่นขึ้น
ทำ Detox เป็นประจำสม่ำเสมอ ... ทั้งการสวนทวาร อบซาวน่า ออกกำลังกายแบบแอโรค วิ่ง-ปั่นจักรยาน และว่ายน้ำ... บางเวลาเช้าๆ ก็เล่นโยคะ สลับกันไปมา
เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนได้ไปคลุกคลีกับเด็กๆ ที่ป่วยเป็นไข้หวัด และอีสุกอีใส ทันทีที่กลับถึงบ้าน ... เริ่มดูแลตนเอง สวมถุงเท้านอน พันคอให้อุ่น เข้านอนเร็วขึ้น ตื่นเช้าดื่มน้ำสะอาด ทำ Detox น้ำราดศรีษะและห่อผ้าไว้สักพัก... ดื่มน้ำผัก-ผลไม้ปั่น และทานมื้อเช้าด้วยข้าวกล้องตามปกติ... -----> ก็สามารถฝ่าดงความเจ็บป่วยออกมาได้... อีกครั้ง
ความมีวินัย และความเคร่งครัด ต่อการดูแลตนเองเรื่องสุขภาพนี้ จากที่ศึกษาเรื่อง การใช้ชีวิตตามนาฬิกาชีวิต เริ่มตั้งแต่การตื่นนอน ไปจนถึงการเข้านอน + การรับประทานอาหาร
และศึกษาคนต้นแบบต่างๆ ที่ต่างถอดบทเรียนมาแบ่งปันผู้คนให้ได้ร่วมรับรู้
นำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากบุคคลอื่นมาประยุกต์และปรับใช้กับตนเอง.. ให้เหมาะสม
เมื่อสองสองวันก่อน ทดสอบตัวเอง ลองทานพวกขนมเบเกอรี่ต่างๆ ที่มีแป้ง ไขมันและน้ำตาล ได้ผลทันตาเห็น ตื่นเช้ามา มีสิวหลายเม็ดปรากฏขึ้นบนหน้าผาก และจะเป็นทุกครั้งที่ทานขนมพวกเบเกอรี่ ... ช่วงนี้ก็เลยต้องใช้ผักผลไม้ชำระล้าง toxin ออกไป...
ได้อะไรจากการเปลี่ยนแปลงในตนเองนี้ ...
สิ่งที่ได้ก็คือ การไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่ต้องมาเป็นภาระเรื่องการเจ็บป่วย สามารถใช้ชีวิตได้เต็มศักยภาพในตนเองมากขึ้น พยายามใช้ชีวิตช่วงที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าและให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ทั้งที่ไม่เป็นการเบียดเบียนตนเอง และเบียดเบียนผู้อื่น...
----------------------------------
สวัสดีค่ะ เห็นด้วยนะคะกับการเยียวยาด้วยธรรมชาติ และหากเพิ่มเติมเรื่องการพัฒนาสุขภาพจิตวิญญาณ นั่งสมาธิก่อนนอนหรือช่วงพักเที่ยง 10-15 นาที ด้วยจะสมบูรณ์ยิ่งขึ้นค่ะ...
สวัสดีค่ะพี่กะปุ๋ม
สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง
เราทำเราก็สุขภาพดีค่ะ เนอะ ฮิๆๆ
พี่สบายดีนะค่ะ...ตามมาขอบคุณที่แวะไปทักทายกัน
หวังว่าคงไม่นานไป ฮิๆๆๆ
คุณกะปุ๋ม เป็นตัวอย่างที่ดีครับ ผมเองก็ได้แรงบันดาลใจจากคุณกะปุ๋มหลายเรื่องเลยทีเดียว
ก็พยายามพัฒนาตนเองครับ...
ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ...
คุณ ฐิตินันท์
น้องกล้วยแขก
คุณเอก
(^___^)
เป็นเรื่องดีที่น่าสนใจมากเลยค่ะ แสดงถึงจิตใจที่เข้มแข็งมีความมุ่งมั่น ที่สำคัญคือ เป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่สามารถเอาชนะตัวเอง เปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่แตกต่างได้ขนาดนี้ เยี่ยมจริงๆค่ะ อยากให้เล่าถึงเรื่องเอนโดฟินบ้างนะคะ
สวัสดีค่ะ ดร.ติดตามอ่านข้อความดี ๆ อยู่บ่อยครั้ง ครั้งนี้ขอแลกเปลี่ยนจากประสบการณ์อันน้อยนิดของตัวเองนะคะ ได้มีโอกาสเข้าคอร์สอบรมโครงการธรรมชาติบำบัด ที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ 3 วัน 2 คืน โดยมีหมอปุ๋ย ชัญญา ธีระโชติ เป็นเจ้าของโครงการ ประทับใจมากค่ะ ในคอร์สนี้ นางเอกก็คือ น้ำมะพร้วมอ่อนค่ะ เป็นสูตรของชาวภารตะ ผู้นำมาเผยแพร่คือ หมอ เจ คอบ แห่งอาศรมวงศ์สนิท รังสิต คลอง16 เชื่อกันว่าน้ำมะพร้าวอ่อนเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติให้มาเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูผู้คนให้หลุดพ้นจากความทรมานจากการเจ็บป่วยได้อย่างดีทีเดียว เพราะในน้ำมะพร้าวอ่อนอุดมไปด้วยคุณค่าของสารอาหาร มีแร่ธาตุสูง สร้างสมดุลในร่างกาย รักษาระดับฮอร์โมนในร่างกาย เนื่องจากมีความรู้เพียงน้อยนิดจึงไมสามารถสาธยายได้แตกฉานทราบแต่ว่าเป็นทางเลือกหนึ่งในการล้างพิษในร่างกาย โดยการดื่มน้ำมะพร้าวอ่อน วันละ 2 ครั้ง ในช่วงท้องว่าง เวลา 10โมงเช้า และ บ่าย3 โมงเย็น สำหรับตัวเองเชื่อในหลักธรรมชาติเยียวยา ลองมาปรับใช้กับตัวเองดู ทำได้บ้างไม่ได้บ้างแต่รู้สึกดี และเห็นในคุณค่าและประโยชน์ของพืชพรรณธรรมชาติที่อยู่ใกล้ตัวที่มีให้เลือกใช้เลือกบริโภคได้อย่างสะดวกใจและปลอดภัยกับตัวเองมากเพราะประหยัดตังค์ในการดูแลสุขภาพ และไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วยเพราะร่างกายมีภูมิต้านทานโรคสูงขึ้นจากวิธีธรรมชาติบำบัด ซึ่งเดิมก็เป็นคนที่มีปัญหาในเรื่องของภูมืแพ้เช่นกัน มาถึงวันนี้รู้สึกว่าสุขภาพแข็งแรงขึ้น ไม่ค่อยมีอาการแพ้อากาศ แพ้ฝุ่น มารบกวนเวลาส่วนตัวเท่าไร ถึงแม้วิธีการอาจจะยุ่งยากสักหน่อย และต้องอาศัยเวลาที่ยาวนานแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่เชื่อว่าตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้วคุ้มค่าแน่นอน เพราะสุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง ค่ะ
สวัสดีค่ะ
-- แวะมาคุยนะจ๊ะ คิดถึงจังค่ะ
พาขี่จักรยานทั่วอำเภอ ทั้งที่เราไม่เคยขับแต่รถอย่างเดียว
แนะวิธีดีท๊อก
ใส่ถุงเท้า
กินผักและผลไม้ช่วงอาหารกลางวัน
ไม่อาบน้ำหลังกินอาหาร
ซึ่งเป็นอะไรที่เราไม่ค่อยใส่ใจเลย ทั้งที่เป็นคนสาธารณสุขเสียเอง
--ขอบคุณค่ะ คิดฮอดหลาย ๆ จ้า...