Globalization How Real are the people Challenges? [การบ้าน ศ.ดร. จีระ หงส์ลดารมภ์ ]


สิ่งที่น่ากลัวในโลกไร้พรมแดน คือการหลั่งไหลของวัฒนธรรมข้ามชาติ และค่านิยม โดยไม่ได้มองย้อนกลับมาถึงสภาวะสังคมในแต่ละท้องถิ่นทำให้ถูกวัฒนธรรมข้ามชาติกลืนกินความเป็นตัวตนเองประทเศนั้นๆ แต่ในทางกลับกัน การเข้าสู่ยุคไร้พรมแดนก็ก่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างผสมผสาน เกิดการถ่ายโอนเทคโนโลยีใหม่ๆ การเปิดช่องทางการค้าอย่างเสรี

 

HR เป็นส่วนสำคัญในการแข่งขันในตลาดเสรี โดยการวางแผนมองภาพการค้าจากศักยภาพของสินค้าที่มีอยู่ให้รองรับความต้องการที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น  สิ่งสำคัญของ HR คือการได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารในการพัฒนาคน พัฒนาระบบงาน ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารให้มีความเป็นมาตรฐาน มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคนในองค์กรให้มีความเท่าเทียมกัน สามารถทำงานทดแทนกันได้ และมีมาตราฐานการทำงานที่จะส่งผลให้เกิดความพึงพอใจจากลูกค้า การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาอย่างมืออาชีพ การถ่ายทอดประสบการณ์ การเรียนรู้จาก Tacit knowledge ของคนเก่งในองค์กร การเรียนรู้จาก case study จากข้อผิดพลาดในองค์กรเพื่อป้องกันและพัมฯ การเรียนรู้ case ต่างๆจากองค์กรที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อสเรียนรู้ พัฒนา สร้างสรรค์นวัตกรรมให้องค์กรดำเนินไปได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ธุรกิจขยายตัวออกนอกประเทศและเข้าสู่ระดับสากล HR จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง บริษัทจะอาศัยแต่แบรนด์อย่างเดียวไม่ได้ ต้องสามารถบริหารบุคลกรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย และยังต้องสามารถสอนให้คนที่มีประสบการณ์น้อยกว่าเข้าใจและสามารถบริหารงานทดแทนกันได้ บริษัทต้องสร้างระบบของตัวเองดีกว่าไปตามหาบุคคลภายนอกที่ประสบความสำเร็จมาบริหาร ซึ่งคนบริหารจากองค์กรอื่นไม่สามารถบริหารบริษัทได้เท่าที่ควร เพราะขาดความเข้าใจในระบบและคนของของบริษัท การบริหารธุรกิจสมัยใหม่ต้องมีความเข้าใจทั้งคนท้องถิ่น และสามารถพัฒนาองค์กรเข้าสู่ระดับสาลอีกด้วย ธุรกิจสมัยใหม่มีโครงสร้างที่สลับซับซ้อนมากขึ้น HR จึงเป็นตัวกลางสำคัญที่เข้ามาช่วยบริหารบุคคลในองค์กรให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้นเพราะ การทำธุรกิจสมัยใหม่นั้นนอกจากจะต้องทำคุณภาพของผลงานแล้วยังต้องบริหารคนหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรมที่ต่างกันให้ทำงานร่วมกันได้อีกด้วย

 

 

Globalization How Real are the people Challenges?

การที่เราเปิดโลกเสรีอย่างเต็มที่ อาจเรียกได้ว่าเป็นปรากฎการณ์ภาวะโลกร้อน บางคนเรียกว่ามันเป็นการนำเข้ามาถึงวัฒนธรรมการกินอยุ่อย่างเอเมริกันมากกว่า ทุกวันนี้โลกทั้งโลกได้ถูกครอบงำโดยแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ของอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นแมคโดนอลด์ อเมริกันดรีม (AF บ้านเราน่ะแหละ), ไฮไฟว์, โค้ก Naomi หนึ่งในผู้ที่ร่วมต่อต้าน การเปิดโลกอย่างเสรีได้กล่าวว่า การผสมผสาน product ระหว่างประเทศนั้นไม่ได้ต้องการความแปลกใหม่หรือความหลากหลาย ศัตรูตัวฉกาจของมันก็คือ ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นนั่นเอง Greg Dyke  ได้กล่าวไว้ว่าการที่โลกเราเปิดเสรีมีอิสระและเป็นการ share วัฒนธรรม และการค้าร่วมกันรึ เปล่าเลย เราถูกครอบงำโดยอเมริกาซะมากกว่า วิถีชีวิตอเมริกันนั้น อาจดูได้ผลเป็นอย่างดีก็แต่ในประเทศอเมริกาเองเท่านั้น

 

ในทางตรงกันข้ามก็ยังมีคนออกมาให้ความเห็นว่าจากสถิติบอกได้ว่าการบริหารงานและทำการค้าเฉพาะภายในประเทศ และค้าขายเฉพาะภายในประเทศเท่านั้นเป็นการทำให้ธุรกิจนั้นเจริญเติบโต และขยายได้ช้า

 

จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 จะเห็นได้ว่าการแข่งขันทางการค้า และเทคโนโลยีเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีอิสระมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามโลกแห่งการค้าเสรีแบบทุนนิยม ก็เปรียบเสมือนระเบิดเวลาสำหรับประเทศที่ความคิดแบบยึดถือวัฒนธรรมแบบเดิมๆ

 

การระดมสมอง

การระดมสมองระหว่างประเทศทำให้เกิดไอเดียใหม่การแก้ไขปัญหาที่หลากหลาย ทำให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆมากมาย รวมถึงการแก้ปัญหากับภาวะการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอของคนในยุคนี้

 

สำหรับ Janet แล้ว แผนการระดมสมองมี 2 แผน คือ

1.      หาแนวทางให้หลากหลายมากขึ้น

2.      ผลักดันโลกให้ตามแนวทางของตนเอง

 

 

และยังแบ่งกระแสที่ทำให้โลกเปลี่ยนแปลงออกเป็น 7 อย่างที่ทำให้เกิดการพัฒนาของโลกใบนี้

1.      การแข่งขันเพราะเราไม่ได้เจอแต่คู่แข่งหน้าเดิมๆ

2.      รู้หนทางที่ดีมากขึ้นกว่าเดิม

3.      อุปสรรคใหม่ๆ ที่ได้พบเจอ

4.      การผลิตจากประเทศโลก 3 ที่อาจจะทำให้ได้เปรียบมากกว่า

5.      มีข้อมูลทางการค้าทางการตลาดโลก ที่มีความหลากหลายมากขึ้น

6.      อาจเป็นการหาลูกค้าใหม่ๆ เผื่อว่าลูกค้าใหม่ในต่างประเทศอาจชอบความแปลกใหม่

7.      ธุรกิจของเราที่เป็นคู่แข่งกันนั้น เป็นธุรกิจระหว่างประเทศด้วยรึเปล่า

 

การระดมสมองทางการคิดนอกจากจะเป็นการระดมความคิดแล้วยังเป็นการทำให้คนมองเห็นในมุมมองใหม่ที่แต่งตากออกไปอีกด้วย

 

แล้ว HR จะช่วยในการแข่งขันแบบเสรีแบบนี้ได้อย่างไรบ้าง

HR สามารถนำคนที่มีความสนใจ ในเรื่องเดียวกัน ในแต่ละประเทศมาทำงานร่วมกันเพื่อให้มีประสิทธิฺภาพมากขึ้นได้ โดยแบ่งได้ 3 อย่าง

1.      ใช้แผนเศรฐกิจของตัวเองไปปรับใช้ในต่างประเทศ

2.      ขยายธุรกิจครอบครัวให้ใหญ่ขึ้น

3.      ดูความต้องการลูกค้าจากหลายๆ ประเทศเพื่อปรับโครงสร้างของบริษัทให้เหมาะสม

ความหลากหลายทางการค้าและบริการทำให้บริษัท หลายบริษัทต้องปิดตัวลง ทำให้เกิดการรวมองค์กร ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากองค์กรเล็กๆ เป็นบริษัทที่ใหญ่ขึ้น บางครั้งถึงกับเป็นศูนย์กลางในการผลักดันเลยทีเดียว มีการถ่ายถอดโครงสร้าง และแผนงานต่างๆ

 

โลกใบนี้ไม่เพียงพอ

 

จากหนังเรื่องเจมส์บอนด์ในปี ค.ศ. 1999  เจมส์บอนด์ในภาค World is not enough โลกก็เป็นเฉกเช่นเดียวกับหนังเรื่องนั้นจริงๆ  ไม่มีอะไรที่เรียบง่ายอีกต่อไปแล้ว

ในปี 2001 นิตยาสาร Fortune ได้ตีพิมพ์เกี่ยวกับบริษัท Worldcom ที่ทิ้งผู้ลงทุน ซึ่งตอนนั้นหุ้นตกลงไปถึง 99.7%  ยังมีกรณีของ Jean- Marie Masseier ผู้ก่อตั้ง J6M.com ซึ่ง กิจการของ J6M.com ได้เจริญอย่างรวดเร็วและตกต่ำอย่างรวดเร็วเหมือนกับอณาจักรโรมัน

ในปี 1996  Jean-Marie ได้เป็น CEO ของ Vivendi บริหารงานให้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วภายใน5 ปี ให้เป็นบริษัทรัดับอินเตอร์ขึ้นจากเดิมเป็นบริษัทใหญ่แค่ภายในประเทศ แต่ขณะเดียวกันก็ได้ก่อหนี้มหาศาลถึง 19 ร้านเหรียญสหรัฐแต่บอร์ดบริหารก็ยังหนุนหลังเขาอยู่ สุดท้าย แผนของ Messeier ก็ถือได้ว่าเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ทำให้เป็นหนี้นานเข้าไปอีกถึง 14 ปีเลยทีเดียว แล้วบอร์ดบริหารที่ สนับสนุนเขาก็ได้ลาออกไป แล้วในที่สุดบริษัท J6M.com ก็ถึงกาลอวสานในที่สุด

 

Wall Street journal ได้กล่าวว่า ความผิดพลาดของเขาเป็นเพราะเขาเป็นจุดสนใจของคนมากเกินไป มีสื่อที่เขาไปยุ่งเกี่ยวมากมายไปหมดแล้วเขา ก็ชอบที่จะทำตัวให้เป็นข่าวอีกด้วย มันทำให้เหมือนกับว่าตื่นมาทุกเช้าก็ต้องเจอหน้าเขาทุกวันไม่ว่าจะจากทีวี หรือหนังสือพิมพ์

 

ในไตรมาสแรกของปี 2002 AOL Time Warner เป็นอีกรายที่สูยเสียมากที่สุดถึง 1.1 พันล้าน นี่เป็นผลที่ว่าทำไมการรวมบริษัทถึงไม่ได้ทำให้เกิดรายได้มากขึ้น แถมยังขาดทุนและทำให้ราคาหุ้นตกต่ำ

 

Barry Diller CEO ของ US Network 1 ในคนที่ร่วมลงเรือไปกับ บริษัท Vivendi ได้ให้สัมภาษณ์ว่าการทำธุรกิจที่ทำด้วยตัวเองแต่ไม่ได้ร่วมกับองค์กรอื่นไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก ควรจะหลีกเหลี่ยง แต่ถ้าทำก็ต้องรอความสำเร็จอย่างยาวนาน

 

Ventures Aboard ได้เข้าสู่ตลาดระดับโลกครั้งแรก บริษัทได้บิรหารงานแต่ในส่วนของภูมิภาคตนเองมายาวนานถึง 100 ปี บริษัทได้พัฒนาตัวเองจากบริษัทประกันขนาดใหญ่ในภูมิภาคของตนเองมาเป็น บริษัทบริหารการเงินระดับโลก และแล้วบริษัทก็กลายเป็นปลาตัวใหญ่ที่ชินกับการแข่งขันขนาดใหญ่

การรวมบริษัทอาจไม่ได้สวยหรูอย่างที่ใครๆ คิดปัจจัยสำคัญคืออยู่ที่การบริหารคนเพราะแผนงานโครงสร้างที่ดีแต่มีบุคลากรที่ต่างกันก็ทำให้เกิดผลต่างกันทรัพยากรมนุษย์จึงสำคัญยิ่ง

 

โดยปัจจัยที่จะช่วยให้ HR มีประสิทธิภาพมีด้วยกันหลายประการเช่น ผู้บริหารเข้าใจโครงสร้างและเป้าหมายของบริษัทอย่างแจ่มแจ้งหรือไม่ เราเลือกคนที่ไปบริหารได้ดีพอรึเปล่า เราสมารถบริหารองค์กระดับโลกซึ่งสามารถเอาชนะความแตกต่างของบริษัทต่างได้หรือไม่ เราสามารถผลิตกำไรได้ตามที่ผู้ร่วมลงทุนคาดไว้รึเปล่า เราสามรถเข้าใจถึงความต้องการและความแตกต่างคนในท้องถิ่นที่เราเอาระบบเข้าไปบริหารเขาหรือไม่ จากปัจจัยดังกล่าว HR จะเข้าไปช่วยทำให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้นจะเห็นได้ว่า HR ได้มามีส่วนสำคัญยิ่ง

 

การขยายธุรกิจจากระบบครอบครัวไปสุ่ระบบอินเตอร์เนชั่นแนล

KB เป็นตัวอย่างของบริษัทที่ประสบความสำเร็จ จากธุรกิจภายในครอบครัว ขยายสู่ต่างชาติโดยเป็นบริษัทเบียร์ที่มีผลประกอบการขายเป็นอันดับ 3 ของสหรัฐอเมริกาโดยใช้วิธีการผลิตกระป๋องและขวดจากต่างประเทศ แต่ตัวเบียร์นั้นยังทำมาจากที่เดิมเพื่อให้รสชาติยังคงเป็นรสชาติเดิม แต่ศตรวรรษที่ 21 ก็มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำให้รสชาติในการทำเบียร์แตกต่างกันไม่มากนัก KB จึงได้นำวิธีการคล้ายบริษัทเบียร์ในยุโรปสร้างแบรนด์ของตัวเองและขยายกิจการ เพื่อเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น

 

ผลของการขยายกิจการ KB ไม่สามารถนำโครงสร้างแบบของบริษัท KB เองไปใช้กับบริษัทที่เข้าไปควบกิจการได้ ในทางตรงกันข้ามบริษัทในยุโรปที่รวบกิจการนั้นได้เปลี่ยนเข้าของบ่อยครั้ง

 

HR ต้องเข้าไปแก้ปัญหาอะไรบ้าง

ทำอย่างไรให้ให้สามารถเปลี่ยนแบรนด์จากยุโรปให้มาเป็นอเมริกันได้ (คนยุโรปย่อมเชื่อว่าเบียร์ของตนย่อมดีกว่า)

ทำอย่างไรให้แบรนด์ของตัวเองเป็นแบรนด์ชั้นนำของโลก เพราะบริษัทอย่าง KB เองก็ไม่เคยออกมาขายนอกประเทศมาก่อน

จะปรับปรุงโครงสร้างที่ทำกันมากว่า 100 ปีได้อย่างไรบ้าง

ทำอย่างไรให้เปลี่ยนระบบที่มีให้เป็นระบบสากลมากขึ้น

ทำอย่างไรให้ผู้บริหารแต่ละที่สามารถยริหารงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทำอย่างไรให้ HR เข้าไปบริหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เข้าไปพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

การรับมือกับการความต้องการของลูกค้าระดับโลก

มีตัวอย่างของบริษัท IC จากสวีเดนซึ่งประสบความสำเร็จมาแล้วจากระบบ customer service ในธุรกิจ IT ตอนนั้นบริษัทพวก It และ สิ่งพิมพ์ กำลังขยายและมาแรงพอสมควรบริษัท IC เลยเปิดเป็นบริษัท outsource ทำหน้าที่ เป้น customer service ของ IT และสิ่งพิมพ์ มีสาขาในเอเชียและยุโรป ภายใน 5 ปี บริษัท IC

มากกว่า 8 ประเทศ และยังคงสามารถรักษามาตรฐานรวมถึงยังขยายกิจการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

อุปสรรคที่บริษัทต้องเจอ

ไม่นานบริษัท Blue-chip ซึ่งมีเงินทุนที่หนากว่าเห็นโอกาสและเริ่มเข้ามาทำธุรกิจในลักษณะเดียวกัน บริษัท IC จึงปรับปรุงอย่างรวดเร็วเพื่อสู้กับบริษัทอื่นๆ บริษัท IC ได้พัฒนาตัวเองให้ก้าวสู่ระดับการแก้ปัญหาที่เป็นสากลมากขึ้นโดยมีการนำการขายมาร่วมด้วย อีกทั้งยังมีการแก้ปัญหาผ่านทางเว็บมีบริการให้ข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ และมีการให้จ่ายเงินผ่านระบบทางอินเตอร์เน็ต  อย่างไรก็ตามในสาขาในต่างประเทศเริ่มมีการแต่งตั้งผู้จัดการที่ขาดประสบการณ์ทำให้ธุรกิจเริ่มมีผลกระทบ ดังนั้นบริษัทจึงต้องหาทางแก้ปํญหา ต้องทำให้คนที่มีความรู้แต่เรื่อง IT รู้เรื่องการเงิน และคนที่รู้เรื่องเงินสามารถคุมคนทำ IT ได้

 

HR ได้มีเป้าหมายเข้ามาช่วยเหลือและปรับปรุง

1.      เข้ามาแก้ปัญหาคนที่มีพรสวรรค์ แต่ขาดประสบการณ์ในต่างประเทศ โดยพัฒนาระบบให้มีการให้ความรู้ผู้บริหารเหล่านั้น

2.      เข้ามาแก้ปัญหาจากการขาย และ Tech support ให้กลายเป็นการบริการที่สมบูรณ์แบบและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและผู้บริการให้ดียิ่งขึ้น

3.      พยายาม แก้ไขปัญหาให้ผู้บริหารเก่งที่อยู่ในบริษัทไม่ถูกซื้อตัวโดยบริษัทอื่นได้ง่าย

4.      แก้ปัญหาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนของอื่นให้มากขึ้น

5.      ให้บุคลากรที่มีความสามารถสอนการบริหารให้ลูกน้องทำให้ลูกน้องที่ขึ้นมาทำต่อสามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่แพ้กัน

6.      สร้างแรงกระตุ้นให้ฝ่ายขายโดยเพิ่มค่า commission

 

บริษัทได้บริหารงานโดยจ้าง Tech support, Customer service, และ HR จากข้างนอก แต่ผู้บริหารและผู้จัดการระดับสูงใช้คนของบริษัทเอง บริษัทได้ขยายกิจการใหญ่โตมากขึ้นไปเรื่อย โดยบริษัท IC สามารถบริหารงาน และบริหารความแตกต่างระหว่างคนท้องถิ่นกับความเป็นสากลของบริษัท

 

ธุรกิจขยายตัวออกนอกประเทศและเข้าสู่ระดับสากล HR จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง บริษัทจะอาศัยแต่แบรนด์อย่างเดียวไม่ได้ ต้องสามารถบริหารบุคลกรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย และยังต้องสามารถสอนให้คนที่มีประสบการณ์น้อยกว่าเข้าใจและสามารถบริหารงานทดแทนกันได้ บริษัทต้องสร้างระบบของตัวเองดีกว่าไปตามหาบุคคลภายนอกที่ประสบความสำเร็จมาบริหาร ซึ่งคนบริหารจากองค์กรอื่นไม่สามารถบริหารบริษัทได้เท่าที่ควร เพราะขาดความเข้าใจในระบบและคนของของบริษัท การบริหารธุรกิจสมัยใหม่ต้องมีความเข้าใจทั้งคนท้องถิ่น และสามารถพัฒนาองค์กรเข้าสู่ระดับสาลอีกด้วย ธุรกิจสมัยใหม่มีโครงสร้างที่สลับซับซ้อนมากขึ้น HR จึงเป็นตัวกลางสำคัญที่เข้ามาช่วยบริหารบุคคลในองค์กรให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้นเพราะ การทำธุรกิจสมัยใหม่นั้นนอกจากจะต้องทำคุณภาพของผลงานแล้วยังต้องบริหารคนหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรมที่ต่างกันให้ทำงานร่วมกันได้อีกด้วย

 

 ปล.ขอบคุณกุ๊กเก่งน้องรักสำหรับคำปรึกษา

คำสำคัญ (Tags): #hr#phd
หมายเลขบันทึก: 192179เขียนเมื่อ 4 กรกฎาคม 2008 17:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม 2012 14:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท