เครือข่ายการผลิต การตลาดสินค้าเกษตร..เพื่อขายสินค้าไม่ง่าย..แต่ต้องร่วมใจกันขับเคลื่อน
การผลิตสินค้าเกษตรที่ผ่านมาส่วนใหญ่คนซื้อ จะเป็นผู้ตั้งราคา จึงทำให้เกษตรกรผู้ผลิตเสียเปรียบไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทางภาครัฐพยายามให้เกิดการรวมกลุ่มเพื่อให้มีอำนาจในการต่อรองโดยยึดหลัก “เกษตรกรผู้ผลิตอยู่ได้ พ่อค้าผู้ซื้อก็อยู่ได้” เพราะถ้าเกษตรกรผู้ผลิตขาดทุนไม่สามารถผลิตได้ พ่อค้าก็จะอยู่ไม่ได้เช่นกัน
วันที่ 8 ก.ค. 51 ผมได้เข้าร่วมประชุมกลุ่มเครือข่ายกลุ่มการผลิต การตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัยระดับจังหวัด ณ สำนักงานเกษตรจังหวัดน่าน มีผู้นำกลุ่มเครือข่ายและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรื่อง การขาย ลำไย เบื้องต้นในแต่ละพื้นที่ได้มีการเก็บลำไยพันธุ์อีดอ ขายบ้างแล้ว ซึ่งปีนี้มี ฝนตกต่อเนื่องทำให้ลำไยแก่เร็ว โดยขายราคารวม กิโลกรัมละ 8-11 บาท สำหรับลำไยของจังหวัดน่านขนาดของผลใหญ่อาจจะไม่เท่า ลำพูน เชียงใหม่ แต่คุณภาพด้านเนื้อลำไยอาจจะดีกว่า .จากข้อมูลการคาดคะเนผลผลิตลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ปี 2550-2551 จะมีผลผลิตประมาณ 370,493 ตัน ลดลงร้อยละ 15.17 ของปีที่แล้ว ในส่วนของจังหวัดน่าน ผลผลิตประมาณ 13,734 ตันลดลงร้อยละ 20.33 จากผลผลิตที่ลดลง ผู้นำกลุ่มเครือข่ายแต่ละท่านคาดหวังว่าราคาน่าจะสูงกว่าปีที่แล้ว และจะได้นำรับข้อมูลราคารับซื้อ ไปแจ้งแก่สมาชิกกลุ่มเครือข่ายระดับอำเภอต่อไป
ในการประชุมครั้งนี้ ได้เชิญผู้รับซื้อลำไยมาพบกลุ่มเครือข่ายของจังหวัดน่าน โดยมี ผู้แทนบริษัทขันดีการเกษตร จำกัด จากจังหวัดลำพูน ซึ่งทำธุรกิจการตลาดสินค้าเกษตร ส่งลำไยอบแห้งไปขายประเทศจีน มาร่วมตกลงรับซื้อ จากการชี้แจงของบริษัทยังไม่ชัดเจนมากนักเพราะต้องรอกำหนดราคาซื้อในวันที่ 15 ก.ค. 51 แต่ในเบื้องต้นได้ตั้งราคาอบแห้งแล้ว ไม่ต่ำกว่า 50 - 35 -15 บาทต่อกิโลกรัม (เกรด เอ เอ - เอ - บี) ซึ่งข้อเท็จจริงเกษตรกรต้องการขายลำไยสด จากการสังเกตพบว่าบริษัทยังไม่มีความพร้อมในการรับซื้อเพราะเริ่มเข้ามาในจังหวัดน่านเป็นครั้งแรกยังติดกับกลไกลหรือกลยุทธ์ของพ่อค้าท้องถิ่น จุดรับซื้อ ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะตกลงกันได้ ความหวังที่จะขายให้กับผู้ส่งออกโดยตรงต้องชะงัก !
สหกรณ์มาช่วยทัน ! นอกจากบริษัทขันดี มาร่วมแล้วยังได้เชิญสหกรณ์การเกษตรมาเป็นเครือข่ายในการรับซื้อด้วย โดยเฉพาะสหกรณ์การเกษตรท่าวังผาที่เข้าร่วมในช่วงบ่ายโดยผู้จัดการใหญ่ คุณวินัย หารต๊ะ ได้ประชุมคณะกรรมการ และมีการเตรียมการเปิดรับซื้อลำไยสดร่วง ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2551 เป็นต้นไป กำหนดราคารับซื้อเริ่มต้นอยู่ที่ เกรด 16 - 10 - 6 บาทต่อกิโลกรัม และคาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นในลำดับต่อไป เพราะผลผลิตปีนี้ปริมาณลดลง ปกติจะรับซื้อจากสมาชิกเป็นหลักปีนี้รับซื้อทั่วไปโดยเฉพาะเครือข่ายสินค้าเกษตรปลอดภัยจังหวัดน่าน จึงเป็นความหวังของเกษตรกรชาวน่านได้มีแหล่งขายผลผลิตลำไย ..นี่แหละ..ถึงได้รับรางวัลสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2532 , 2540 , 2550 ...ถ้าเครือข่ายจะประสบผลสำเร็จต้องมี...การรวมกลุ่มที่เข็มแข็ง ข้อมูลการผลผลิตที่ชัดเจน คุณภาพสินค้าได้มาตรฐานและปลอดภัย เครือข่ายการผลิต การตลาด พึ่งพาซึ่งกันและกัน ทุกกลุ่มองค์กรจะอยู่ได้อย่างยั่งยืนแน่นอน......ครับ !!!!!
นายสิทธิ์ วัลลภาชัย รก.เกษตรจังหวัดน่าน เป็นประธานประชุมกลุ่มเครือข่ายกลุ่มการผลิต การตลาดสินค้าเกษตร
ปลอดภัยจังหวัดน่าน โดยมีผู้นำกลุ่ม เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมแลกเปลี่ยน "เรื่องการรับซื้อรับลำไยกลุ่มเครือข่าย"
ตัวแทนบริษัทขันดีการเกษตร จำกัด ชี้แจงธุรกิจของบริษัทและการรับซื้อลำไย
นายวินัย หารเต๊ะ ผู้จัดการใหญ่สหกรณ์การเกษตรท่าวังผา จำกัด ชี้แจงการรับซื้อลำไยกับกลุ่มเครือข่ายฯ จังหวัดน่าน