การใช้ภาพประกอบ Illustration
การจัดภาพประกอบ
ภาพประกอบเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับสื่อสิ่งพิมพ์ เพราะภาพประกอบช่วยให้สื่อสิ่งพิมพ์มีความน่าอ่านมากขึ้นและดึงดูดความสนใจได้ วัตถุประสงค์ในการใช้ภาพประกอบคือ
1. ดึงดูดความสนใจ ตามธรรมชาติของมนุษย์จะชอบดูสิ่งสวยงามมีชีวิตชีวา ภาพประกอบมีส่วนช่วยเร้าความสนใจ สื่อสิ่งพิมพ์ที่ไม่มีภาพประกอบจะไม่ดึงดูดความสนใจ การเลือกภาพต้องพิถีพิถันเพราะนอกจากจะต้องสวยงามแล้ว ภาพที่ดีนั้นจะสื่อความหมายของเนื้อหาด้วย แต่จุดประสงค์หลัก คือดึงดูดสายตาของผู้อ่านแล้วนำไปสู่เนื้อหา
2. ประกอบเรื่อง เพื่อให้ความกระจ่างในเนื้อหาหรือเรื่องราวที่ต้องทำความเข้าใจโดยใช้ภาพประกอบ เช่น แผนที่ กลไกเครื่องจักรกลต่าง ๆ ภาพกราฟแสดงสถิติ ซึ่งภาษาเขียนไม่สามารถบรรยายให้เห็นภาพได้ดีพอ
3. อธิบายเรื่อง ภาพประกอบบางภาพบอกเรื่องราวของเหตุการณ์ได้ทั้งหมด โดยมีคำอธิบายเพียงเล็กน้อย คำบรรยายอาจกลายเป็นเพียงส่วนประกอบ เช่น นิตยสารการตกแต่งบ้าน โปสเตอร์ภาพยนตร์ต่าง ๆ
4. แสดงความต่อเนื่องของเรื่องราว เป็นภาพที่ต้องการให้ผู้อ่านได้รับรสสัมผัสที่แสดงออก เช่น ความเคลื่อนไหวของบุคคลสำคัญ เหตุการณ์สะเทือนใจ ในบางกรณีอาจจะเป็นภาพการ์ตูนก็ได้ เพราะภาพเหล่านี้สามารถสื่อความหมายได้มากว่าการบรรยาย
5. ช่วยในการจัดหน้า ทำให้หน้าในหนังสือพิมพ์แต่ละหน้ามีจุดสนใจ มีชีวิตชีวา และดึงดูดความสนใจสู่เนื้อหาใกล้เคียงได้มาก จะสังเกตได้อีกว่าสื่อสิ่งพิมพ์ที่ไม่มีภาพประกอบจะไม่ชวนให้หยิบขึ้นมาอ่านเลย ในบางโอกาสนักออกแบบอาจจะออกแบบตัวอักษรโดยนำมาจัดวางเข้าเป็นชื่อเรื่อง เนื้อเรื่อง ให้มีความสวยงามลงตัว ก็สามารถทดแทนภาพประกอบได้เช่นกัน
ภาพประกอบ How to use it?
1. หลักการใช้ภาพประกอบ
ภาพที่เหมาะสมในการนำมาใช้มากที่สุดคือ ภาพที่ตรงกับเรื่องและสามารถอธิบายเนื้อเรื่อง
2. การใช้ภาพตัดตก (Bleed) คือภาพที่ล้ำออกมาจากกรอบหน้าและขยายเลยไปจนสุดแผ่นกระดาษ ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกไม่ถูกจำกัดอยู่ในกรอบและเกิดความรู้สึกต่อเนื่องกับหน้าที่อยู่ถัดไป
3. ขนาดของภาพ ขนาดของภาพที่ใช้ในสื่อสิ่งพิมพ์เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเพราะถ้าพิจารณาจากหลักทั่วไปแล้ว สิ่งใดที่มีขนาดใหญ่จะดูว่ามีความสำคัญมากกว่าสิ่งที่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งในการออกแบบก็ต้องใช้หลักเกณฑ์นี้ในการพิจารณาด้วยเช่นกัน
การกำหนดขนาดของภาพอาจมีผลต่อการออกแบบดังนี้
- การใช้ภาพที่มีขนาดใหญ่เกินไปโดยไม่จำเป็นอาจทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีหากภาพนั้นไม่มีความสำคัญ
- ต้องพิจารณาว่าภาพที่ใช้มีความสัมพันธ์กับข้อความเนื้อหามากน้อยเพียงใด
4. การบังภาพ [Cropping ] ในบางกรณีภาพถ่ายที่ได้มาเป็นภาพที่ถ่ายในระยะไกลเกินไป
ทำให้ครอบคลุมส่วนอื่นๆ ที่ไม่ต้องการติดมาด้วย ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องปิดหรือบังส่วนที่ไม่ต้องการออกไปแล้วนำภาพนั้นมาใช้เฉพาะส่วนที่ต้องการเท่านั้น
5. การคัดเลือกภาพ การคัดเลือกภาพเพื่อใช้ประกอบการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์นั้นจะต้องคิดอยู่เสมอว่างานที่เรากำลังทำอยู่นั้นคือ การเลือกใช้ภาพเพื่อทำธุรกิจ ไม่ใช่พิจารณาว่าภาพนั้นมีศิลปะหรือมีความสวยงามในแง่ของภาพถ่ายมากน้อยเพียงใด ควรเลือกภาพที่มีความหมายตรงกับเนื้อหาและเสริมเนื้อหามากที่สุด
6. การทำให้ภาพหน้าสนใจขึ้นโดยการจัดเรียงภาพ การใช้ภาพเดี่ยวในบางกรณีอาจดูไม่น่าสนใจ
หากใช้ภาพที่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องมาจัดเรียงลำดับกันขึ้น จะทำให้กลุ่มภาพนั้นดูสะดุดตา และน่าสนใจยิ่งขึ้น
7. การจัดภาพขนาดเล็กให้รวมกันเป็นกลุ่ม การใช้ภาพขนาดเล็กสอดแทรกอยู่ในเนื้อหาข้อความทั่วไปอาจไม่เป็นที่สนใจเท่าที่ควร จึงอาจพิจารณาจัดให้ภาพเหล่านั้นอยู่รวมกันเป็นกลุ่มในรูปทรงที่น่าสนใจ
8. การเร้าความสนใจในการทำภาพอาจทำให้มีความต่อเนื่อง บ่อยครั้งการใช้ภาพเพียงภาพเดียวไม่สามารถอธิบายเรื่องราวได้ทั้งหมด ไม่ว่าภาพที่ใช้จะเป็นภาพที่ดีเพียงใดก็ตาม จึงจำเป็นต้องใช้ภาพหลายภาพ มาเรียงไว้ในลักษณะคล้ายกับการจัดลำดับเป็นระยะ ๆ แต่ไม่ต่อเนื่องบนหน้าเดียวกัน เป็นการสร้างความสัมพันธ์ให้เกิดขึ้น และพัฒนาความคิดของผู้อ่านขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งในการพิจารณาใช้ภาพมาสร้างความคิดให้เกิดขึ้นเป็นลำดับนี้จะต้องพิจารณาให้ดี และต้องอธิบายเหตุผลของการใช้ภาพแต่ละภาพได้เสมอว่า ทำไมจึงใช้ภาพนั้น ๆ ต้องแน่ใจว่ามีความสอดคล้อง
และสร้างเสริมความเข้าใจในเนื้อหาได้มากขึ้น และที่สำคัญต้องไม่ใช้ภาพมากเกินไป ควรใช้ภาพน้อยที่สุด
9. ทำให้ส่วนสำคัญมองภาพเป็นที่น่าสนใจ ภาพทั้งภาพเมื่อมองดูรวมทั้งภาพอย่างผิวเผินแล้วอาจมองไม่เห็นความเด่น หรือความสำคัญของภาพนั้น อาจเป็นเพราะมีองค์ประกอบอื่นปะปนอยู่ด้วยหรือส่วนประกอบอื่นมีความเด่นมากกว่า ซึ่งในกรณีเช่นนี้ ผู้ออกแบบจะต้องมองให้ออกว่าในภาพนั้น ๆ มีส่วนใดที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหามากที่สุดและหากเห็นว่าส่วนที่เกี่ยวข้องนั้นไม่มีความเด่นพอที่จะเรียกความสนใจได้ก็จะต้องหาทางให้ภาพนั้นดูเด่นออกมา โดยใช้วิธีตัดเอาส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องออกแล้วเหลือเฉพาะส่วนที่สำคัญไว้ หรือทำให้ส่วนที่ไม่ต้องการซีดจางหรือพร่ามัวไปโยการใช้เทคนิคของการทำฟีล์ม หรือ ขบวนการทาง Photoshop บางครั้งขบวนการให้สีเฉพาะส่วนที่ต้องการเน้นต่างกับส่วนอื่นก็เป็นการเน้นที่ได้ผลเช่นกัน
การคัดเลือกภาพ
ภาพประกอบที่นำมาใช้ประกอบเนื้อเรื่องในสื่อแบบต่างๆ นอกจากจะต้องคำนึงถึงเนื้อหาแล้วยังต้องคำนึงถึงคุณภาพที่เหมาะสมสำหรับการผลิตด้วย เพราะภาพนั้นอาจจะต้องผ่านการผลิตหลายขั้นตอน ซึ่งบางงานกว่าจะสำเร็จ อาจจะทำให้ภาพที่ปรากฏบนสื่อนั้นด้อยคุณภาพลงไปได้ไม่มากก็น้อย ดังนั้นจึงควรพิจารณาเลือกรูปภาพที่มีคุณภาพเพียงพอ โดยพิจารณาจาก
องค์ประกอบดังนี้
1. ความคมชัด แสดงรายละเอียดได้หมด ภาพต้นฉบับที่จะคัดเลือกต้องมีความคมชัดพอจะทำให้ภาพประกอบเรื่องมีคุณค่าจากการสื่อความหมายและมีความสวยงาม
2. ความเข้มของสีและสิ่งที่ปรากฏในภาพ (Subject) เด่นชัด เช่น ภาพขาวดำคงมีความกระจ่าง
ของแสงเงาให้ชัดเจน เพื่อการผ่านกระบวนการ พิมพ์แล้วภาพจะยังคงความชัดอยู่
3. ขนาดของภาพ ภาพที่ใช้ควรเป็นภาพที่มีขนาดใหญ่ ถ้าใช้ภาพขนาดเล็กนำมาขยาย ภาพจะจางขาดความชัดเจน แต่ถ้าเป็นภาพขนาดใหญ่นำมาย่อให้เล็กลงไป จะให้รายละเอียดที่คมชัดกว่าเมื่อผลิตออกมา
4. ความมันเงา ภาพที่เป็นเงามันมักจะมีคุณสมบัติดี เมื่อผ่านขั้นตอนการพิมพ์ ส่วนภาพที่มีผิวด้านเมื่อพิมพ์ไปแล้วจะขาดความคมชัดในรายละเอียดบางอย่าง
กฎเบื้องต้นของการจัดภาพ
1. ภาพใกล้ควรอยู่ใกล้ ๆ ผู้อ่าน เช่นด้านล่างของหน้า ภาพไกลควรอยู่ไกลออกไป เช่น ด้านบนของหน้า
2. ภาพที่จัดควรมีความลึก (Depth) ความกว้าง (wide) และมีมิติที่เข้ากันได้ เพื่อจัดภาพเกินกว่า 2 ภาพในหน้าเดียวกัน
3. ภาพมีลักษณะใกล้เคียงกัน เมื่อจัดในหน้าเดียวกันอาจทำให้ไม่มีสิ่งที่น่าสนใจ ควรจัดให้มีภาพที่เด่นเพียงภาพเดียว
4. การจัดภาพในหน้าเดียวให้เกิดการเคลื่อนไหว (Movement) มีชีวิตชีวา (lively) ภาพที่มีลักษณะแข็งตรึงแน่น หรือสิ่งของ เป็นภาพที่จัดให้เกิดชีวิตชีวาได้ยากกว่าการจัดภาพของคน และสัตว์
ไม่มีความเห็น